
'การศึกษาเรื่องพระเครื่องไม่มีที่สิ้นสุด''ปื๊ด ลำลูกกา' กรรมการตัดสินพระเนื้อผงยอดนิยม
วงการพระในทุกวันนี้ เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่มีคนรุ่นใหม่เล่นพระได้ดีมีมาตรฐานมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของหลักประกัน พระแท้ ที่ให้กับลูกค้าโดยทั่วไป นับเป็นที่พึ่งพาอาศัยของคนรุ่นใหม่ ที่เพิ่งหันมานิยมสะสมพระได้เป็นอย่างดี
ปื๊ด ลำลูกกา (ชูเดช คำฝึกฝน) เป็นคนรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักพระเครื่องที่ดี มีมาตรฐานการเล่นพระที่น่าเชื่อถือ และไว้วางใจได้ เพราะเป็นผู้ที่ซื้อขายแต่ พระแท้ มาโดยตลอด
‘ปื๊ด’ เล่าย้อนอดีตของตัวเองว่า “ผมเป็นชาวลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยกำเนิด เมื่อเรียนหนังสือจนจบชั้นอาชีวะแล้ว ได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ช่วงเด็กๆ ได้เห็นผู้ใหญ่เขาเล่นพระกันแล้ว คือพี่เขยผมเอง (สมาน คลองสาม) สมัยนั้นเขานิยมเล่นพระแบบประมูลกัน บางวันประมูลกันถึงตี ๑ ตี ๒ ก็มี เห็นแล้วก็สนุกดี ผมต้องทำหน้าที่พายเรือรับส่งพี่หมาน เวลาไปซื้อขายหรือประมูลพระที่บ้านเพื่อนเสมอ ทำให้ซึมซับในเรื่องของพระมาตั้งแต่สมัยนั้น”
ช่วงที่ทำงานบริษัท ‘ปื๊ด’ บอกว่ามีปัญหามาก ไม่มีความสุขเลย ลำบากใจมาก จึงลาออกดีกว่า อยู่ไปก็ทรมานใจเปล่าๆ หางานใหม่ทำดีกว่า
ตรงนี้เองที่ทำให้ ‘ปื๊ด’ คิดไปถึงวันเวลาที่ผ่านมา สมัยที่ ‘พี่หมาน’ ซื้อขายประมูลพระกัน เห็นผู้ใหญ่แต่ละท่านมีความสุขสนุกสนานกับเรื่องของพระเครื่องกันมาก ‘ปื๊ด’ จึงคิดว่าอาชีพซื้อขายพระเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และคิดว่าพอจะทำได้ เพราะมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว พอดีกับที่ อ.ปรีชา ดวงวิชัย เซียนพระรุ่นใหญ่ ไปเปิดศูนย์พระที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ‘ปื๊ด’ จึงไปเปิดแผงพระที่นั่นด้วย (ปี ๒๕๓๓) นับเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ปื๊ด’ ที่ก้าวเข้ามาสู่วงการพระอย่างเต็มตัว
“สมัยนั้นมีคนบอกผมว่า การเล่นพระหากดูพระ ๕ สำนักนี้ได้ ก็เอาตัวรอดได้แล้ว คือ พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระหลวงพ่อโสธร พระวัดปากน้ำ พระพุทธชินราช อินโดจีน ๒๔๘๕ และพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งผมพอดูได้ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่เก่งนัก ก็พอเอาตัวรอดได้อย่างที่เซียนพระรุ่นพี่ๆ เขาบอก หากพระมีปัญหา ก็ให้รุ่นพี่เขาช่วยดูให้ได้ จากการเปิดแผงพระที่จตุจักร และมีเซียนพระรุ่นพี่รุ่นพ่อเป็นที่ปรึกษา ทำให้ผมดูพระเป็นขึ้นมาก และดูพระได้อย่างหลากหลายด้วย เพราะได้คลุกคลีกับพระต่างๆ ตลอดทั้งวัน มีความสุขมากในช่วงนั้น ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งเพื่อน และได้ทั้งความรู้ในการดูพระ ซึ่งค่อยๆ พัฒนาขึ้นตามลำดับ จนนานวันเข้าก็มั่นใจได้ว่า โอกาสพลาดมีน้อยมาก” ปื๊ด กล่าวด้วยความภูมิใจ
