ศรัทธาสายมู

ศึกษาหาความรู้ 'สมณศักดิ์' คืออะไร มีที่มาจากไหน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พลิกตำราหาความรู้ 'สมณศักดิ์' ของพระสงฆ์คืออะไร ที่มาที่ไป ข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์เริ่มต้นจากไหน การแต่งตั้งต้องทำอย่างไร

ในช่วงหลายวันที่ผ่ามานี้ มีกาเผยแพร่ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา เกี่ยวกับการพระราชทานสมณศักดิ์ เชื่อว่ามีหลายๆคนสงสัยที่มาที่ไป และวิธีการเกี่ยวกับการแต่งตั้งสมณศักดิ์ว่าต้องทำอย่างไร มีสมณศักดิ์กี่ประเภท ศรัทธาสายมู ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาให้คุณผู้ชม และนักอ่านหาความรู้ได้ค้นคว้าอ่านไปพร้อมๆกัน 

พระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ ใช้พัดยศในการสวด

ข้อมูลเบื้องต้นจาก กรมการศานา ระบุว่า สมณศักดิ์ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายความว่า ยศพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานมีหลายชั้น แต่ละชั้นมีพัดยศเป็นเครื่องกำหนด อาจกล่าวได้ว่า สมณศักดิ์ คือบรรดาศักดิ์ หรือยศที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่ภิกษุผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบให้ดำรงมั่นอยู่ในสมณเพศ เพื่อเป็นกำลังสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและเพื่อให้การปกครองคณะสงฆ์เป็นไปโดยเรียบร้อย เพราะการที่พระภิกษุรูปใดได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ย่อมได้รับมอบหมายภาระหน้าที่ในการปกครองหมู่คณะแห่งสงฆ์ไปพร้อมกันด้วย

สำหรับความเป็นมาของสมณศักดิ์ กล่าวถึงข้อมูลในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้ทรงใช้จิตวิทยาในการปกครองพระสงฆ์สาวก โดยการยกย่องผู้ที่ควรยกย่อง ป้องปรามผู้ที่ควรป้องปราม ดังจะเห็นได้จากทรงยกย่องพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวก ฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวา และทรงตั้งเอตทัคคะ กล่าวคือ ทรงยกย่องพระสาวกอีกส่วนหนึ่งว่ามีความเป็นเลิศในด้านต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังมิได้ถือว่าเป็นสมณศักดิ์

เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว เพื่อสามารถสืบทอดเจตนารมณ์ของพระพุทธศาสนา พระประมุขแห่งประเทศต่างๆ ที่นับถือพุทธศาสนา จึงได้มีการพระราชทานสมณศักดิ์แก่พระสงฆ์ โดยปรากฏหลักฐานว่ามีการพระราชทานสมณศักดิ์ และพัดยศพร้อมทั้งเครื่องประกอบสมณศักดิ์อื่นๆ ได้รับแบบอย่างมาจากประเทศศรีลังกา

พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548 ในข้อมูลต่อไปว่า ระบบสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทยนั้น มีการคาดการณ์กันว่า  เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยสุโขทัยในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทย พระองค์ได้โปรดให้ราชบัณฑิตไปอาราธนาพระมหาสามีสังฆราชมาจากประเทศลังกาเพื่อให้ประกาศพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ในกรุงสุโขทัย พระมหาสามีสังฆราชคงจะได้ถวายพระพรให้พระมหาธรรมราชาลิไททรงตั้งสมณศักดิ์ถวายแด่พระสงฆ์ตามราชประเพณีที่ถือปฏิบัติในประเทศลังกา ระบบสมณศักดิ์ในสมัยสุโขทัยไม่สลับซับซ้อนเพราะมีเพียง 2 ระดับชั้นเท่านั้น คือ พระสังฆราชและพระครู พอมาถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาระบบสมณศักดิ์ได้รับการปรับให้มีระดับชั้นเพิ่มขึ้นเป็น 3 ระดับคือ สมเด็จพระสังฆราช พระสังฆราชคณะหรือพระราชาคณะ และพระครู

