พระเครื่อง

หมอสมหมาย  ทองประเสริฐ 
กับพลังศรัทธา..."หมอชีวก โกมารภัจจ์"

หมอสมหมาย ทองประเสริฐ กับพลังศรัทธา..."หมอชีวก โกมารภัจจ์"

05 มี.ค. 2554

"ประมาณพ.ศ.๒๕๑๐ ผมมีความตั้งใจจะใช้ยาสมุนไพรในการรักษาผู้ป่วย และจากการศึกษาพุทธประวัติพบว่าพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ ยกย่องหมอชีวก โกมารภัจจ์ ว่าเป็นอุบาสกผู้เลิศในด้านมีความเลื่อมใส เป็นหมอที่เสียสละและบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ชื่อเสียงและเกียรติคุณจึ

 ที่กล่าวมาเบื้องต้น คือจุดเริ่มต้นแห่งพลังศรัทธา พ่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ จากคำบอกเล่าของ นายแพทย์สมหมาย ทองประเสริฐ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี หรือเจ้าของฉายา“หมอเทวดา” โดยในแต่ละวันมีชาวบ้านแห่กันมาให้ตรวจรักษา เกือบ ๑๐๐ ราย ขณะที่ท่านออกมาบอกว่าอย่าเรียกตนว่าเป็นหมอเทวดาเลย เพราะตนเป็นเพียงแค่ “หมอธรรมดา” เท่านั้น

 "แม้ว่าผมจะเป็นศัลยแทพย์และแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ผมก็มีความเชื่อเรื่องการอธิฐานจิตและมนต์คาถา ซึ่งระยะหลังเมื่อบอกคาถาให้กับคนไข้ไม่ค่อยสวดกัน อาจจะเป็นเพราะไม่เชื่อจึงไม่บอกคาถาก่อนกินยาให้ หากใครเชื่อก็ไปลองบริกรรมก่อนกินยา ๓ ครั้ง โดยคาถามีอยู่ว่า อัต ภะ ถัง ทิพ พะ มนต์ ตา นัง โอ สะ ถัง วิ ยะ สัพ ภะ ทา คาถาบทนี้เป็นคาถาที่เขียนไว้ในตำรายา" หมอสมหมายกล่าว

 พร้อมกันนี้ หมอสมหมาย ยังบอกด้วยว่า การรักษาโรคทุกชนิดถ้าจะให้หายโดยไว ต้องอาศัยการรักษาแบบองค์รวม นอกจากผสมผสานระหว่างยาสมุนไพรกับยาแผนปัจจุบัน สิ่งสำคัญไม่น้อยยิ่งกว่า คือ การรักษาจิต ฝึกสมาธิ รวมทั้งใช้คาถาไปพร้อมๆ กัน การนั่งสมาธิ การฝึกวิปัสนากรรมฐานมีส่วนสำคัญยิ่งที่จะช่วยให้อาการเจ็บไข้ได้ป่วยให้ได้เร็วยิ่งขึ้น

 เมื่อถามถึงความเชื่อเรื่องกรรม หมอสมหมาย บอกาว่า โดยส่วนตัวแล้วมีความเชื่อในกฎแห่งกรรม ซึ่งได้มีประสบการณ์ในขณะที่มีชีวิตอยู่และเป็นบาปกรรมที่ยังจำได้ติดตามจนทุกวันนี้ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๕ ได้ไปล่าสัตว์ที่บ้านบ่อไทร อ.นาเฉลียง จ.เพชรบูรณ์ ทั้งนี้ต้องเดินข้ามเขาไปอีก ๒  ลูก เมื่อไปถึงจุดที่นั่งล่าสัตว์พรานก็ให้อยู่กับนายแพทย์ที่เป็นลูกน้อง นั่งอยู่กัน ๒ คน ในระหว่างโพรงของรากต้นไม้ใหญ่ห่างจากที่นั่งไปประมาณ ๒๐ เมตร  มีซับน้ำสำหรับสัตว์ลงมากินน้ำ

 ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. นั่งอยู่ได้สักพักหนึ่งก็มีสัตว์วิ่งลงมาจากเนินเขา แผ่นดินสะเทือน จึงค่อยๆ ชะโงกขึ้นดู  เห็นกระทิงตัวใหญ่ตัวเดียวกำลังค่อยๆ เดินไปหาน้ำซับ จึงสะกิดนายแพทย์ผู้ช่วยว่าพอกระทิงเดินเลยโพรงไม้ไปให้ช่วยกันยิงตรงโคนขาหน้า พวกป่าเรียกว่าตรงรักแร้แดงเพราะจะถูกหัวใจพอดี พอกระทิงเดินเลยไปได้จังหวะก็ช่วยกันยิงที่เดียวกัน คนละนัดเข้าตรงเป้าพอดี  กระทิงวิ่งพุ่งผ่านโพรงไม้ที่ผมซ่อนอยู่ขึ้นไปบนเนินชนกอไผ่  และก็หวนกลับลงมาคู้เข่าหน้าอยู่ห่างผมประมาณ  ๑๐  เมตร
 
