พระเครื่อง

 ชั่วโมงเซียน-หลวงพ่อยอดวัดหนองปลาหมอ หนึ่งในเบญจพระรูปหล่อ

ชั่วโมงเซียน-หลวงพ่อยอดวัดหนองปลาหมอ หนึ่งในเบญจพระรูปหล่อ

28 มี.ค. 2554

พระชุดเบญจภาคีในวงการพระเครื่องจัดได้ว่า เป็นชุดรวมสุดยอดพระเครื่องที่นิยมที่สุดของวงการพระ ซึ่งรวมพระสำคัญที่สุดของแต่ละยุคแต่ละสมัยของไทยไว้ คือ พระสมเด็จวัดระฆัง

แห่งยุครัตนโกสินทร์, พระนางพญา พิษณุโลก แห่งยุคอยุธยา, พระผงสุพรรณ แห่งยุคอู่ทอง, พระกำแพงซุ้มกอ แห่งยุคสุโขทัย และพระรอดลำพูน แห่งยุคทวาราวดี ซึ่งความนิยมพระนี้ชุดจัดป็นที่สุดของเมืองไทย ในชุดองค์แชมป์น่าจะมีราคารวมมากกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท

 นอกจากจะมีการจัดพระชุดเบญจภาคีดังกล่าวแล้ว ในวงการพระยังมีการจัดชุดเบญจภาคีประเภทพระอื่นๆ อีกด้วย เช่น ชุดเหรียญ ชุดพระชินยอดขุนพล ชุดพระกริ่ง ชุดพระรูปหล่อคณาจารย์

  ซึ่งวันนี้ ขอนำเสนอ หนึ่งในห้าสุดยอดพระรูปเหมือนคณาจารย์เมืองไทย อันประกอบด้วย รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และรูปหล่อหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ แห่งภาคเหนือ, รูปหล่อหลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทองแห่งภาคอีสาน, รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ แห่งภาคใต้ และรูปหล่อหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ ต.หนองปลาหมอ อ.หนองแค จ.สระบุรี

 วัดหนองปลาหมอ เดิมชื่อว่า วัดหนองปลาเข็ง ต่อมาในพ.ศ.๒๔๘๓ สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลมีนโยบายรัฐนิยม จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น "วัดหนองปลาหมอ" ดังปรากฏในปัจจุบัน และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙

 อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองปลาหมอ ที่ปรากฏเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักแพร่หลายมาแต่ครั้งอดีต คือ ท่านพระครูประสุตสังฆกิจ หรือ หลวงพ่อยอด อินฺทโชติ

 หลวงพ่อยอด อินฺทโชติ ท่านเป็นพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณรูปหนึ่ง ครั้งอดีตของจังหวัดสระบุรี เหรียญเสมา รุ่นแรก และรูปหล่อโบราณรุ่นแรก นับเป็นมงคลวัตถุหาได้ยาก และสนนราคาสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะรูปหล่อโบราณรุ่นแรก 

 วัตถุมงคลในยุคแรกๆ ของท่าน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องรางของขลังประเภทตะกรุด หากเป็นตะกรุดเงิน มีทั้งขนาดน้ำหนัก ๑ บาท และ ๑ สลึง และหากเป็นตะกรุดสามกษัตริย์เนื้อทอง นาก เงิน จะมีน้ำหนักดอกละ ๑ บาท ซึ่งนับเป็นวัตถุมงคลที่หาได้ยากในปัจจุบัน

 เหรียญรุ่นแรก สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๗๐ กว่าๆ โดยเจ้าอาวาสวัดหนองบอน ขออนุญาตจัดสร้างเพื่อหาทุนสร้างอุโบสถ

 ลักษณะเป็นเหรียญเสมา ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนเต็มองค์ ประทับนั่งบนธรรมมาส ยกกรอบขอบเหรียญเป็นซุ้มกนก ด้านหลังเป็นอักขระยันต์ ลงแทนด้วยตัวเลข ด้านมีบนมีอักษรภาษาไทยคำว่า "มงคลถาวร" ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับเหรียญพระพุทธ วัดลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก ซึ่งหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา เมตตาปลุกเสกเอาไว้

 นับเป็นวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นในขณะที่ท่านยังไม่มรณภาพ ส่วนวัตถุมงคลอื่นๆ สร้างภายหลังท่านมรณภาพแล้วทั้งสิ้น

 รูปหล่อรุ่นแรก วัดหนองปลาหมอ จัดเป็นรูปหล่อที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน และนับวันยิ่งหายากประสบการณ์โดดเด่นด้านมหาอุตม์ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๗ โดย พระครูวิบูลย์คณานุสรณ์ (เฉื่อย) วัดสหมิตร ซึ่งเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านรูปหนึ่ง และยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวงหนองแค รูปต่อมา

 โดยได้รับดำริจัดสร้างรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริงของหลวงพ่อยอดขึ้นด้วยเนื้อโลหะ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของศิษยานุศิษย์ กาลนี้ได้จัดสร้างรูปหล่อขนาดเล็ก ขึ้นจำนวน ๕๐๐ องค์ ด้วยเนื้อโลหะประเภททองเหลือง ใต้ฐานกว้านเจาะบรรจุอัฐิ แล้วอุดทับด้วยโลหะประเภททองแดงทุกองค์ โดยครั้งนั้นได้เปิดให้สั่งจองทำบุญองค์ละ ๒๐ บาท

