พระเครื่อง

ธนวัฒน์ แท่นทอง
"รอดตายด้วยพุทธคุณพระหลวงปู่ทวด"

ธนวัฒน์ แท่นทอง "รอดตายด้วยพุทธคุณพระหลวงปู่ทวด"

23 เม.ย. 2554

หากพูดถึงหน่วยงานราชการที่มีภารกิจและหน้าที่ใกล้ชิดกับผ้าเหลืองมากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้น “สำนักงานพระพุทธศาสนา” เพราะนอกจากแรงศรัทธาจากบรรดาฆราวาสแล้ว องค์กรพุทธ นับเป็นกลไกอันสำคัญยิ่งที่จะช่วยธำรงและทำนุบำรุงให้พุทธศาสนาจีรังยั่งยืนสืบไป

  “ธนวัฒน์ แท่นทอง” ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา ที่เพิ่งมารับตำแหน่งหมาดๆ ได้เดินหน้าวางแผนขับเคลื่อนกิจกรรมทางพุทธศาสนาในดินแดน “สมิหลา” ทันที โดยเฉพาะการเร่งผลักดันโปรเจกท์การสร้าง “พุทธมณฑลจังหวัดสงขลา” ให้ปรากฏเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ด้วยเห็นว่าการสร้างศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา ศูนย์กลางทางใจให้ชาวพุทธในดินแดนปลายด้ามขวานได้อีกด้วย

  “ธนวัฒน์” เริ่มรับราชการครั้งแรกวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ในฐานะ “ครูพละ” โดยได้รับการบรรจุในโรงเรียนพื้นที่ “ทุ่งยางแดง” จ.ปัตตานี จุดที่ได้ชื่อว่าเป็นเขตสีแดง หลังทำงานได้เพียง ๗ วัน ก็เจอเหตุการณ์ระทึกขวัญ นั่นคือคนร้ายลงมือก่อเหตุกราดยิงรถเมล์ประจำทางบนถนนสายปาลัส-มายอ จนส่งผลให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย ไม่เพียงเท่านั้นช่วงเวลาไม่นานนัก ขณะที่กำลังร่วมตั้งวงเล่นเซปักตะกร้อกับเยาวชนในหมู่บ้านที่อยู่รอบสถานศึกษาในช่วงเย็น ปรากฏว่าชาวบ้านและเด็กค่อยๆ ทยอยกลับบ้านทีละคนสองคน กระทั่งเกิดเสียงปืนดังลั่นสวนยาง จากนั้นก็เห็นชายในชุดอำพรางกราดกระสุนใส่ทุกคนที่เหลืออยู่ในวงตะกร้อขณะนั้น

 อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้มายาวนานเกือบ ๓๐ ปี ทำให้ ธนวัฒน์เห็นวิวัฒนาการของสังคมชายแดนภาคใต้อย่างเด่นชัด โดยเฉพาะมิติของปัญหาความไม่สงบที่มีพัฒนาการความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ตั้งแต่การฟูมฟักอุดมการณ์ มาสู่บ่มเพาะความเชื่อ และกระทั่งสร้างแนวร่วม จนในที่สุดปัญหาก็มาปะทุหนักอย่างรุนแรง

 ในยุคก่อนเมื่อครั้งที่ได้มาทำงานในพื้นที่แห่งนี้ สังคมเรียกขานกลุ่มก่อความไม่สงบว่า “ขจก.” หรือ “ขบวนการโจรก่อการร้าย” ซึ่งรูปแบบและวิธีการจะแตกต่างจากการก่อเหตุในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญวิธีการก่อเหตุในเวลานี้รูปแบบมีแต่ทวีความโหดเหี้ยมมากขึ้น และกระทำต่อเป้าหมายที่อ่อนแอแม้แต่พระภิกษุสงฆ์ก็ไม่เว้น

 เส้นทางราชการของธนวัฒน์ ก้าวเดินมาถึงจุดเปลี่ยน ใน พ.ศ.๒๕๔๕ เมื่อมีการปฏิรูประบบราชการ ทำให้มีการยุบหน่วยงานที่เจ้าตัวสังกัดอยู่ จนในที่สุดได้มีโอกาสมาทำหน้าที่ในสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี และนี่เองคือเหตุผลที่ทำให้ชีวิตได้ใกล้ชิดพระพุทธศาสนา และมีโอกาสเรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่าตัว

  ด้วยสภาพปัญหาในพื้นที่เสี่ยงอันตรายทำให้จำเป็นที่ต้องหาที่ยึดเหนี่ยวทางใจไว้สร้างความอุ่นใจ โดยส่วนตัวแล้วมีแต่พระหลวงพ่อทวดที่สร้างขึ้นใหม่ โดยหลวงพ่อทวดยุคก่อนที่ทัน “อาจารย์ทิมสร้าง” มีค่านิยมสูงมาก และเกินกว่าจะแสวงหามาได้ด้วยการเช่าบูชา ดังนั้นจึงทำบุญและบูชาจากวัดช้างให้ หรือวัดอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น วัดสำเภาเชย วัดห้วยเงาะ วัดศรีมหาโพธิ์ วัดตุยง เป็นต้น 

