พระเครื่อง

วัดป่าแสงทองพบพระกรุ

วัดป่าแสงทองพบพระกรุ

21 เม.ย. 2554

วัดป่าแสงทอง ตั้งอยู่ หมู่ ๔ ต.หนองตางู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ปัจจุบันมี พระถังทอง ขันติมโน เจ้าอาวาสวัดป่าแสงทอง เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา พระถังทองได้ใช้ให้พระสงฆ์และสามเณรในวัดช่วยกันขุดบ่อเพื่อจัดทำสระบัวและสร้างพญานาคพ่นน้ำในวัด ปรากฏว่า

  หลังจากนั้นพระสงฆ์และสามเณรช่วยกันขุดจนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น.จึงสามารถนำเอาโอ่งดินขึ้นมาได้และนำไปเก็บไว้ในกุฏิใส่กุญแจ เพราะประชาชนที่ทราบข่าวว่ามีการขุดพบกรุพระได้พากันมามุงดูจำนวนมากและมีหลายรายที่มีความประสงค์อยากจะได้พระที่ขุดพบ ทางวัดจึงต้องนำเชือกมากั้นบริเวณและให้กรรมการวัด พระสงฆ์ ช่วยกันดูแลจนขุดแล้วเสร็จ

 จากการตรวจสอบในโอ่งดินพบมีพระเครื่องดินเผา มีทั้งสีดำ สีดินแดง เป็นพระพิมพ์นั่งสมาธิแบบพระเชตุพน ยังไม่ทราบจำนวนเนื่องจากมีดินอยู่ในโอ่งปะปนกับพระเครื่องจำนวนมากจนเป็นก้อนเดียวกัน สำหรับอายุพระยังไม่ทราบว่ามีอายุกี่ปี แต่เดิมที่วัดป่าแสงทองเคยเป็นที่พักจำพรรษาของหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู พระเกจิชื่อดังรูปหนึ่งของเมืองนครสวรรค์ ก่อนที่ท่านจะย้ายไปสร้างวัดหนองตางู

 สำหรับพื้นที่วัดป่าแสงทอง เป็นพื้นที่ผืนเดียวกันกับดงแม่นางเมือง ซึ่งเคยมีการขุดค้นพบกรุพระที่มีอายุนับพันปี รวมทั้งมีการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยโบราณ และก่อนหน้าที่จะพบกรุพระในโอ่งดินครั้งนี้ก็เคยมีผู้ขุดพบฆ้องสัมฤทธิ์โบราณ ปัจจุบันถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ จ.สุพรรณบุรี สำหรับพระกรุที่พบในครั้งนี้นั้น ทางวัดจะจัดตั้งคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ ดูแล พร้อมทั้งรอผู้เชี่ยวชาญจากกรมศิลปากรเข้ามาตรวจสอบเพื่อยืนยันถึงอายุพระที่แน่นอน

 ก่อนจะนำพระดังกล่าวออกจัดจำหน่ายให้ประชาชนที่ศรัทธาได้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการจัดหาทุนก่อสร้างถาวรวัตถุวัดป่าแสงทอง ที่เป็นวัดเก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี แต่อยู่ในสภาพทรุดโทรม วัดมีพื้นที่รวม ๖ ไร่ ๒ งาน ๔๑ ตารางวา เดิมเป็นที่ดินของนายชู พิมพ์ปาน ปัจจุบันนายชูเสียชีวิตแล้ว นายชูได้ยกพื้นที่ให้ใช้ก่อสร้างวัด สภาพเดิมเป็นป่า มีหลุมบ่อ มีเนินดิน คาดว่าน่าจะเป็นเจดีย์เก่า ซึ่งปัจจุบันทางวัดมีกุฏิสงฆ์เพื่อในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและแท่นปูนที่ใช้นั่งสมาธิสำหรับพระสงฆ์และประชาชนในวันพระ ปัจจุบันมีพระสงฆ์ ๕ รูป สามเณร ๑ รูป พราหมณ์ ๖ คน และแม่ชี ๑ คน

เรื่อง - ภาพ... "ชาติชาย เกียรติพิริยะ"