พระเครื่อง

เริ่มที่ "หลวงแม่" 
จาก...หนึ่งกลายเป็นร้อยและหลายร้อย

เริ่มที่ "หลวงแม่" จาก...หนึ่งกลายเป็นร้อยและหลายร้อย

09 ธ.ค. 2553

พ.ศ.๒๕๔๑ ภิกษุสงฆ์ศรีลังกาเริ่มทำพิธีอุปสมบทภิกษุณีตามพระวินัยฝ่ายเถรวาท ให้ผู้หญิงชาวพุทธทั่วโลกในประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย และศรีลังกา โดยการร่วมมือของภิกษุและภิกษุณีมหายาน ส่งผลให้จำนวนภิกษุณีสามเณรีในระดับโลกนั้น เพิ่มขึ้นในทุกๆ ประเทศ ประเทศที่มีภิ

 อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ได้รับการบรรพชาเป็นสามเณรีในประเทศศรีลังกา เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๔ และได้อุปสมบทใน พ.ศ.๒๕๔๖ ในประเทศศรีลังกา ได้รับฉายาว่า 'ภิกษุณีธัมมนันทา' หรือที่ลูกศิษย์เรียก 'หลวงแม่'
 การอุปสมบทครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของการอุปสมบทภิกษุณีชาวไทยในฝ่ายเถรวาท เป็นการเปิดประตูให้เห็นภาพอีกภาพหนึ่งของความเป็นไปได้ ในการดำเนินชีวิตทางธรรมของลูกผู้หญิง หลังจากนั้น ผู้หญิงไทยหลายๆ คนออกไปที่ศรีลังกา เพื่อจะได้รักษาพระวินัยของภิกษุณี 

 ปัจจุบันนี้ มีภิกษุณีเถร ที่บวชจากศรีลังกา และกลับมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่แผ่นดินไทย เช่น พระภิกษุณี นันทญาณี (แม่รุ้งเดือน สุวรรณ) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธินิโรธาราม และเป็นผู้อบรมสั่งสอนธรรมะศิษย์ ทั้งในและนอกสำนักฯ ภิกษุณี ปัญญาวรี (วิลาวัลย์ คุ้มสิงห์คำ) ภิกษุณี สัทธาสิริ (พรทิพย์ หน่อคำ) ภิกษุณี ปันนภารี (สุกานดา สุวรรณวิสารท) และภิกษุณี วรทินนา (แน่งน้อย พัวพันธ์)

 นอกจากนี้แล้ว หลวงแม่ได้ตัดสินใจจัดโครงการบวชสามเณรีภาคฤดูร้อนขึ้น ซึ่งถือว่า เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๖-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ในการประกาศรับสมัครครั้งแรก เพียง ๓๐ ท่าน มีผู้แสดงความประสงค์เข้ามาประมาณ ๕๐ ท่าน จึงมีการคัดกรองลงตัวที่ ๓๖

 จากความสำเร็จในการบรรพชาสามเณรีภาคฤดูร้อน มีเสียงเรียกร้องให้จัดการบรรพชาเป็นประจำ เพราะเป็นพื้นที่แห่งเดียวที่เปิดโอกาสให้สตรีได้เข้ามาบวชเรียนอย่างแท้จริง ทางวัตรจึงทดลองโครงการที่ ๒ เป็นการบรรพชาในพรรษา ประจำปี ๒๕๕๒ วันที่ ๕ กรกฎาคม-๑๙ ตุลาคม และล่าสุดเมื่อวันอาทิย์ที่ ๕ ธันวาคม ที่ผ่านมา หลวงแม่ได้จัดให้มีการบรรพชาสามเณรี ๔๙ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง

 ผู้หญิงที่สนใจออกบวชไม่ใช่เด็กผู้หญิง เหมือนกับการบวชเณรของผู้ชาย ที่จะบวชเด็กชายในช่วงปิดภาคฤดูร้อน แต่ผู้หญิงบวชกลับกัน จะเป็นผู้หญิงที่ทำงานแล้ว ส่วนใหญ่จบปริญญาตรี มีวิจารณญาณ สามารถตัดสินใจกับชีวิตของตนเองได้ รู้จักผิดชอบชั่วดี

 "เดิมคิดว่า การบรรพชาอุปสมบทนั้น ควรจะเป็นผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะรับใช้พระศาสนาตลอดชีวิต แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ได้ตระหนักว่า นั่นเป็นการคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะยังมีสตรีจำนวนหนึ่ง ซึ่งแม้จะมีความตั้งใจจริง แต่ติดขัดภาระหน้าที่ในครอบครัว แม้กระนั้น เธอก็ควรจะได้มีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่จะได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ ใช้ชีวิตตามรอยบาทของพระศาสดา แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ยังดีกว่ามิได้มีโอกาสเลย" นี่คือเหตุผลหนึ่งของหลวงแม่ที่จัดการบวชสามเณรีในระยะเวลาสั้นๆ

