พระเครื่อง

ชั่วโมงเซียน-"นะโม โพธิสัตโตฯ"คาถา...หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

ชั่วโมงเซียน-"นะโม โพธิสัตโตฯ"คาถา...หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

07 ก.พ. 2554

“นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” เป็นคาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด โดยมีคติความเชื่อสืบต่อกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า "อานุภาพแห่งพระคาถานี้ ประมาณมิได้เลย ภาวนาก่อนออกเดินทาง เป็นแคล้วคลาดปลอดภัย ภัยอันตรายไม่กล้ำกลาย"

อุปเท่ห์ หรือการใช้คาถาบทนี้ คือ ให้สวดภาวนา พระคาถา ก่อนขึ้นรถ ลงเรือ ติดต่อค้าขาย จักเกิดสิริมงคล โชคลาภมากมาย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ท่านว่าให้หมั่นสวด เจริญภาวนา พระคาถา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืดนี้เถิด จักบังเกิดสิ่งอัศจรรย์แก่ตนเองและครอบครัว

 ขณะเดียวกันยังมีคติความเชื่อด้วยว่าพุทธคุณคาถานั้น หากท่องเป็นประจำจะคุ้มครองให้เราแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ เช่นเดียวกับการแขวนพระหลวงปู่ทวด โดยก่อนท่องคาถาบทหลวงปู่ทวดให้เริ่มต้นด้วยการตั้งนะโม ๓ จบ แล้วก็ระลึกถึงคุณพระ เป็นการขอพรบารมี

 ทั้งนี้ หากถอดคำแปลคาถาหลวงปู่ทวด แยกออกมาแต่ละตัว มีความหมายที่น่าสนใจ ดังนี้

 "นะโม" หมายถึง พระผู้มีพระภาค ทรงเป็นใหญ่กว่ามนุษย์ เทพยดา พราหมณ์ มาร ยักษ์ และสัตว์ทั้งปวง

 นอกจากนี้แล้ว "นะโม" แปลว่า "นอบน้อม" ดังคำแปลที่แปลไว้ต้นหมวดพุทธว่า "ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า" ทั้งนี้ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺตเถร ท่านได้ชี้แจงไว้ในหนังสือมุตโตทัย ถึงที่มาที่ไปของ "นะโม" สรุปพอสังเขปได้ว่า

 นะ คือ ธาตุน้ำ ซึ่งมาจากแม่
 โม คือ ธาตุดิน ซึ่งมาจากพ่อ

 ทั้งสองธาตุนี้ผสมกันจึงเกิดเป็นตัวเรา โดยมีธาตุไฟและธาตุลมเข้ามาอาศัยภายหลัง นะโม จึงสำคัญเพราะเป็นธาตุตั้งต้น และเมื่อครั้งหมดธาตุลมและธาตุไฟ ทุกอย่างก็จะสลายคืนธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ว่า "นะโม" นอกจากจะแปลตรงตัวว่า "นอบน้อม" แล้วยังมีความหมายเชิงลึกเช่นนี้อีกด้วย

 อย่างไรก็ตาม หากคำว่าผวน "นะโม" จะได้ว่า "มโน" แปลว่า "ใจ" ตรงนี้ก็ต้องยกพุทธพจน์ว่า "มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฎฺฐา มโนมยา" หมายถึง "ธรรมทั้งหลายมีใจถึงก่อน มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจนั่นเอง"

 "โพธิสัตโต" ก็คือ พระโพธิสัตต์ ในที่นี้หมายถึง หลวงปู่ทวด ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีเมตตาต่อสรรพสัตว์

 "อิติภะคะวา" กร่อนมาจากบทสรรเสริญพระพุทธคุณ ที่ว่า "อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ" ซึ่งแปลความได้ดังนี้

 อิติปิ โส ภะคะวา หมายถึง เพราะเหตุอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น 
 อะระหัง หมายถึง เป็นผู้ไกลจากกิเลส
 สัมมาสัมพุทโธ หมายถึง เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง
 วิชชาจะระณะสัมปันโน หมายถึง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ 
 สุคะโต หมายถึง เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
 โลกะวิทู หมายถึง เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
 อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ หมายถึง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
 สัตถาเทวะมนุสสานัง หมายถึง เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
 พุทโธ หมายถึง เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม 
 ภะคะวาติ หมายถึง เป็นผู้มีความเจริญจำแกธรรมสั่งสอนสัตว์