เนื่องจากสนามพระที่ตลาดนัดสวนจตุจักร มีคนมากเฉพาะวันเสาร์วันอาทิตย์ ทำให้ ‘ปื๊ด’ ต้องหาสนามพระอีกแห่งหนึ่ง เพื่อจะได้ขายพระในวันธรรมดา คือ ที่ห้างเซียร์รังสิต ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน
ปรากฏว่าแผงพระของ ‘ปื๊ด’ ที่เซียร์รังสิต ไปได้ดี เพราะมีคนเข้ามาซื้อขายพระกันเยอะมาก และมักจะมีชาวบ้านเอาพระดีๆ มาขายให้เสมอ
ต่อมา เมื่อ ‘ป๋ายัพ’ (พยัพ คำพันธุ์) นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ได้เปิดสนามพระ ‘ชมรมพระเครื่องมรดกไทย’ บนชั้น ๓ ห้างบางลำภู งามวงศ์วาน (ทุกวันนี้ คือ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน) ‘ปื๊ด’ ก็ได้มาเปิดตู้พระที่นี่ด้วย...จนถึงทุกวันนี้
'ปื๊ด' บอกว่า ที่ผ่านมามีโอกาสได้ซื้อพระหลักยอดนิยมหลายองค์ ทั้งพระสมเด็จ วัดระฆัง และบางขุนพรหม ตลอดจนพระชุดเบญจภาคีอื่นๆ รวมทั้งพระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สำหรับพระ ๕ รายการหลัก ที่ใครดูพระเป็นจะเอาตัวรอดได้นั้น คือ พระหลวงพ่อปาน พระหลวงพ่อโสธร พระวัดปากน้ำ พระหลวงพ่อทวด พระพุทธชินราช วัดช้างให้ ไม่ต้องพูดถึง ซื้อขายได้บ่อยมาก และส่วนใหญ่เก็บได้ไม่ทันข้ามวันจะมีผู้มาขอซื้อต่อทันที บางครั้งเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงในสนามพระนี่แหละ มาซื้อตัดไปขายต่อก็มี เพราะผมบวกกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้เพื่อนได้กินกันบ้าง จะได้คบหาสมาคมกันไปนานๆ"
พระส่วนใหญ่ที่ 'ปื๊ด' ซื้อมานั้น จะใช้ความสามารถของตัวเองเป็นหลักในการตัดสินใจซื้อ เพราะพระทุกประเภทได้ผ่านสายตามาแล้วทั้งนั้น โอกาสพลาดมีน้อย แต่ก็ต้องมีบ้าง เป็นธรรมดาของเซียนพระทุกคน ต้อง 'โดน' (ซื้อพระปลอม) มาด้วยกันทั้งนั้น ใครไม่ 'โดน' แสดงว่าไม่เคยซื้อพระด้วยตัวเองมาก่อน
ในกรณีที่เจอ 'พระคาบลูกคาบดอก' คือ ดูเป็นพระแท้ก็ใช่ ดูเป็นพระปลอมก็ได้ จะทำอย่างไร 'ปื๊ด' บอกว่า "การซื้อพระต้องกล้าตัดสินใจทันที หากมัวชักช้า คนขายจะเดินจากไป เราก็อด ตรงจุดนี้ก็ต้องดูที่ราคาพระ ว่าน่าเสี่ยงไหม ถ้าไม่แพงมาก ก็น่าเสี่ยง หากเป็นพระปลอมจะได้เจ็บตัวไม่มาก แต่ถ้าพระมีราคาสูง ต้องเรียกพรรคพวกเพื่อนฝูงมาช่วยกันพิจารณา ถ้าเป็นพระแท้ขายได้มีกำไรก็ต้องแบ่งกัน เพราะคนเราจะอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ก็ต้องมี 'เพื่อน' ตามคำที่ 'ป๋ายัพ' ได้สอนสั่งเอาไว้"
การซื้อพระเข้าร้าน 'ปื๊ด' บอกว่า ส่วนหนึ่งผู้ขายจะนำมาเสนอที่หน้าร้าน อีกส่วนหนึ่งต้องตระเวนหาซื้อจากที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามงานประกวดพระ ที่มีแผงจรเข้ามาขายพระมากมาย สมัยก่อนตามแผงจรได้พระแท้บ่อยๆ และมีราคาไม่แพง แต่ทุกวันนี้หาได้ยาก เพราะคนขายพระตามแผงจรต่างก็มีความรู้มากขึ้น หูตากว้างไกล ดูพระได้เก่งขึ้น จากตำราบ้าง หนังสือพระบ้าง อินเทอร์เน็ตบ้าง หรือสอบถามจากผู้รู้บ้าง และที่นิยมกันมาก คือ ส่งพระเข้าประกวดตามงานใหญ่ๆ ถ้ากรรมการรับพระเข้าประกวด แสดงว่าเป็นพระแท้ (ในระดับหนึ่ง) ถ้าติดรางวัลด้วยแล้ว ก็มั่นใจได้ว่า เป็นพระแท้แน่นอน เมื่อจะขายออกก็จะได้ราคาที่สูงขึ้นด้วย
