'อ.ไก่ ทิพยจักร' เตือนอย่าบูชา 'ครูกายแก้ว' ชี้ชัดเป็น อสูรกาย

จารุวัตร จันทร์โพธิ์ศรี หรือ อาจารย์ไก่ ทิพยจักร นักเขียนและผู้คร่ำหวอดในวงการความเชื่อ เครื่องราง วัตถุมงคล ได้เขียนบทความเกี่ยวกับ ประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งโลกออนไลน์ และสังคมทั่วไป นั่นคือประเด็น รูปปั้น ครูกายแก้ว ที่ถูกระบุว่าเป็นรูปปั้นรูปเคารพตามความเชื่อของสายวิชา ที่เริ่มต้นจาก อ.สุชาติ รัตนสุข ผู้ก่อตั้งเทวลัยพระพิฆเนศ ห้วยขวาง โดยได้เขียนข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวอย่งน่าสนใจว่า 

ตอบคำถามเรื่องครูกายแก้ว การตอบนี้ผมจะตอบโดย ๑ อ้างอิงจากหลักฐานชั้นต้นคือคำให้สัมภาษณ์ของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ๒ หลักฐานตามประวัติศาสตร์  ๓ ความรู้จากสายธรรมเก้าโกฏที่มีการอ้างถึง
เริ่มต้นครูกายแก้ว จากปากคำโดยตรงของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้สร้างและเป็นผู้เผยแพร่ท่านแรกๆได้ให้สัมภาษณ์รายการพลังแห่งศรัทธา EP1 ซึ่งเผยแพร่ไว้ 7 ปีแล้ว โดยช่วงเวลาที่ 3.29 น. ท่านได้กล่าวไว้ชัดว่า ครูกายแก้วเป็นอสูรกาย*** อันนี้ชัดเจนนะครับ
นาทีที่ 3.54 อาจารย์สุชาติ กล่าวถึงรูปของครูกายแก้วมีอยู่ที่กำแพงนครวัด

นาทีที่ 4.44 อาจารย์สุชาติกล่าวอ้างว่าเป็นอาจารย์ของพระบาทกมรเตงศรีอัญชัยยะวรมหรือพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
ดังนั้นถ้ากล่าวถึงครูกายแก้ว เราสรุปได้ชัดจากต้นตอของเรื่องว่า เป็นอสูรกายชัดเจน และสอง มาจากทางขอม 
ต่อมาข้อมูลจากรายการโหนกระแสได้ให้ข้อมูลใหม่ว่ามาจากสายครูธรรมเก้าโกฏ วิชาทางลาว-อีสาน ถือว่าไปอีกทางเลยทีนี้และมีชื่อจริงคือสุวรรณกายเข้ามาด้วย
ผมก็ได้ไปขอความรู้จากครูธรรมที่ถือว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ในสายธรรมเก้าโกฏมา ท่านคือครูแห่งพยัคภูมิวิสัย จ.สารคาม ท่านขอไว้ไม่ให้เอ่ยชื่อท่านนะครับ

ธรรมเก้าโกฏ หมายถึงตำรากรรมฐานที่มาจากฝั่งลาว ในตอนท้ายของตำราจะมีบท ปัดเป่าสิ่งไม่ดี ส่วนห้องแรกๆนั้นต่อจากห้องคาระวะก็จะเป็นห้องกรรมฐาน โดยอาศัย องค์ภาวนาเช่น ห้องห้าสลึง ห้องลูกคญาน32 แล้วในตำราธรรมเก้าโกฏไม่มีชื่อครูธรรมสุวรรณกายนะครับ อันนี้ไม่มี

นอกจากนี้เนื้อหาวิชาธรรมจะไม่มีการให้นับถือผีอสุรกาย  วิชาธรรมโดยส่วนมากนั้นจะเป็นการปัดเป่าผีห่าปอบเปรตอสุรกาย ไม่มีว่าจะให้นับถือสิ่งเหล่านี้เลย คำว่าสุวรรณกายจะมีอยู่ในทางวิชา ไม่ใช่กรรมฐานไม่มีในธรรมเก้าโกฏ คำว่าสุวรรณกายก็จะหมายถึงครุฑตรงๆ ซึ่งไม่ได้มีรูปร่างแบบปู่กายแก้ว

เรื่องรูปร่างของปู่กายแก้วนั้น  มันมีคำโบราณว่า เรียนวิชาเยอะแล้วถือไม่ได้ ตาก็จะลึกแดงก่ำ เขี้ยวก็จะงอก เล็บจะงอกเหมือนเล็บเสือ ปีกก็จะงอก กลายเป็นปอบหรือห่าก้อม ปรากฏว่า คำโบราณว่าไว้นั้นมันตรงกับปู่กายแก้วทุกอย่างเลย

แล้วถามว่าปอปมีปอปฝ่ายขาวกับปอปฝ่ายดำไหม อันนี้ตอบว่าปอปก็คือปอปไม่มีปอปขาวครับ ไม่มีปอบไหนที่ไม่กินคนถ้าถือไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับว่าจะกินตัวเองก่อนหรือจะกินคนอื่นก่อน  สมัยก่อนมีคนซื้อขายและเลี้ยงปอบจริงเลี้ยงไว้ใช้งาน แต่ก็จะถูกสังคมรังเกียจไม่มีคนชมว่าดี 

