เปิดประวัติ หลวงปู่ตี๋ ปวโร พระเกจิชื่อดัง วัดดอนเนรมิต ชัยนาท

วัดสะพานสูง ปากเกร็ด นนทบุรี เป็นแหล่งสรรพวิชาพุทธาคม ที่ขึ้นชื่อมาแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน เรื่องราวม ความเข้มขลัง ควันธูป เสียงสักการะ ไม่เคยห่างหายจากอารามแห่งนี้ ส่วนวิชาพุทธาคมนั้น ก็ได้รับสืบทอดมิได้สูญสิ้นครูบาอาจารย์สืบทอด เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยเฉพาะตะกรุดโสฬสมงคล ถึงปัจจุบัน ยังมีครูบาอาจารย์ที่สืบทอดสายวิชาวัดสะพานสูง ที่ได้รับความเคารพ ศรัทธาอย่างกว้างขวาง นั่นคือ หลวงปู่ตี๋ ปวโร

สำหรับประวัติของ พระครูอุทัยบวรกิจ หรือ หลวงปู่ตี๋ ปวโร ปัจจุบันสิริอายุ 79 พรรษา 43 อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง หมู่ที่ 5 ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ปัจจุบัน ท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดดอนเนรมิต บ้านท่ามะฝ่อ หมู่ที่ 7 ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ท่านเป็นศิษย์สายวัดสะพานสูง ของหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง ชื่อเดิม  เหลียงเช็ง แซ่เซียว เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ธ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 56 บ้านคลองข่อย ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  เป็นบุตรคนโตในครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม
เมื่ออายุ 15 ปี หลวงปู่ตี๋ ได้ทำการบรรพชาที่วัดสะพานสูง มีเจ้าคุณกุหลาบ วัดสว่างอารมณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ร่ำเรียนพระปริยัติธรรมและวิทยาคมกับหลวงพ่อทองสุข แห่งวัดสะพานสูง นานกว่า 5 พรรษา ก่อนลาสิกขาออกมาประกอบอาชีพ

จนเมื่อใช้ชีวิตทางโลกจนได้วัย 36 ปี หลวงปู่ตี๋ กลับเข้าร่มบวรพระพุทธศาสนาอีกครั้ง ทำพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดท่าเกวียน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2523 โดยมีเจ้าอธิการอำนวย อติเมโธ วัดท้องคุ้ง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพุฒินนทคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสอน สิริธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า ปวโร 

แม้ท่านบวชและจำพรรษาที่วัดท่าเกวียน แต่ในเรื่องการเล่าเรียนทั้งพระธรรมวินัยและพุทธาคม ยังคงยึดมั่นในครูบาอาจารย์หลวงพ่อทองสุข ซึ่งเจ้าสำนักวัดสะพานสูงก็เมตตาสั่งสอนสรรพวิชาต่างๆ หลวงปู่ตี๋ จนหมดสิ้น รวมทั้ง ยอดวิชาแห่งสำนัก ที่เกี่ยวกับการเขียนอักขระขอม การลงยันต์นะ 16 พระองค์ และยันต์โสฬสมงคล จนมีความชำนาญ 

จากนั้น หลวงปู่ตี๋ เดินทางไปยังจ.อุทัยธานี เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ ของครูบาอาจารย์อีกรูป นามว่า หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ หรือ พระครูอุทัยธรรมกิจ พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงราชาวาส ถนนท่าช้าง ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในช่วงที่อยู่วัดราชาวาส ผู้มีจิตศรัทธาต่างๆมานิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดต่างๆ แต่ท่านได้แฏิเสธ เพราะต้องการอยู่อย่างสงบตามวิสัยของท่านเอง 

ต่อมา พ.ศ.2536 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระปลัด ฐานานุกรมพระครูอุทัยธรรมโกศล เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี และเจ้าอาวาสวัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี
ปี พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนาม พระครูอุทัยบวรกิจ

แต่เมื่อหลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส มรณภาพ พระราชอุทัยกวี (ประชุม) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี มอบหมายให้ท่านไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง

พ.ศ.2545 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอนขวาง ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ก่อนจะย้ายมาจำพรรษาที่วัดดอนเนรมิต เมืองสรรคบุรี ชัยนาท 

การสร้างวัตถุมงคลแต่ละรุ่น ส่วนใหญ่ท่านจะใช้ยันต์นะ 16 พระองค์ และยันต์โสฬสมงคล เป็นหลัก และที่สำคัญท่านเป็นเจ้าตำรับยันต์พลิกชะตาที่ทำให้เหตุร้ายกลายเป็นดีได้อย่างน่าอัศจรรย์

วัตถุมงคลของหลวงปู่ตี๋ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ตะกรุดโสฬสมงคล, ตะกรุดนะ 16 พระองค์ และเหรียญบาตรน้ำมนต์ยันต์พลิกชะตา