พระเครื่อง

'ปอ สตูดิโอ'คนหนุ่มเจ้าของความคิดร้านถ่ายภาพ'พระเครื่อง'นอกสถานที่

'ปอ สตูดิโอ'คนหนุ่มเจ้าของความคิดร้านถ่ายภาพ'พระเครื่อง'นอกสถานที่

06 ก.พ. 2554

ภาพถ่ายพระเครื่องรางของขลัง นับเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับวงการพระมานานกว่า ๕๐ ปี จากตัวเลขที่ได้จากหนังสือตำราพระสมเด็จ ของ "ตรียัมปวาย" และหนังสือภาพพระเครื่องของ อ.ประชุม กาญจนวัฒน์ ตลอดจนตำราพระเครื่องอีกหลายเล่มของ อ.เชียร ธีระศานต์ ล้วนมีอายุการจัดท

 หนังสือตำราพระเครื่องทุกเล่ม จะต้องมีภาพประกอบ ซึ่งเป็นภาพพระเครื่องต่างๆ ซึ่งสมัยนั้นการถ่ายภาพพระเครื่องแต่ละองค์มีปัญหาสารพัด ตั้งแต่กล้องถ่ายภาพ ซึ่งเป็นกล้อง ๒ เลนส์ การจับภาพก็ต้องกะระยะห่างเอาเอง ไม่มีระบบอัตโนมัติ เหมือนเช่นทุกวันนี้

 ขณะเดียวกัน เลนส์ถ่ายภาพระยะใกล้ หรือมาโครเลนส์ ก็ยังไม่แพร่หลาย หาซื้อยาก ที่สำคัญคือ ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักวิธีใช้กันนัก อย่างเก่งก็ใช้ทิวส์ (ท่อต่อเลนส์ให้ได้ระยะใกล้กว่าปกติ) หรือฟิลเตอร์ขยายภาพสวมหน้าเลนส์ ซึ่งใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่คมชัดมากนัก

 เวลาจะถ่ายภาพพระสักองค์ ก็ทุลักทุเลพอสมควร ถ้าเป็นพระที่พอตั้งยืนได้ อย่างเช่น พระกริ่ง ก็พอจะถ่ายได้บ้าง หากเป็นพระองค์แบนราบ หรือเหรียญ ก็ต้องวุ่นวายน่าดู เพราะจะทำอย่างไรให้องค์พระอยู่ในแนวตั้งได้ ก็ต้องอาศัยใช้เม็ดหมุดยึดให้องค์ติดกับฝาผนัง หรือเอาองค์พระปะติดกับดินน้ำมัน แล้วเอาดินน้ำมันปะติดกับฝาผนังอีกทีหนึ่ง ขั้นตอนนี้ก็ต้องรีบๆ ถ่ายภาพพระให้รวดเร็วที่สุด ก่อนองค์พระจะร่วงหล่นลงมา ดูแล้วน่าหวาดเสียวจริงๆ

 หลายปีผ่านมา อ.ประชุม กาญจนวัฒน์ ซึ่งเป็นช่างภาพหนังสือพิมพ์รายวัน เป็นมือหนึ่งของบรรดาช่างภาพสมัยนั้น ขณะเดียวกันท่านก็มีความสนใจในเรื่องพระเครื่องด้วย เนื่องจากสมัยนั้นต้องไปทำข่าว พระแตกกรุ บ่อยๆ ก็เลยหันมาสะสมพระเครื่องด้วย

 อ.ประชุม ได้อ่านพบในตำราถ่ายภาพของเมืองนอก จึงทราบว่า การถ่ายภาพของเล็กๆ ต้องทำอย่างไร ขั้นแรกต้องมีเลนส์มาโคร ๒.ต้องมีแผ่นกระจกใส วางบนขาเหล็ก ๔ ขา มีระยะสูงพอสมควร พร้อมกับไฟส่องสิ่งของที่จะถ่าย และ ๓.ต้องมีขากล้องแบบตั้งได้มุมฉากกับสิ่งของที่จะถ่าย (copy stand) ไม่ใช่ขากล้องที่เห็นทั่วไปซึ่งมี ๓ ขา

 ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ได้ภาพถ่ายองค์พระที่คมชัด และไม่มีเงาภาพ ซึ่งเป็นกรรมวิธีหลักที่ช่างภาพพระเครื่องใช้กันในทุกวันนี้

 ทุกวันนี้การถ่ายภาพพระเครื่องไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกแล้ว กล้องถ่ายภาพก็อัตโนมัติทุกอย่าง แถมยังใช้ระบบดิจิทัล ไม่ต้องเปลืองฟิล์มอีกต่างๆ เมื่อได้ภาพถ่ายมาแล้วยังมีโอกาสปรับแต่งในคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย เรียกว่าง่ายขึ้นมาก

 กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกคุณงามความดีให้ท่าน อ.ประชุม กาญจนวัฒน์ ผู้นำระบบการถ่ายภาพไม่มีเงา และสวยคมชัดมาใช้ในวงการพระเครื่องเป็นท่านแรก จนกลายเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับวงการพระในทุกวันนี้

 ภาพพระเครื่องที่ใช้งานกันมาก คือ งานประกวดพระเครื่อง ซึ่งต้องบันทึกภาพพระชนะการประกวด เพื่อติดใบประกาศนียบัตร ประมาณงานละ ๕,๐๐๐ ภาพ เป็นอย่างน้อย

 ที่ใช้งานรองลงมา คือ การถ่ายภาพพระเพื่อนำลงพิมพ์ในหนังสือพระ หรือลงเว็บไซต์ซื้อขายพระ รวมทั้งเพื่อจัดทำหนังสือรวมภาพพระเครื่องต่างๆ ที่นิยมกันในสมัยนี้

 ขณะเดียวกันก็มีการถ่ายภาพพระเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน หากมีการสูญหาย หรือสลับสับเปลี่ยนองค์พระ เมื่อนำไปส่งตามงานประกวดพระ จะได้นำไปยืนยันกันได้ รวมการถ่ายภาพพระเพื่อเอาไว้ศึกษา หรือสะสมเป็นสมุดภาพพระที่มีอยู่ในครอบครอง

 ทั้งหมดนี้ทำให้การถ่ายภาพพระกลายเป็นธุรกิจที่เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ในช่วงประมาณ ๑๐ ปีที่ผ่านมา ทำให้เวลานี้มีช่างภาพฝีมือดีในการถ่ายภาพพระได้อย่างสวยงามคมชัด เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

 และหนึ่งในนั้นก็คือ ปอ สตูดิโอ (อิศรา เตชะสา) คนหนุ่มสายเลือดใหม่ ผู้ถ่ายภาพพระได้อย่างเฉียบขาดคนหนึ่ง และเป็นผู้จัดทำหนังสือตำรา พระสมเด็จ วัดระฆัง ๑๐๐ ปี ที่มีภาพพระสมเด็จ ๑๐๐ ปี และประวัติความเป็นมาอย่างละเอียดสมบูรณ์ที่สุด

 ที่น่าสนใจคือ นอกจาก "ปอ" จะรับถ่ายภาพพระที่สำนักงานของตัวเองแล้ว ยังเดินสายถ่ายภาพพระตามงานประกวดพระอีกด้วย (ไม่เกี่ยวกับทีมงานถ่ายภาพพระชนะการประกวด) โดยตั้งบูธอยู่ในกลุ่มแผงพระจร รับถ่ายภาพพระก่อนส่งเข้าประกวด หรือถ่ายภาพของนักสะสมทั่วๆ ไป ที่ต้องการรับภาพพระทันทีที่ถ่ายภาพพระเสร็จ รอรับได้ในเวลาไม่กี่นาที

