พระเครื่อง

นอภ.สนั่น พงษ์อักษร
กับ...พระเครื่องรุ่นประสบการณ์ “บึ้ม!”

นอภ.สนั่น พงษ์อักษร กับ...พระเครื่องรุ่นประสบการณ์ “บึ้ม!”

20 พ.ย. 2553

“หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถนายอำเภอรอดตายหวุดหวิด ทันทีที่รุ่งเช้าผมมุ่งหน้าเข้าสู่สภากาแฟในตัวชุมชนทันทีพร้อมกับเอ่ยความในใจออกมากลางวงชาวบ้านว่า จะเอากันให้ถึงตายเลยหรืออย่างไร ลำพังชีวิตผมไม่เป็นไร แต่สำหรับลูกหลานคนในพื้นที่ที่ต้องมารับเคราะห์ญา

  อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอำเภอสนั่น เกือบตกเป็นเหยื่อสังเวยความรุนแรงด้วยการลอบวางระเบิดมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อย้อนไปเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๙ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายอำเภอแม่ลาน จ.ปัตตานี โดยคนร้ายนำระเบิดซุกในรถยนต์ อส.อำเภอแม่ลาน แรงระเบิดทำให้รถได้รับความเสียหายทั้งคัน แต่เคราะห์ดีที่นายอำเภอเดินออกจากรถก่อนวงจรระเบิดทำงานเพียง ๕ นาที เท่านั้น ส่งผลให้รอดพ้นอันตรายราวปาฏิหาริย์

 “เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เมื่อเรารุกงานมวลชนมากขึ้น จนทำให้ชาวบ้านหันมาจับมือร่วมกันเพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น ย่อมทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียรังวัด จึงหาทางทำลายความน่าเชื่อถืออำนาจรัฐ และนายอำเภอถือเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่เขาต้องการเล่นงาน แต่สำหรับผมแล้ว ไม่มีคำว่าท้อถอยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตชนิดเฉียดตายมาแล้วถึง ๒ ครั้งแน่นอน” นี่คือความมุ่งมั่นของนายอำเภอสนั่น

 เกือบสองทศวรรษบนเส้นทางราชการของนายอำเภอหนุ่มใหญ่ ผู้มีภูมิลำเนาจากอำเภอสะเดา จ.สงขลา รายนี้เขาไม่เคยย้ายออกจากดินแดนปลายด้ามขวาน และที่สำคัญได้ผ่านประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ “สีแดง” มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี โดยเจ้าตัวได้ยืนยันว่าจะทำหน้าที่สร้างรอยยิ้มให้แก่ประชาชนต่อไป เนื่องจากตระหนักเสมอว่า ความไม่สงบที่เกิดขึ้น คนที่น่าเห็นใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “ชาวบ้าน” และเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปพร้อมๆ กับชาวบ้านจำนวน ๑๖,๙๐๐ ชีวิต เขาได้ย้ายสำมะโนครัวเข้ามาอยู่ในอำเภอแห่งนี้ ตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งนายอำเภอหนองจิก

 “หากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ มีความปลอดภัย และอำเภอหนองจิกมีความสงบสุขเหมือนดั่งวันวาน สำหรับนายอำเภอแล้ว คงไม่มีพรใดๆ ที่ให้ความสุขได้ดีเท่ากับการขอให้ได้เห็นรอยยิ้มประชาชนปรากฏอยู่บนใบหน้าอีกครั้ง ผมเป็นเนื้อเดียวกับชาวบ้านทันที ตั้งแต่มารับตำแหน่ง ดังนั้นหากคนที่นี่มีความทุกข์เพราะผลพวงของไฟใต้ นายอำเภอจะมีความสุขได้อย่างไร ฉะนั้นหากจะสุขก็ต้องสุขด้วยกัน ส่วนยามทุกข์ก็ต้องก้าวข้ามวิกฤตควบคู่กันไป” นายอำเภอสนั่นกล่าว