แนวทางนี้ 'ปื๊ด' บอกว่า ผู้ที่เริ่มสนใจสะสมพระ สามารถนำไปปฏิบัติตามได้ เพื่อจะได้เรียนรู้ดูพระเป็นเร็วขึ้น
'ปื๊ด' กล่าวถึงวงการพระในทุกวันนี้ว่า "ส่วนใหญ่มีหลักการและมาตรฐานดีกว่าสมัยก่อนมาก โดยเฉพาะตามสนามพระใหญ่ๆ ที่ร้านส่วนใหญ่จะซื้อขายแต่พระแท้เป็นหลัก และการันตีให้ด้วย หากลูกค้าไม่พอใจ หรือมีปัญหา เมื่อเอาพระไปแล้วมีคนสวดว่าเป็นพระปลอม ก็ต้องรับคืนจากลูกค้าทันที ไม่มีเงื่อนไข บน ‘ชมรมพระเครื่องมรดกไทย’ นี่ถือเป็นกฎเหล็ก ที่ทุกร้านต้องปฏิบัติ จะโอ้เอ้โยกโย้ไม่ได้ ทางสมาคมจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ เพื่อให้สนามพระแห่งนี้มีมาตรฐานอย่างแท้จริง และเป็นเชื่อถือของคนทั่วไป เพราะฉะนั้น ท่านที่เข้ามาซื้อพระตามร้านพระ หรือตู้พระ ที่เปิดซื้อขายเป็นประจำทุกวัน ในสนามพระแห่งนี้ จึงสบายใจได้ในเรื่องของ 'พระแท้' ที่รับประกันให้ ส่วนราคาอยู่ที่ความพอใจทั้ง ๒ ฝ่าย สำหรับร้านพระของผม หากใครมาหา แล้วบอกว่า อยากสะสมพระ แต่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน ควรจะเริ่มต้นอย่างไร ผมจะแนะนำให้ด้วยความยินดีว่า ให้เริ่มศึกษาจากพระที่มีราคาไม่แพงไปก่อน จดจำชื่อพระ กรุหรือหลวงพ่อที่สร้าง พิมพ์ทรงองค์พระ เนื้อหามวลสาร ธรรมชาติของเนื้อพระ หากเป็นพระที่สร้างมานานก็ต้องดูความเก่าเป็นหลัก ส่วนพระใหม่ก็ต้องเรียนรู้ว่า มีประวัติการสร้างอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องเหรียญ ประวัติหลวงพ่อที่สร้าง จำนวนสร้าง มีเนื้ออะไรบ้าง ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น และถ้าหากต้องการเช่าพระ ผมก็ยินดีเปิดโอกาสให้เอาพระจากผมไปศึกษาได้ ในราคาที่ไม่แพงนัก พร้อมกับคำแนะนำต่างๆ ที่ผมจะบอกให้ ว่าควรดูตรงไหนอย่างไร เมื่อเอาไปศึกษาจนจำได้หมดแล้ว จะเอาพระมาขายคืนผมก็ได้ จะคืนเงินให้ครบทุกบาททุกสตางค์ หรือจะเอาพระจากที่อื่นมาให้ผมช่วยดูให้ก็ยินดี โดยไม่จำเป็นต้องซื้อพระจากผมก็ได้ เพราะผมอยากให้มีคนดูพระเป็นกันมากขึ้น ถ้าหากทุกคนดูพระเป็นกันมากๆ การซื้อขายพระก็ง่ายขึ้น และกว้างขึ้นด้วย ประเด็นการซื้อขายจะอยู่ที่ความพอใจในราคาซื้อขายเท่านั้น เรื่องเก๊แท้ตัดออกไปได้เลย เพราะทุกคนดูพระเป็นกันทั้งนั้น วงการพระก็จะได้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปกว่านี้” ปื๊ด กล่าวในตอนหนึ่ง
ด้วยความรู้ความสามารถในการดูพระได้อย่างหลากหลาย ทุกวันนี้ 'ปื๊ด' ได้รับเกียรติจาก สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย แต่งตั้งให้เป็น กรรมการตัดสินพระ ในงานประกวดพระที่สมาคมรับรองให้ ประเภท พระเนื้อผงยอดนิยม
ร้าน 'ปื๊ด ลำลูกกา' อยู่ที่ ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร.๐๘-๑๘๘๙-๑๐๗๘
0 ตาล ตันหยง 0