 "ปอ" เล่าย้อนอดีตของตัวเองว่า "ผมเกิดมาก็รู้จักพระเครื่องแล้ว เพราะครอบครัวของคุณแม่คลุกคลีอยู่ในวงการพระ และทำธุรกิจหนังสือพระมาโดยตลอด เมื่อผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สายศิลปกรรม ก็ได้ช่วยคุณแม่ทำงานหนังสือพระ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนข่าว เรียบเรียงบทความ การนำพระของลูกค้าไปตรวจสอบจากท่านผู้รู้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าเป็นพระแท้ ก่อนนำลงพิมพ์ในหนังสือ รวมทั้งงานถ่ายภาพข่าวและภาพพระเครื่อง โดยผมได้เรียนรู้จาก "พี่เล็ก" (พรณรงค์ บัวศักดิ์) ซึ่งเป็นช่างภาพอาชีพ ได้ผ่านสายงานต่างๆ มาแล้วมากมาย หนังสือพระที่คุณแม่ทำคือ นิตยสาร "ธุรกิจพระ" ซึ่งจัดทำมาแล้ว ๑๒ ปี เป็นนิตยสารที่มีทั้งสาระพระเครื่องและสื่อกลางการซื้อขายพระ (ที่มีใบรับประกันว่าเป็นพระแท้) และนิตยสาร "ทรัพย์สยาม" ฉบับนี้เป็นแนวความคิดของผม ที่ต้องการสนองความสนใจของนักสะสมพระคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเช่าหาพระกลางเก่ากลางใหม่ เน้นข้อมูลที่มีหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด เป็นพระดูง่าย มีพระจำนวนมากที่จะเช่าหาได้ในราคาที่ไม่แพงนัก ซึ่งพระระดับนี้ผมสามารถดูได้ ตัดสินใจซื้อขายได้ด้วยตัวเอง เช่น พระสมเด็จ วัดระฆัง ๑๐๐ ปี ซึ่งผมได้จัดทำเป็นหนังสือรวมเล่มมาแล้ว พระสมเด็จ บางขุนพรหม ปี ๐๙ และปีต่อๆ มา ที่มีมวลสารพระเก่าอยู่ด้วย รวมทั้งพระเครื่องที่สร้างขึ้นในช่วงปี ๒๕๐๐ ลงมา"

 จากการที่ได้ตระเวนไปตามงานประกวดพระต่างๆ พบว่า มีนักสะสมพระจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่มาจากต่างจังหวัด หาร้านถ่ายภาพพระที่ดีๆ ถ่ายภาพได้สวยคมชัด ในบริเวณงานประกวดพระไม่ได้ ทีมงานถ่ายภาพพระชนะการประกวด ก็ไม่ได้รับถ่ายภาพให้คนทั่วไป เพราะงานของเขาก็มีล้นมืออยู่แล้ว "ปอ" จึงผุดความคิดการรับงานถ่ายภาพตามงานประกวดพระทั่วไปขึ้นมาทันที

 ปอเล่าตรงจุดนี้ว่า "ผมจึงปรึกษาเรื่องนี้กับ "พี่เล็ก" ผู้เป็นอาจารย์ ซึ่งเห็นดีด้วย ก็เลยเปิดร้านถ่ายภาพพระขึ้นในงานประกวดพระ ครั้งแรกที่ห้าง ตั้ง ฮั่ว เส็ง ธนบุรี เมื่อปี ๒๕๕๑ โดยยกกล้องถ่ายภาพ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ๊นท์ภาพ และอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกับทีมงาน ๕ คน ไปตั้งห้องถ่ายภาพเคลื่อนที่ในบริเวณที่ตั้งของแผงพระจร โดยใช้พื้นที่ ๑๕ โต๊ะ เสียค่าเช่าโต๊ะเหมือนกับแผงพระจรทุกอย่าง ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักพระเครื่องจำนวนมาก จนทำงานกันแทบไม่ทัน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งส่งพระเข้าประกวด ยังไม่มีความมั่นใจว่า พระที่ส่งเข้าไปประกวดแล้วพระจะหายไหม จะถูกสลับสับเปลี่ยนพระไหม พระจะชำรุดเสียหายไหม ฯลฯ ล้วนเป็นความกังวลใจของคนที่เพิ่งส่งพระเข้าประกวดครั้งแรกๆ จึงได้มาถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยผมจะถ่ายพร้อมกับกล่องพระ และใบส่งพระ ที่กรอกชื่อพระชื่อเจ้าของพระไว้เรียบร้อยแล้ว ทำให้เจ้าของพระถูกใจมาก เพราะจะเป็นหลักฐานอย่างดี เมื่อพระที่ส่งเข้าประกวดมีปัญหา ส่วนบางคนเอาพระมาถ่ายภาพแล้วก็อยากได้ภาพพระไปทันที เราก็บริการให้ เพราะมีเครื่องปริ๊นท์แบบใหม่ทันสมัยที่สุดอยู่แล้ว ภาพพระที่ปริ๊นส์ออกมาจะมีคุณภาพเหมือนที่ปริ๊นท์จากแล็บสีของร้านถ่ายภาพทั่วๆ ไป (โดนน้ำไม่เป็นลอกหลุด)  โ