 ประกอบพิธีปลุกเสก โดยพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณของยุคนั้นจำนวนหลายรูป เช่น หลวงพ่อคง วัดพุธไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อเกิด วัดสะพาน จ.นครนายก หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อนาค วัดหนองสีดา จ.สระบุรี หลวงพ่อเที่ยง วัดศาลาแดง จ.สระบุรี

 นอกจากนี้แล้ว ยังมีรูปหล่อหลวงพ่อยอด รุ่นออกวัดหนองโน ลักษณะคล้ายรูปหล่อรุ่นแรก เพียงความสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยจะแลดูด้อยกว่า เป็นวัตถุมงคลอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

 ส่วนรูปหล่อรุ่น ๒ วัดหนองปลาหมอ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ โดย พระอาจารย์จำรัส พรหมโร เจ้าอาวาสวัดหนองปลาหมอ ในงานฉลองอุโบสถ

 ลักษณะเป็นรูปหล่อลอยองค์ เนื้อทองเหลือง ด้านหน้าบริเวณฐานปรากฏอักษรภาษาไทย เป็นตัวจม อ่านว่า "หลวงพ่อยอด" โดยบริเวณใต้ฐานแบ่งเป็น อุดเดียว และ สองอุด ซึ่งในองค์ที่มีสองอุดนั้น จะมีทั้ง อุดกริ่ง และอุดอัฐิ  ครั้งนั้นให้ทำบุญบูชาองค์ละ ๑๐๐ บาท

 พระเนื้อผง พิมพ์สี่เหลี่ยม สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๙ โดย พระครูวิบูลย์คณานุสรณ์ (เฉื่อย) ในงานฉลองอุโบสถวัดสหมิตร

 นอกจากวัตถุมงคลต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว ยังมีปรากฏจัดสร้างในนามวัดอื่นๆ อีกหลายรุ่น โดยศิษยานุศิษย์ของท่าน เช่น วัดเสนานฤมิตร เนื้อแร่, เนื้อระฆัง, เนื้อตะกั่วครึ่งซีก หลวงพ่อคร้าม วัดกุ่มหัก สร้าง, เป็นต้น

 ในอิทธิปาฏิหาริย์วัตถุมงคลของท่านนั้น ปรากฏเลื่องลือทางด้านแคล้วคลาดคงกระพัน โด่งดังมาตั้งแต่ท่านมีชีวิตอยู่ แม้ตอนกระทั่งสิ้นท่านไม่นาน (พ.ศ ๒๔๘๗) ตะกรุดของหลวงพ่อยอดต้องใช้ควายแลกกันเป็นตัวๆ เลยทีเดียว จวบจนปัจจุบันในพระหล่อรุ่นแรกองค์แชมป์องค์หนึ่งมีการเสนอราคาขอเปลี่ยนมือในตัวเลขเจ็ดหลักแล้วยังไม่เป็นผล จึงเห็นได้ว่า ยิ่งผ่านการเวลาไปเท่าไร ความต้องการและหวงแหนของนักนิยมและผู้นิยมพระเครื่องไม่มีเสื่อมคลายจากเมืองไทยจริงๆ

ชาติภูมิหลวงพ่อยอด

 อัตชีวประวัติของหลวงพ่อยอด มีกล่าวถึงและความเป็นมาหลายกระแส จากการค้นคว้าตำรับตำราเก่าๆ ซึ่งกล่าวถึงคำบอกเล่าของ พระอาจารย์จำรัส พรหมสโร ขณะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองปลาหมอ และเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดรูปหนึ่ง

 กล่าวว่า หลวงพ่อยอด เกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๙๙ ตรงกับ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ พื้นเพเป็นชาวบ้านมะขามเฒ่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

 อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๒ ปี โดยมี พระอาจารย์อินทร วัดมะรุม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปล้อง วัดมะรุม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์รอด วัดมะค่า เป็นพระอนุสาวนาจารย์

 ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจน คันถธุระ-วิปัสสนาธุระ จากพระอุปัชฌาย์จารย์ จนแตกฉาน จากนั้นได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมที่วัดชนะสงคราม หลายพรรษา ต่อมาท่านได้รู้จักกับพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณแห่งเมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา คือ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และหลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง  และเคยพำนักจำพรรษาที่วัดพระญาติระยะหนึ่ง

 ในเทศกาลออกพรรษา ท่านได้ออกธุดงค์ไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาท สระบุรี จนมีความคุ้นเคยกับศรัทธาชาวบ้านหนองปลาหมอ กระทั่งศรัทธาชาวบ้านนิมนต์ให้ท่านพำนักจำพรรษาที่วัดหนองปลาหมอ ซึ่งขณะนั้นมีสถานะเป็นเพียงสำนักสงฆ์ เมื่อประมาณปี ๒๔๓๒

 ต่อมาท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอธิการหมวด, เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นพระครูเจ้าคณะแขวง ที่ "พระครูประสุตสังฆกิจ" เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๐ ตราบจนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๘๖  ท่านจึงถึงแก่มรณภาพ และประกอบพิธีฌาปนกิจใน พ.ศ.๒๔๘๗

 เต้ สระบุรี