พระเครื่อง

โบสถ์วัดท่าเจดีย์ 
สร้างจาก..."ศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก."

โบสถ์วัดท่าเจดีย์ สร้างจาก..."ศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก."

09 ก.พ. 2554

ระหว่างวันพุธที่ ๒-อาทิตย์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ นี้ ที่วัดท่าเจดีย์ ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมี พระครูพิพัฒน์เจติยาพร หรือ หลวงพ่อธนู เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้จัดให้มีงาน "ผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต" เช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ที่เลือกจัดงานในช่วงเทศกา

 รูปแบบการจัดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตของวัดท่าเจดีย์ไม่แตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ มีมหรสพสมโภช หนัง ลิเก ดนตรี ชิงช้าม้าหมุน  รวมทั้งร้านขายของกินนับร้อยร้าน แต่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงคือ "ปัจจัยในการสร้างโบสถ์จตรุมุข มาจากจากพลังศรัทธาของคณะทัวร์แสวงบุญ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก."

 โครงการทัวร์แสวงบุญของ ขสมก. ได้ให้บริการพาผู้โดยสารเดินทางท่องเที่ยวไหว้พระ ทำบุญ วันละ ๙ วัด ในราคาประหยัด เริ่มจาก พ.ศ.๒๕๔๙ โดยได้พาไปไหว้พระ ๙ วัดกรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็มีโครงการพาผู้โดยสารไหว้พระทำบุญวันละ ๙ วัด ตามต่างจังหวัด ที่สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ โดยแต่ละเขตการเดินรถก็มีโปรแกรมท่องเที่ยว ไหว้พระ ทำบุญ ออกมาแตกต่างกันไป

 ทั้งนี้ เขตการเดินรถที่ ๑ ที่เรารู้จักกันในนามอู่บางเขน ใกล้ๆ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ถือว่าเป็นศูนย์รวมของเส้นทางไหว้พระ ทำบุญ ๙ วัด ซึ่งหลากหลาย มากกว่า ๑๐ เส้นทาง โดยแต่ละเส้นทางจะมีทีมงานออกสำรวจเส้นทาง และติดต่อประสานงานวัดต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายของลูกทัวร์ ทั้งนี้จะผสมผสานวัดดังๆ ที่เป็นที่รู้จักศรัทธาแก่ประชาชนทั่วไป กับวัดที่ต้องการทุนทรัพย์ในการพัฒนา หรือปฏิสังขรณ์ ซึ่งจะทำให้ลูกทัวร์ได้มีโอกาสทำบุญได้อย่างเต็มที่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ จะแทรกด้วยวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอโชคขอลาภ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากวัดต่างๆ เป็นอย่างดี

 ในเส้นทางไหว้พระทำบุญ ๙ วัด จ.สุพรรณบุรี ซึ่งประกอบด้วย "วัดไผ่โรงวัว วัดท่าเจดีย์ วัดทับกระดาน วัดบางซอ วัดป่าเลไลยก์ วัดพระศรีมหาธาตุ วัดแค วัดสองพี่น้อง และวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์" โดยเหตุผลที่ ขสมก.เลือกวัดท่าเจดีย์ คือ “เป็นวัดที่ต้องการทุนทรัพย์ในการพัฒนา หรือปฏิสังขรณ์”

 “ต้องอนุโมทนาบุญกับคณะศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก. หลังจากเริ่มก่อสร้างโบสถ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ คณะศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก. ก็เข้ามาช่วยดำเนินการมุงกระเบื้อง ติดช่อฟ้า ใบระกา เทพื้นปูน สร้างเขื่อน สร้างพระ สร้างศาลาท่าน้ำ รวมทั้งสร้างห้องน้ำ ซึ่งจะว่าไปแล้วสิ่งก่อสร้างภายในวัดท่าเจดีย์ทั้งหมดปัจจัยหลักมาจากคณะคณะศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก.” นี่เป็นคำยืนยันของ พระครูพิพัฒน์เจติยาพร

 พร้อมกันนี้ พระครูพิพัฒน์เจติยาพร ยังบอกด้วยว่า เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ มีพื้นที่ประมาณ ๖ ไร่ โดยได้ยกเป็นวัด พ.ศ.๒๕๔๒ มีเพียงเจดีย์ร้าง ศาลาเก่าๆ และโรงครัวเล็กๆ เท่านั้น เมื่อคณะทัวร์ขสมก. และญาติโยมจากที่อื่นมีศรัทธาต่อวัด ปัจจัยทุกบาททุกสตางค์จึงถูกใช้เพื่อสร้างศาสนสถานตามที่ญาติโยมตั้งใจไว้ และสิ่งหนึ่งที่วัดให้ความสำคัญคือ การสร้างห้องสุขา ที่เน้นความสะอาด โปร่ง โล่ง สบาย รวมทั้งมีความสวยงามด้วย โดยมีแนวความคิดว่า ห้องสุขาเปรียบเสมือนห้องรับแขกของวัด เป็นที่ถ่ายทุกข์ทางกาย และเป็นสิ่งเดียวที่ญาติโยมใช้มากที่สุด