 “แม้จะเป็นพระสร้างใหม่ แต่ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าพระหลวงพ่อทวดมีความศักดิ์สิทธิ์ หากพิธีกรรมการจัดสร้างดำเนินถูกต้องตามหลัก และมีเจตนาที่ดี บุญบารมีของพลวงพ่อทวดจะคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายเเน่นอน และที่สำคัญสิ่งเหล่านี้ได้ประจักษ์แก่ชีวิตผมมาแล้ว” ธนวัฒน์ กล่าว

 ปัจจุบันพระที่เจ้าตัวอาราธนาขึ้นคล้องคอคือ เหรียญหลวงพ่อทวด วัดสำเภาเชย ที่ได้รับจากมือของ “พระศีลมงคล”หรือ “หลวงพ่อทอง” โดยได้มาเมื่อครั้งไปร่วมช่วยงานบูรณะอุโบสถเมื่อไม่นานมานี้ และที่สำคัญได้มีโอกาสเห็นกระบวนการและพิธีในการจัดสร้างมาโดยตลอดทำให้เกิดความศรัทธาและพกติดตัวตลอดเวลา รวมไปถึงพระพิมพ์สมเด็จ ที่บูชามาจากวัดสามพระยา

  "ทุกๆ วันพระจะจัดกิจกรรมนำเจ้าหน้าที่และข้าราชการในสำนักงานพระพุทธศาสนาไปทำบุญที่วัดทุกครั้ง โดยจะสลับสับเปลี่ยนและหมุนเวียนเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสทำบุญร่วมกัน และที่สำคัญในฐานะองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับศาสนาโดยตรงจะต้องปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างกับองค์กรอื่นๆ เพื่อใช้เป็นแบบอย่างในการดำเนินตามในการร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป" นายธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

พุทธคุณและปาฏิหาริย์มีจริง
 นายธนวัฒน์ กล่าวยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยแขวนพระ แต่จะเชื่อในเรื่องบุญและกรรม โดยเฉพาะการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฏจักรของชีวิตที่มนุษย์ทุกคนหนีไม่พ้น เพราะเมื่อถึงวาระทุกคนก็ต้องดับสูญ ขณะเดียวกันยังเชื่อในเรื่องของการสะสมความดี เพราะเชื่อว่าจะเป็นฐานหนุนนำให้ชีวิตไปสู่สุคติ หรือประสบแต่สิ่งดีๆ ในภพหน้า

 กระทั่งการทำหน้าที่ในฐานะ ผอ.สำนักพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี มีโอกาสได้เดินทางไปวัดและพบพระภิกษุมากมายหลากหลายรูปในพื้นที่ โดยเฉพาะที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “เกจิสายหลวงปู่ทวด” ทำให้มีโอกาสได้ทำบุญและได้รับแจกวัตถุมงคลจากเจ้าอาวาส และพระเลื่องชื่อหลายรูป ซึ่งส่วนใหญ่เป็น “พระหลวงพ่อทวด” จึงได้พกติดตัวตลอด โดยเฉพาะการทำงานที่ต้องเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยง

 เหตุการณ์เหนือคำอธิบายได้เกิดกับ “ธนวัฒน์” เมื่อต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ “วัดลานควาย” ซึ่งก่อนเข้าสู่เส้นทางหลักได้มีบางสิ่งบางอย่างดลใจให้หักพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางเข้าวัดอย่างไม่มีเหตุผล และการเปลี่ยนแผนกะทันหันครั้งนี้ทำให้รอดพ้นจากแรงระเบิดที่คนร้ายกดชนวนก่อนรถจะถึงวัดไม่กี่อึดใจ

 ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ธนวัฒน์บอกว่ารอดพ้นจากความตายราวปาฏิหาริย์อีกครั้งนั่นคือ เหตุคนร้ายกดระเบิดที่บริเวณร้านข้าวกลางเมืองปัตตานี ซึ่งเกิดเหตุหลังจากเดินออกจากร้านไม่กี่นาทีเท่านั้น และเหตุการณ์ล่าสุดคือ คนร้ายลอบวางระเบิดร้านขนมจีน ที่ถนนนาเกลือ เขตเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นช่วงที่รถฮัมวี่ของหทารแล่นผ่านหน้าร้าน คนร้ายกดชนวนที่รถจักรยานยนต์บอมบ์ แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่วันนั้นเคราะห์ดีที่มีเสาคอยบังสะเก็ดระเบิดจนรอดชีวิตมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมทั้งหมดแทบไม่น่าเชื่อว่าจะรอดมาได้ และส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเพราะปาฏิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์ของพระหลวงพ่อทวดที่พกติดตัว ที่สำคัญทุกครั้งผมจะท่องคาถาหลวงพ่อทวดอยู่เสมอ” ธนวัฒน์ กล่าว

 "แม้จะเป็นพระสร้างใหม่ แต่ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าพระหลวงพ่อทวดมีความศักดิ์สิทธิ์ หากพิธีกรรมการจัดสร้างดำเนินถูกต้องตามหลัก และมีเจตนาที่ดี บุญบารมีของพลวงพ่อทวดจะคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายเเน่นอน"

เรื่อง -ภาพ... "สุพิชฌาย์ รัตนะสำนักข่าวเนชั่น"