 พร้อมกันนี้ หลวงแม่ยังบอกด้วยว่า แม้ว่าจะเป็นการบวชเพียง ๙ วัน แต่จะพยายามให้องค์ความรู้ทางพุทธศาสนาให้ครบทุกด้าน โดยเฉพาะกาสร้างความเข้าใจในชีวิตนักบวชให้มากขึ้น ผู้ที่มาสมัครบวชไม่ใช่เด็กนักเรียนนักศึกษา หากเป็นผู้หญิงทำงานแล้วทั้งสิ้น อายุเกิน ๓๐ ปี การศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีและโท เกินกว่าครึ่ง ที่น่าสนใจ คือ ผู้ที่มาสมัครบางคนเป็นคนที่มีชื่อเสียงทางสังคม เท่าที่ทราบ ทุกคนลาพักร้อนจากการทำงานเพื่อมาบวช”

 เมื่อถามถึงกระแสการตอบรับสามเณรีและภิกษุณีนั้น หลวงแม่ บอกว่า ไม่เฉพาะที่วัตรทรงธรรมเท่านั้น  สำนักอื่นๆ ที่มีภิกษุณีและสามเณรี มีกระแสตอบรับของสังคมที่ดีขึ้น เพิ่มขึ้น ไม่ว่าวัตรจะจัดกิจกรรมอะไร ก็จะมีผู้คนมาร่วมกันเป็นจำนวนมากขึ้นทุกกิจกรรม มีไม่ว่าเราจะทำอะไรก็จะมีกองหนุนเข้ามา และในปีหน้าที่วัตรจะส่งสามเณรีที่บวชครบ ๒ ปี ไปบวชเป็นภิกษุณีที่ศรีลังกา หรืออาจจะนิมนต์ภิกษุณีจากศรีลังกามาเป็นอุปัชฌาย์บวชภิกษุณีที่วัตรก็อาจเป็นไปได้ นอกจากนี้แล้ว จะมีการประชุมภิกษุณีจากทุกประเทศทั่วโลกที่ประเทศไทยด้วย

บวชเพื่อแม่เหตุแห่งการบวช
 ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล อดีตนักข่าวอาชญากรรม และหัวหน้าข่าว สวพ.๙๑ ซึ่งเป็น ๑ ในสามเณรีที่บวช กล่าวว่า ส่วนตัวได้ผ่านชีวิตมาหลากหลาย เจอเรื่องราวมากมาย การทำบุญที่ผ่านมา เคยแต่ใส่บาตร สวดมนต์ไหว้พระ แต่ไม่เคยเข้าถึงธรรมะอย่างถ่องแท้ สวดมนต์ก็สวดแบบนกแก้วนกขุนทอง ไม่เข้าใจกับบทสวดใดๆ เลย จนกระทั่งปีนี้ได้ไปปฏิบัติที่ จ.อ่างทอง มีหนังสือสวดมนต์เจอด้านหลัง วันเกิดของเรา จริงๆ น่าจะเป็นวันของแม่ พอได้อ่านในใจตรงนั้นก็ทำให้นึกถึงแม่ (บัวลอย ศรีแปล) และมีความคิดว่า อยากจะบวชให้แม่ แล้วได้อ่านก็พบว่า พระพุทธเจ้าเองก็ไม่เคยห้ามผู้หญิง และคาดการณ์ว่าจะบวชให้ตรงวันเกิดปีนี้ แต่สอบถามไปหลายที่ก็ไม่มีที่ไหนบวชผู้หญิงเลย  

 ระหว่างนั้น ได้คุยกับนายสุทธิคุณ กองทอง นักข่าว WhO?  ถึงการตัดสินใจที่จะบวชสามเณรี จึงได้ให้ประสานมาที่วัตรทรงธรรมฯ แห่งนี้  พอดีทางวัตรกำลังจัดให้มีการบวชสามเณรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงตัดสินใจบวช เพื่อจะได้ศึกษาพระธรรมให้เกิดความถ่องแท้กว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยจะได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หลังจากที่สึกออกไปแล้ว    

 “ตั้งใจว่า บวช  ๙ วันนี้ เพื่อนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นรากฐานของชีวิตในการครองสติในลำดับต่อไป และการบวชครั้งนี้ ก็ถือเป็นครั้งหนึ่งของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถทำสิ่งที่สุดยอดที่สุดของตัวเอง ทั้งๆ ที่กลัวการโกนหัว เพราะโชคดีมีแม่เข้าใจ ปีติกับสิ่งที่เราจะทำให้ ตลอดจนพี่สาวพี่ชาย รวมถึงเพื่อนนักข่าวต่างก็ให้กำลังใจ เพราะรู้ว่าการบวชของสตรี ย่อมมีเหตุผลที่ต่างกันไป แต่สิ่งที่เราทำมันเป็นสิ่งที่เราต้องการทดแทนบุญคุณมารดา การบวชมันสร้างกำลังใจให้คนแก่ ๗๘ ปี ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เป็นพลังใจที่สร้างขึ้น กับสิ่งที่เราบวชในครั้งนี้ เชื่อว่าการบวชของเรา การประพฤติปฏิบัติให้มีศีลธรรม มีสติ เพื่อประโยชน์ต่อตนเอง สังคม ครอบครัว และประเทศชาติ” ปราริชาติ กล่าว

 "มีสตรีจำนวนหนึ่ง ซึ่งแม้จะมีความตั้งใจจริง แต่ติดขัดภาระหน้าที่ในครอบครัว แม้กระนั้น เธอก็ควรจะได้มีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่จะได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ ใช้ชีวิตตามรอยบาทของพระศาสดา แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ"

0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0