 เมื่อถามถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมของโบสถ์ ซึ่งแตกต่างจากโบสถ์ทั่วๆ ไป พระครูพิพัฒน์เจติยาพร บอกว่า แรกเริ่มเดิมทีของการก่อสร้างโบสถ์นั้น ครึ่งหนึ่งอยู่บนบกอีกครึ่งตั้งอยู่ในน้ำ และการถมดินรวมทั้งตอกเสาเข็มถ้าไม่แข็งแรงมากพอในระยะยาว หากมีฝาผนังจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้ตัวโบสถ์อาจทำให้โบสถ์ทรุดเอียงได้ ทางวัดจึงสร้างเป็นโบสถ์จตุรมุขไม่มีฝาผนังกั้นใดๆ โดยใช้รูปแบบของโบสถ์วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ใช้ปัจจัยก่อสร้างไปประมาณกว่า ๑๐ ล้านบาท

ลูกนิมิตยักษ์
 “๓ เมตร” เป็นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลูกนิมิตของวัดท่าเจดีย์ โดยตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของโบสถ์ ซึ่งถือว่าเป็นลูกนิมิตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทั้งนี้ พระครูพิพัฒน์เจติยาพร ให้หตุผลว่า ลูกนิมิตยักษ์สร้างขึ้นมาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘๔ พรรษา และเพื่อเป็นอนุสรณ์งานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตวัดท่าเจดีย์ ซึ่งจะตั้งอยู่เช่นนี้เรื่อยไป โดยไม่มีการฝังลงดินเช่นเดียวกับลูกนิมิตทั้ง ๙ ลูก ในและรอบอุโบสถ

 อย่างไรก็ตาม แม้วัดท่าเจดีย์จะได้ยกเป็นวัด มาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๒ แล้วก็ตาม แต่ก็เป็นวัดไม่สมบูรณ์เลยทีเดียว ความเป็นวัดสมบูรณ์เมื่อได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา หมายถึง เขตที่พระมหากษัตริย์พระราชทานให้แก่พระสงฆ์ เพื่อใช้เป็นที่สร้างอุโบสถ หรือเขตที่พระสงฆ์ใช้ประกอบสังฆกรรม วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ต้องเป็นวัดที่มีความมั่นคงถาวร และเจ้าอาวาสวัดนับเป็นผู้มีศักยภาพในการบูรณปฏิสังขรณ์และการพัฒนาวัดให้มีคุณสมบัติครบถ้วน

 ตามที่กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๐๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.๒๕๐๕ ข้อ ๑๑ บัญญัติไว้ว่า "วัดที่สมควรได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ต้องปรากฏว่า ได้สร้างหรือได้ปฏิสังขรณ์เป็นหลักฐานถาวร และมีพระภิกษุอยู่ประจำไม่น้อยกว่าห้ารูป ติดต่อกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๕ ปี แต่ระยะ ๕ ปี มิให้ใช้บังคับแก่วัดที่สร้างอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวัดหนึ่งๆ ในช่วงชีวิตจะมีงานบุญผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตเพียงครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้พุทธศาสนิกชนจึงมีคติความเชื่อว่า หากได้ร่วมงานบุญผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตจะได้บุญมาก และเพื่อความความสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมงานทุกท่าน วัดได้จัดสร้างพระผงเศรษฐีนวโกฏิ และตะกรุดหวาย มอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้มาร่วมงานทุกท่าน พุทธศาสนิกชนร่วมบุญได้ที่วัดท่าเจดีย์ โทร.๐๘-๑๓๖๕-๖๔๐๙


 “หลังจากเริ่มก่อสร้างโบสถ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ คณะศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก. ก็เข้ามาช่วยดำเนินการมุงกระเบื้อง ติดช่อฟ้า ใบระกา เทพื้นปูน สร้างเขื่อน สร้างพระ สร้างศาลาท่าน้ำ รวมทั้งสร้างห้องน้ำ จะว่าไปแล้วสิ่งก่อสร้างภายในวัดมาจากคณะศรัทธาทัวร์แสวงบุญ ขสมก.”

0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0