ส่องวัตถุมงคลคู่กายทายาท 'ขุนพันธ์' คุณณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช

หากนับตั้งแต่ปีเกิดของขุนพันธรักษ์ราชเดช ถึงปัจจุบันนับได้ 125 ปี เรื่องราวกล่าวขาน ฉากชีวิตที่ผ่ามา ยังคงบอกต่อในกลุ่มคนผู้มีความเชื่อไสยเวท และความศรัทธาในพุทธาคม หนังสือหนังหา ข้อมูลโซเชี่ยล ที่เกี่ยวข้องกับขุนพันธ์ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งและเป็นส่วนใหญ่มาจากคนในครอบครัว อย่าง คุณณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช หรือ ที่ผู้คนใกล้ชิด หรือ คุ้นเคย เรียกท่านว่า คุณอาหนุ่ย คุณพ่อหนุ่ย 

ในงานการหล่อรูปเหมือนชุดนายพลเต็มยศวาระ 125 ปี ชาตกาล ของขุนพันธ์ ผมได้มีโอกาสพบกับ คุณพ่อ ( เรียกคุณณสรรค์) ครั้งแรก ตลอดเวลาที่ติดตาม ศึกษาข้อมูลผ่านการบอกเล่าของท่านในโซเชียลมีเดีย สัมผัสแรกที่ไปพบเจอ คุณณสรรค์ เป็นผู้สืบทอดอย่างแท้จริงจากขุนพันธ์ ประกายกล้าเข้มขลัง ฉายออกมาจากแววตา แววตาที่เคยพบเห็นจากครูบาอาจารย์ในสายอิทธิฤทธิ์หลายรูป (สายอิทธิฤทธิ์ หมายถึง พระสงฆ์ที่เชี่ยวชาญในด้านพุทธาคม) 

เมื่อพิธีการเสร็จสำเร็จ ผมกับสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้พูดคุยเรื่องราวต่างๆ ซึ่งแน่นอน หนีไม่พ้นเรื่องราวของขุนพันธ์ ในจังหวะหนึ่ง นักข่าวอาวุโส ได้เอ่ยถามถึงพระเครื่อง ที่สังเกตได้ว่า มีอยู่หลายองค์ในคอคุณณสรรค์ว่า มีพระอะไรบ้าง มีองค์ไหนน่าสนใจ คุณณสรรค์ ก็ล้วงคอเสื้อดึงสร้อยพระออกมา จนเห็นว่ามีพระเครื่องนับสิบองค์ แต่ละองค์มีความน่าสนใจ ในมุมของนักสะสมและสนใจพระเครื่องอย่างผม รวมทั้งในหลายสิบองค์นั้น มีสมบัติตกทอดจากขุนพันธ์จำนวน 4 องค์ 

ที่สะดุดตาอย่างแรก คือ วัตถุทรงกลม เป็นประธานของสร้อย คุณณสรรค์ เรียกว่า ปรอทกรอ ส่วนที่มาที่ไปไม่ทราบได้ แต่เป็นหนึ่งในชิ้นที่ส่งทอดมาจากขุนพันธ์ สำหรับ ปรอทกรอนั้นไม่ใช่ของธรรมดา แต่มักจะเป็นของขลัง เช่น เหล็กไหล หรือ ปรอทสำเร็จ ซึ่งปรอทสำเร็จคือของขลังอย่างหนึ่งของคนโบราณ ได้จากการเล่นแร่แปรธาตุ หายากมากเพราะว่าคนที่ทำมักจะตายเพราะพิษปรอทก่อนที่จะทำสำเร็จ

วัตถุประสงค์ของการสร้างปรอทกรอในสมัยโบราณ ตามข้อมูลที่มีระบุไว้นั้น ก็คือการสร้างขึ้นเพื่อใช้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง รวมถึงโจรผู้ร้ายที่คิดจะมาโขมยของในวัดเมื่อมีโขมยหรือสิ่งผิดปกติเข้ามาปรอทกรอก็จะส่งเสียงดังหรือ ที่เรียกกันว่า ปรอทกรอวิ่ง
 

ภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็กไหล หรือปรอทเรียก หรือ ปรอทสำเร็จ ที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอาเป็นส่วนผสมของลูกกลมเล็กๆด้านในปรอทกรอ โดยนำเอามาหุงและหล่อเป็นลูกปรอทกายสิทธิ์ ฉนั้นเวลาเขย่าปรอทกรอจะมีเสียงคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างในปรอทกรอนั่นก็คือลูกกลมเล็กๆที่ว่านี่เอง  ปรอทกรอเป็นของเก่าแก่ มักพบตามวัดเก่า เจดีย์โบราณ กรุพระ ฐานพระพุทธรูป หรือใต้โบสถ์ และแถวกำแพงเมืองเก่า เป็นต้น 

อีกหนึ่งชิ้นที่น่าสนใจสำหรับผม คือ พระพุทธสิหิงค์ วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จัดสร้างในปี 2517 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2517จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการสมทบทุนสร้างอาคารพิพิธภัณฑสถานองค์พระมหาธาตุ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นประธานฝ่ายพิธีกรรม โดยได้กำหนดพิธีพุทธาภิเษกอย่างสมบูรณ์แบบ  ฤกษ์หลอมนวโลหะครั้งแรก วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2517 เวลา 03.00น. ณ มณฑลพิธีหน้าองค์พระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุฯฤกษ์หลอมนวโลหะครั้งที่สอง วันที่ 20 ก.ค. 2517 เวลา 07.50น. ณ มณฑลพิธีหน้าองค์พระบรมธาตุ วัดพระมหาธาตุฯ

ฤกษ์ลงพระยันต์ในแผ่นโลหะ วันที่ 21ก.ค. 2517 เวลา 02.00น. ในพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตฯ
ฤกษ์จุดเทียนชัย วันที่ 24 ก.ค. 2517 เวลา 14.00น. ในพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุฯ
ฤกษ์ทรงเททองหล่อ วันที่ 26 ส.ค. 2517 เวลา 11.09น. ณ บริเวณมณฑลพิธีหน้าพระวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุฯ
ฤกษ์เคลื่อนพระจากมณฑลพิธีสู่มณฑลพิธีปลุกเสก วันที่ 28 ส.ค. 2517
มีพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 35 วัน ตั้งแต่ 24-28 ส.ค. พระเกจิอาจารย์ดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และจังหวัดพัทลุง เจริญพระพุทธมนต์ปลุกเสกตลอดเวลา