 ในการท่องคาบทอิติปิโสฯ นั้น หากท่องจากข้างหลังมาข้างหน้า จะเรียกว่า "บทอิติปิโสฯ แบบ ปฏิโลม" หรือท่องถอยหลัง มีคติความเชื่อว่า พุทธคุณจะเหนือกว่าท่องตามปกติ การท่องถอยหลังมีดังนี้
 
     "ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯวิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระอะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ"

 อย่างไรก็ตาม คาถาหลวงปู่ทวดที่ว่า “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” จะใกล้เคียงกับคาถาขอขมาพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ว่า "นะโมโพธิสัตโต นะโมพุทธายะ อิติสุขะโต อะระหังพุทโธ อาคันติมายะ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ พุทธะรัตตะนัง ปะถะวีคงคา ธัมมะรัตตะนัง พระภุมมะเทวา อิติภะคะวา สังฆะรัตตะนัง ขะมามิหัง"

  นอกจากนี้แล้ว เพื่อเพิ่มความเข้มขลังของคาถาหลวงปู่ทวด ยังมีการเพิ่มคาถาหัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์ไว้ด้านหน้าและด้านหลัง กลายเป็น "คาถาหลวงปู่ทวดเปิดโลก" คือ “นะ เปิด โม เปิด พุท เปิด ธา เปิด ยะ เปิดโลกด้วย นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ยะธาพุทโมนะ” ทั้งนี้ในส่วนของคาถาบทหลังนั้น เป็นการท่องคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์แบบถอยหลังที่ว่า “ยะ ธา พุท โม นะ”

 คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือ คาถาแม่ธาตุใหญ่ ที่ว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” ซึ่งมีพุทธคุณเหนือยันต์ทั้งปวง รวมทั้งความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล" หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ "มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย"

 สำหรับเหรียญหลวงปู่ทวดที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้น เป็นเหรียญโภคทรัพย์ เนื้ออัลปาก้าหน้านวะ  ด้านหน้าเป็นหลวงปู่ทวด บริเวณขอบของเหรียญลงคาถาหลวงพ่อทวดที่ว่า "นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา"

 ส่วนด้านหลังเป็นหลวงพ่อพรหมที่ “พระครูธรรมพลาธร” หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันติดปากว่า “พ่อท่านพรหม ธัมมธีโร” แห่ง “วัดพลานุภาพ” หรือ "วัดทุ่งพลา” อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จัดสร้างขึ้นมาเพื่อหาปัจจัยสมทบทุนการบูรณะวัด รวมทั้งเพื่อใช้เป็นทุนในการจัดงานบุญงานกุศลของวัด

 ขณะเดียวกันยังสร้างเหรียญเนื้อทองคำ เนื้อนวโลหะ และเนื้ออัลปาก้าหน้าทองทิพย์ เพื่อให้เช่าบูชา ส่วนเหรียญเนื้อทองแดงนั้นสร้างประมาณ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ เพื่อแจกฟรีสำหรับผู้เดินทางไปร่วมพิธีปลุกเสก ที่วัดพลานุภาพ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ กุมภาพันธ์นี้

 ปัจจุบัน พ่อท่านพรหม อายุย่าง ๙๔ เเล้ว เวลามีชาวบ้านมากราบขอพร หรือมาเล่าเรื่องประสบการณ์ที่ได้พบเห็นจากหลวงปู่ ท่านจะพูดเป็นภาษาใต้ ที่แปลว่า ไม่พูดๆ ท่านบอกว่า "อยู่เพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าใครมีสัจจะ คิดดี ทำดี เทวดาก็คุ้มครอง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ก็คุ้มครอง" ทหารตำรวจที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ หากมีเวลาว่างก็จะเดินทางไปขอรับวัตถุมงคลจากท่าน พุทธศาสนิกชนร่วมบุญได้ที่วัดพลานุภาพ โทร.๐๘-๑๖๙๐-๐๑๐๘ และ ๐๘-๑๗๕๓-๘๑๖๗

อ.โสภณ