จากการรวบรวมข้อมูล พระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ หรือ ทำเนียบสมณศักดิ์ไทยในปัจจุบัน ของวิกิพิเดีย มีข้อมูลที่น่าสนใจระบุไว้ดังนี้ 
สมเด็จพระสังฆราช 1 พระองค์
สมเด็จพระราชาคณะ 10 รูป
พระราชาคณะเจ้าคณะรอง 23 รูป
พระราชาคณะชั้นธรรม 50 รูป
พระราชาคณะชั้นเทพ 100 รูป
พระราชาคณะชั้นราช 210 รูป
พระราชาคณะชั้นสามัญ 510 รูป
พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี-โท-เอก-พิเศษ(ไม่จำกัดจำนวน)
พระครูฐานานุกรม ตั้งได้ตามจำนวนที่ปรากฏในสัญญาบัตรของพระราชาคณะ
พระครูประทวนสมณศักดิ์ (พระครูผู้อุปการะการศึกษา)(ไม่จำกัดจำนวน)
พระเปรียญ ป.ธ.9 - ป.ธ.8 - ป.ธ.7 - ป.ธ.6 - ป.ธ.5 - ป.ธ.4 - ป.ธ.3

ลำดับเกียรติ ชั้นพัดยศสมณศักดิ์ ฐานานุกรม เปรียญในงานพระราชพิธี - รัฐพิธี

โดยเป็นการปรับปรุงใหม่ พ.ศ. 2541 โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมในการประชุมครั้งที่ 6/2541 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541  

สมเด็จพระสังฆราช
1. สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
2. สมเด็จพระสังฆราช
พระราชาคณะ
3. สมเด็จพระราชาคณะ
4. พระราชาคณะเจ้าคณะรอง (เดิมเรียกว่ารองสมเด็จพระราชาคณะ)
5. พระราชาคณะเทียบรองสมเด็จพระราชาคณะ (ปัจจุบันถูกยกเลิกไปแล้ว)
6. พระราชาคณะชั้นธรรม
7. พระราชาคณะชั้นเทพ
8. พระราชาคณะชั้นราช
9. พระราชาคณะชั้นสามัญ
- พระราชาคณะปลัดขวา-ปลัดซ้าย-ปลัดกลาง (พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ วัดพระเชตุพนฯ เป็นพระปลัดกลาง รูปแรก)
- พระราชาคณะ รองเจ้าคณะภาค
- พระราชาคณะ เจ้าคณะจังหวัด
- พระราชาคณะ รองเจ้าคณะจังหวัด
- พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
- พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ป.ธ.9 - ป.ธ.8 - ป.ธ.7 - ป.ธ.6 - ป.ธ.5 - ป.ธ.4 - ป.ธ.3
- พระราชาคณะชั้นสามัญเทียบเปรียญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
- พระราชาคณะชั้นสามัญเทียบเปรียญ
- พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
- พระราชาคณะชั้นสามัญยก
พระครูสัญญาบัตร
10. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะจังหวัด (จจ.)
11. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะจังหวัด (รจจ.)
12. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก (จล.ชอ.)
13. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษ (จอ.ชพ.)
14. พระครูสัญญาบัตร เทียบพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษ (ทจอ.ชพ.)
15. พระครูปลัดของสมเด็จพระราชาคณะ
16. พระเปรียญธรรม 9 ประโยค
17. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นโท (จล.ชท.)
18. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นเอก (จอ.ชอ.)
19. พระครูสัญญาบัตร เทียบพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอ ชั้นเอก (ทจอ.ชอ.)
20. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นตรี (จล.ชต.)
21. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นโท (จอ.ชท.)
22. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก (รจล.ชอ.)
23. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นโท (รจล.ชท.)
24. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นตรี (รจล.ชต.)
25. พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นพิเศษ หรือเทียบเท่า (ผจล.ชพ. หรือทผจล.ชพ.)
26. พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ หรือเทียบเท่า(ผจล.ชอ.วิ. หรือ ทผจล.ชอ.วิ.)
27. พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก หรือเทียบเท่า (ผจล.ชอ. หรือทผจล.ชอ.)
28. พระครูปลัดของพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ
29. พระครูปลัดของพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นสัญญาบัตร
30. พระครูฐานานุกรมชั้นเอกของสมเด็จพระสังฆราช
31. พระเปรียญธรรม 8 ประโยค
32. พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นโท หรือเทียบเท่า (ผจล.ชท. หรือทผจล.ชท.)
33. พระเปรียญธรรม 7 ประโยค
34. พระครูปลัดของพระราชาคณะชั้นธรรม
35. พระครูฐานานุกรมชั้นโท ของสมเด็จพระสังฆราช (พระครูปริต)
36. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอ ชั้นเอก (รจอ.ชอ.)
37. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอ ชั้นโท (รจอ.ชท.)
38. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ (จต.ชอ.วิ.)
39. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นเอก (จต.ชอ.)
40. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นโท (จต.ชท.)
41. พระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบล ชั้นตรี (จต.ชต.)
42. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นเอก (จร.ชอ.)
43. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระ (จร.ชท.วิ.)
44. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท (จร.ชท.)
45. พระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นตรี (จร.ชต.)
46. พระครูสัญญาบัตร รองเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (รจร.)
47. พระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (ผจร.)
48. พระเปรียญธรรม 6 ประโยค
49. พระเปรียญธรรม 5 ประโยค
50. พระครูปลัดของพระราชาคณะชั้นเทพ
51. พระครูปลัดของพระราชาคณะชั้นราช
52. พระครูวินัยธร
53. พระครูธรรมธร
54. พระครูคู่สวด
55. พระเปรียญธรรม 4 ประโยค
56. พระปลัดของพระราชาคณะชั้นสามัญ
57.พระปลัดของตำแหน่ง จจ.จอ.
58. พระเปรียญธรรม 3 ประโยค
59. พระครูรองคู่สวด
60. พระครูสังฆรักษ์
61. พระครูสมุห์
62. พระครูใบฎีกา
63. พระวินัยธร
64. พระธรรมธร
65. พระสมุห์
66. พระใบฎีกา
67. พระพิธีธรรม
68. พระครูประทวนสมณศักดิ์ ที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระบัญชาแต่งตั้ง

