
ไสยเวทของเขมร ต้นตำรับวิชาอาคมไสยศาสตร์มนต์ดำ ที่รุนแรงที่สุด
รู้จัก "ไสยเวทของเขมร" ต้นตำรับวิชาอาคมไสยศาสตร์มนต์ดำ ที่ร่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์และรุนแรงที่สุด พลังลี้ลับในเงามืดของความเชื่อ
มนต์ดำเขมร ถือเป็นหนึ่งในศาสตร์ไสยเวทที่ลึกลับและทรงอานุภาพมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทั้งด้านเมตตามหานิยม และด้านมืดเพื่อทำร้ายศัตรู ไสยศาสตร์เขมร เวทมนต์อาถรรพ์ที่ร่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์และรุนแรงที่สุด มีประเภทของมนต์ดำที่เป็นที่รู้จัก อยู่หลากหลาย
เสน่ห์ยาแฝด / กะลาตาเดียว
- ใช้เสกให้คนรักคนหลง ใช้ของจากศพ เช่น น้ำมันพราย, ชิ้นส่วนมนุษย์
- นิยมใส่ในเครื่องราง หรือปลุกเสกใส่ของกิน
ยันต์ผี
- เขียนด้วยเลือด หรือน้ำมันมนุษย์ นิยมใช้ในของขลังหรือผ้ายันต์
- ใช้ปลุกของให้มีวิญญาณสิง
พิธีส่งของ (ของใส่คน)
- ใช้ตุ๊กตา ผงพราย น้ำมันพราย หรือของเสนียดอื่นๆ ฝังดิน หรือเสกใส่ศัตรู
- มักใช้โดยหมอผีหรือคนมีเวทย์สูง
1. คูนไสย (Koun Say) – ผู้ทรงอำนาจในโลกมืด
ในเขมร "คูนไสย" คือผู้ประกอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ขั้นสูง หรือ "หมอผี" ผู้มีวิชาอาคม สามารถร่ายมนต์ เรียกวิญญาณ เสกเครื่องราง หรือส่งคุณไสยใส่ศัตรูได้ โดยเฉพาะ "เวทย์ดำ" เช่น
- การสาปแช่งให้คนเจ็บป่วย ตาย หรือเป็นบ้า
- พิธีเรียกผีมาสิงศัตรูให้หวาดผวา
- เสกของกิน-ของใช้ ให้เกิดความรัก ความหลง หรือแม้แต่ตายอย่างลึกลับ
2. เครื่องราง-ของขลังต้องห้าม
- ผ้ายันต์เขมร: ลงอักขระด้วยเลือดหรือน้ำมันพราย
- วัตถุมงคลสายดำ: ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก ต้องใช้คู่กับพิธีปลุกเสกเฉพาะทาง
- น้ำมันพราย / น้ำมันเสน่ห์: ใช้เสกให้คนรัก หลง หรือใช้ในการล่อลวงทางเพศ
3. ผีเขมร และการบูชาสิ่งลี้ลับ
- ผีในความเชื่อของเขมรมีทั้ง “ผีดี” ที่ให้โชค (เช่น ผีครู ผีบรรพบุรุษ) และ “ผีร้าย” เช่น
- ผีกะ (ลักษณะคล้ายวิญญาณเร่ร่อน ทำร้ายคนกลางคืน)
- ผีเปรต/ผีกินตับ: ถูกเรียกมาจากพิธีกรรมเพื่อทำร้ายศัตรู
4. ความน่ากลัวและอาถรรพ์
มีรายงานหลายกรณีเกี่ยวกับผู้ที่โดน “คุณไสย” เล่นของ
- เจ็บป่วยหาสาเหตุไม่ได้
- ถูกตามหลอกหลอนกลางคืน
- เห็นภาพหลอน/เสียงแปลก
- เสียชีวิตกระทันหันอย่างมีเงื่อนงำ
หลายคนจึงมักต้องพึ่ง "พระเกจิไทย" หรือ “หมอถอนคุณไสย” ที่สามารถถอดของหรือทำพิธี “ล้างของ” ได้
หมายเหตุ
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรมและความเชื่อ ไม่สนับสนุนหรือชี้นำให้เชื่อหรือทดลองกระทำ เพราะบางความเชื่อจัดอยู่ในขอบเขตไสยศาสตร์และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อจิตใจหรือชีวิตได้