 "ผมดูหน้ากระทิงขณะนั้นรู้สึกกลัวมากเพราะเพิ่งเคยยิงเป็นครั้งแรก  กระทิงคู้เข่าหน้าหันหน้ามาทางผม  เลือดไหลจากทางจมูกปากเต็มไปหมด  โดยเฉพาะตาของกระทิงน่ากลัวมาก  สีเขียวปั๊ดและมองอย่างอาฆาต  ผมกับผู้ช่วยก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรเพราะมืดพอดี  จะกลับเองก็ไม่รู้ทางต้องนั่งเฝ้าอยู่เช่นนั้นจนสว่างไม่ได้นอนทั้งคืน  พอรุ่งขึ้นพรานก็พาพวกมาหลายคน  บอกว่าได้ยินเสียงปืนน่าจะได้กระทิง  พวกพรานก็แล่เนื้อไปกิน  ส่วนผมก็เอาหัวย่างไฟกับมาบ้าน พ.ศ.๒๕๐๖  น้องชายผมก็รถคว่ำ  เสียชีวิตตรงปากทางที่เข้าบ้านบ่อไทรพอดี  ทำให้ผมนึกถึงสายตาอันอาฆาตของกระทิงว่าอาจจะมาเอาชีวิตน้องชายผมก็เป็นได้" หมอสมหมายกล่าว

 อย่างไรก็ตามขณะนี้หมอสมหมายได้จัดพ่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ โดยได้รับมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากเซียนพระ ๓ ท่าน คือ ๑.นายพยับ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย ๒. นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย หรือ "ต้อย เมืองนนท์" และ ๓. นายสุเทพ จิรวัฒน์สุนทร หรือเจ้าของฉายาที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องว่า "เทพ กำแพง" เพื่อนำรายได้ที่จากการเช่าบูชาครั้งนี้ไปสมบททุนสร้างกำแพงวัดสังฆราชาวาส จ.สิงห์บุรี  วัดนี้ถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ทำให้กำแพงวัดและศาสนสถาน ชำรุดทรุดโทรมเป็นอันมากและสร้างอาศรมที่ประดิษฐานหมอชีวกโกมารภัจจ์องค์ใหญ่ให้ประชาชนได้กราบสักการะบูชา บริเวณถนนสายเอเชีย สิงห์บุรี ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่ โทร.๐๓๖-๕๑๒-๘๘๘ และ ๐๘๑-๗๕๓-๘๑๘๔ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.doctorsommai.com

หมอชีวกฯแบบอย่างหมอ
 หมอชีวก โกมารภัจจ์ นอกจากจะถวายการรักษาพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ และประชาชนทั่วไปแล้ว ท่านมักหาเวลาเข้าเฝ้าทูลถามปัญหาข้อข้องใจในธรรมะจากพระพุทธเจ้าอยู่เสมอพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ ยกย่องหมอชีวก โกมารภัจจ์ ว่าเป็นอุบาสกผู้เลิศในด้านมีความเลื่อมใส เป็นหมอที่เสียสละและบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ชื่อเสียงและเกียรติคุณจึงรุ่งโรจน์อยู่กระทั่งทุกวันนี้ และในวงการแพทย์แผนโบราณ ได้ให้ความเคารพนับถือท่านว่า เป็น”บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ”

 คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่างหมอชีวก โกมารภัจจ์ หมอสมหมาย บอกว่า เป็นผู้มีความเสียสละ ได้ทำการรักษาคนทั่วไปด้วยความเสียสละเป็นอย่างยิ่ง ท่านไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ท่านยังได้รับหน้าที่เป็นแพทย์หลวง และแพทย์ประจำตัวของพระพุทธเจ้า ดูแลรักษาการอาพาธของพระสงฆ์ ด้วยเหตุดังกล่าวท่านจึงเป็นที่รักของปวงชนทั่วไป

 นอกจากนี้แล้ว หมอชีวก โกมารภัจจ์ ยังเป็นเป็นแบบอย่างที่ดี แพทย์แผนโบราณให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านได้ประพฤติปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมกับฐานะ ให้การรักษาผู้เจ็บป่วยโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพนับถือผู้มีพระคุณ เช่นเมื่อท่านได้รับค่าตอบแทนจากการรักษาก็นำไปถวายเจ้าชายอภัยเพื่อบูชาพระคุณ เป็นต้น

 พร้อมกันนี้หมอสมหมายยังฝากธรรมไว้อย่างน่าคิด "ถ้าไม่ทำดีในแดนดิน จะถวิลถึงสวรรค์นั้นอย่าหา ถ้าไม่มีน้ำใจในอุรา ท่านจะหาน้ำใจจากใครได้ เมื่อยังมีชีวิต ยังมีลมหมายใจ ให้รับมั่นสร้างและทำความดีไว้ตามกำลังที่ตนเองจะทำได้ "  

 "ผมก็มีความเชื่อเรื่องการอธิฐานจิตและมนต์คาถา หากใครเชื่อก็ไปลองบริกรรมก่อนกินยา ๓ ครั้ง โดยคาถามีอยู่ว่า อัต ภะ ถัง ทิพ พะ มนต์ ตา นัง โอ สะ ถัง วิ ยะ สัพ ภะ ทา"

เรื่อง/ ภาพ ไตรเทพ ไกรงู