ในเรื่องของการพิจารณาแต่งตั้งสมณศักดิ์ แฟนเพจเฟซบุ๊ก พัดยศ สมณศักดิ์พระสงฆ์ไทย ได้โพสต์ข้อมูลไว้ว่า ในอดีต การพิจารณาแต่งตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์แก่พระสงฆ์เป็นพระราชอำนาจและเป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ เมื่อทรงเห็นหรือทรงทราบด้วยพระเนตรพระกรรณว่า พระภิกษุรูปใดมีความรู้ความเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎก มีศีลาจารวัตรน่าเลื่อมใส มีความสามารถในการปกครองหมู่คณะให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของประชาชนแล้ว ก็จะพระราชทานสมณศักดิ์เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจ ในการจะได้ช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาสืบไป

ต่อมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นช่วงเวลาที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายกอยู่นั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะโปรดพระราชทานสมณศักดิ์แก่พระสงฆ์รูปใด ก็จะทรงปรึกษากับสมเด็จพระมหาสมณเจ้าก่อนทุกครั้ง ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทรงให้พระสงฆ์ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาเสนอความคิดเห็นได้

ปัจจุบัน เป็นหน้าที่ทางคณะสงฆ์จะช่วยกันพิจารณาให้ความเห็นชอบตามลำดับขั้น คือ จากเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค และเจ้าคณะใหญ่ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากเจ้าคณะผู้ปกครองตามลำดับแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้เสนอเรื่องเพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานสมณศักดิ์ ตามระเบียบของทางราชการต่อไป แต่ในการพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นสูง เช่น สมเด็จพระสังฆราชหรือสมเด็จพระราชาคณะ ทางคณะสงฆ์ชอบที่จะถวายพระเกียรติแด่องค์พระมหากษัตริย์ด้วยการเสนอนามพระเถระที่เห็นสมควรขึ้นไปหลายรูปเพื่อให้ทรงพิจารณาตามพระราชอัธยาศัย เป็นธรรมเนียมปฏิบัติเสมอมา เพราะพระราชอำนาจส่วนนี้เป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงพระองค์เดียว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