ทีนี้ถามว่าการที่เราไปขอพรเฉยๆแต่ไม่ได้เลี้ยงไม่ได้บ๔ชาเป็นกิจลักษณะมีผลไหม เห็นจากโทรทัศน์แล้วขอพร เห็นจากหน้ามือถือแล้วขอพรได้ไหม

ตอบว่าคนอีสานเชื่อว่าปอบมันคือเจตภูติ มันต้องอาศัยกินปรานสิ่งมีชีวิตเพื่อดำรงอยู่ มันจะช่วยคนมีไม่กี่เหตุผล
1.มันโดนบังคับ
2.มันต้องการสิ่งตอบแทน

ฉะนั้นถ้าขอได้แล้วไม่เลี้ยง ก็ต้องได้รับผล มันก็ต้องกินคนนั้นครับ ถ้ามันยังต้องเสพปรานอยู่ คุณคิดว่าที่มันช่วยคนมันจะไม่หวังอาหารเหรอ ขนาดคนทำงานยังหวังมีข้าวกินจริงไหม ปอบหรือห่าก้อมแบบนี้มันเกิดจากคนเรียนวิชาอาคมมามาก
จึงปราบยากถ้าคนปราบไม่เรียนเยอะกว่ามัน ด้วยเหตุที่มันเรียนวิชากล้าแกร่ง จึงเชื่อกันว่าห่าก้อมมันไม่กลัวมเหสักข์หลักเมือง ที่สำคัญกว่านั้นมันจึงดึงดูดบริวารเข้ามาไม่ทำให้คนตายก็ดึงผีพราย ผีเร่ร่อนมาเป็นบริวาร ซึ่งก็พ้องกับการที่ติดตรงบริเวณโค้งร้อยศพ 

การเผยแพร่ภาพครูกายแก้วออกไปมากๆทางสื่อโซเชียลมีผลด้านอาถรรพ์ไหม ?
ถ้าบริวารมันเยอะก็มีผล ก็เหมือนมีรูปมันที่ไหนก็เหมือนมีมันอยู่ที่นั่น ผีพวกนี้บางทีคนเห็นในทีวีแล้วบนบานในใจบางคนก็สำเร็จดังบนบาน

การมีรูป มีของถือว่าเป็นการสื่อถึงมันทั้งสิ้น ถ้าเราเอาเข้าบ้านล่ะก้อ ผีบ้านผีเรือนก็ไม่ยุ่ง มันแสดงฤทธิ์ได้ประจักษ์นะครับ มันไม่สนบาปบุญ สมัยก่อนคนเลี้ยงปอบจึงเป็นพวกอาชีพสีดำ สีเทา 

ทั้งนี้พวกผีปอปแค่เรียกชื่อมันมาเลย มันไม่ยุ่งยากเหมือนเชิญเทวดาเลยครับ เอาง่ายๆแค่ตั้งศาลผิดผียังมาแอบอยู่อาศัยเลย แล้วผีใหญ่แบบห่าก้อมที่มีทั้งการเรียกชื่อ ทั้งมีรูปลักษณ์ยิ่งไปกันใหญ่เลย

สิ่งไหนที่ใช้กันห่าก้อมได้ ?
* ยากมาก ขนาดมเหศักข์ก็เอาไม่อยู่ เพราะพวกห่าก้อมมันเรียนวิชาเยอะมันรู้หมด แต่ก็มีบทเสกฝ้ายหรือยันต์บางยันต์ที่กันได้ แต่มันเป็นของเฉพาะทางสำหรับคนเรียนเป็นหมอธรรมทางนี้มา วิชาธรรมที่แก่กล้าเท่านั้นที่จะปราบมันได้

จะมีอำนาจข่มเทวดาประจำเมืองไหม ?
ตอบว่าถ้ามันอยู่ในจุดที่มีอำนาจมากกว่ามเหสักหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมืองก็จะเอาไม่อยู่ ห่าก้อมมันจะข่มเล จะวุ่นวายและน่าวิตกมากๆ รูปสมมุติเทวดาที่ตั้งร่วมกับห่าก้อมจะดูไม่มีสง่าราศรีไปเลย 

จะมีผลต่อผู้คนยังไงบ้าง ?
คนจะป่วยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการคล้ายกรดไหลย้อนหรือโรคซึมเศร้าเยอะขึ้นครับผม

การป้องกันที่ดีที่สุดควรปฏิบัติตนอย่างไร?
มันเป็นฝ่ายมืด เราก็ทำใจให้เป็นฝ่ายสว่าง สวดมนต์ไหว้พระ ก็ถือว่าอาการน่าเป็นห่วงถ้าผู้คนไปให้ความสำคัญกับเงินทองโดยมองไม่ออกว่าตนกำลังบูชาอะไรและจะมีผลอย่างไรต่อตัวเองและคนรอบข้าง