 ดยคิดค่าบริการเพียงภาพละ ๔๐ บาท ถ่ายภาพอย่างเดียวลงซีดี ไม่ปริ๊นท์ภาพ ภาพละ ๒๕ บาท นอกจากนี้ท่านที่ต้องการจะให้ไรท์ลงแผ่นซีดีก็ได้ แผ่นละ ๒๐ บาท จะมีกี่ภาพก็ราคาเท่านี้ รวมทั้งจะให้ย่อขนาดภาพ เพื่อนำลงอินเทอร์เน็ต เราก็ทำให้ได้ ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าพึงพอใจมาก ต่างบอกกันต่อๆ กันไป เมื่อมีงานประกวดพระที่ไหนก็จะมีคนเอาพระมาให้ถ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน มีบางท่านต้องการให้ไปถ่ายภาพพระที่บ้าน เพราะมีพระจำนวนมาก ไม่อยากเอาออกจากบ้าน เราก็ยินดีบริการให้ ทุกวันนี้ทีมงานของผมจะไปถ่ายภาพตามงานประกวดพระทุกแห่ง ที่มีระยะทางไม่เกิน ๔๐๐ กม.จากกรุงเทพฯ นอกเหนือจากการถ่ายภาพที่สำนักงาน กอง บก.นิตยสารพระเครื่องทั้ง ๒ ฉบับ ซึ่งเป็นทั้งศูนย์พระเครื่องที่มีพระหลากหลายชนิด ที่ผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่าเป็น "พระแท้" ทุกองค์ เพื่อให้ผู้ซื้อพอใจที่ได้ของดีไปสักการบูชา และจะได้เป็นลูกค้าประจำต่อไปนานๆ"

 นับเป็นความคิดอ่านที่น่ายกย่องและน่าสนับสนุน สำหรับคนหนุ่มวัย ๓๐ เศษคนนี้ที่ชื่อ "ปอ สตูดิโอ" ลูกชายคนเก่งของคุณแม่ผู้บริหารนิตยสาร "ธุรกิจพระ" และ "ทรัพย์สยาม" บริษัท สำนักพิมพ์ทรัพย์สยาม จำกัด เลขที่ ๒๑๒/๓๗ หมู่ ๑ หมู่บ้านนทรีเพลส ถนนนครอินทร์ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ๑๑๐๐๐ โทร.๐๘-๕๑๒๑-๓๒๘๗, ๐๘-๕๑๒๑-๓๒๘๗, ๐-๒๘๘๖-๗๙๖๒-๓ / email : [email protected] หรือที่เว็บไซต์ amuletbiz.com
 ด้วยความขยันหมั่นเพียร มานะอดทน นิสัยใจคอดี บริการดี มีความเป็นกันเองกับลูกค้าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้ที่ทำงานด้วยใจรักอย่างแท้จริงของ "ปอ" เชื่อแน่ว่าอนาคตจะต้องก้าวไกลไปข้างหน้าบนเส้นทางสายนี้อย่างแน่นอน

0 ตาล ตันหยง 0