 ภารกิจ หรือสิ่งใดที่จะช่วยทำให้ยุติความรุนแรงในพื้นที่ได้ นายอำเภอสนั่นพยายามขับเคลื่อนนโยบายทุกๆ ด้าน และสิ่งหนึ่งที่ทำควบคู่จนเป็นกิจวัตรประจำวันไม่เคยขาด นั่นคือ การสวดมนต์ทุกวันก่อนนอน และก่อนทำงาน โดยตั้งจิตอธิษฐานถึงบิดา มารดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ช่วยดลบันดาลให้ “คนหนองจิกมีแต่ความปลอดภัย, เจ้าหน้าที่ข้าราชการแคล้วคลาดจากภัยอันตราย, ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่หนองจิกมีแต่ความปลอดภัย, ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้คนคิดร้ายกลับใจหยุดก่อเหตุรุนแรง และขอให้อำเภอหนองจิกเกิดความสงบสุขโดยเร็ว

  เมื่อใดที่ตกอยู่ในภาวะแห่งความเครียด นายอำเภอหนองจิกจะเดินหน้าเข้าวัดเข้าหาพระ โดยเฉพาะวัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) เพราะเสียงระฆังใบเล็กๆ ที่ติดอยู่ตามช่อฟ้าใบระกา ได้ช่วยระงับความรุ่มร้อนในใจให้เย็นลงได้อย่างอัศจรรย์ ขณะเดียวกัน การได้สนทนาธรรมกับพระภิกษุที่วัด ยังช่วยให้ได้แนวทางในการเอาชนะอุปสรรคที่อยู่เบื้องหน้าได้ ซึ่งนับเป็นกุญแจดอกสำคัญในการลดความเครียดที่ได้ผลดี

 ที่สำคัญการมี “กำลังใจ” ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการทำงานหน้าที่ ในดินแดนปลายด้ามขวานแห่งนี้ และสิ่งที่เป็นดั่ง “พลังใจ” ของนายอำเภอหนองจิกคนนี้คือ “พระเครื่อง” เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยห่างกายเลยตลอดการรับราชการใน จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี หลายสิบปีที่ผ่านมา “วัตถุมงคล” ที่คล้องคอยังเป็นดั่งแรงกระตุ้นให้ก้าวเท้าออกจากบ้านไปทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างมั่นใจทุกครั้ง

 สำหรับพระเครื่องของนายอำเภอสนั่น แบ่งออกเป็น ๒ ชุด โดยชุดแรกเป็น “รุ่นดัง" หรือ "รุ่นนิยม” ประกอบด้วย พระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ และพระหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นอื่นๆ ที่ พระอาจารย์ทิม เป็นผู้สร้าง รวมถึงพระกรุ และพระเกจิอาจารย์จากสำนักต่างๆ ที่สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยให้การยอมรับ

 ส่วนชุดที่ ๒ ถือเป็น “พระรุ่นประสบการณ์” ชุดนี้จะแขวนติดตัวเป็นประจำ โดยเฉพาะการปฏิบัติราชการหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยประกอบด้วย “เหรียญหลวงพ่อทุ่ม” ซึ่งมีประสบการณ์ในพื้นที่แห่งนี้มาแล้วหลายครั้งหลายครา “หลวงพ่อดำ แห่งอำเภอแม่ลาน” ซึ่งเช่าบูชาไว้เมื่อครั้งรับราชการตำแหน่งนายอำเภอแม่ลาน “พระยอดธง” “พระรอด” “พระยายเขียด” วัดยายเขียด จ.ปัตตานี และ “หลวงพ่อทวดเนื้อว่าน” ซึ่งไม่ทราบออกที่วัดใด แต่ได้มาจากผู้ใหญ่มอบให้เมื่อครั้งเป็นปลัดอาวุโส ที่อำเภอเบตง จ.ยะลา

 นอกเหนือจากการสร้างกำลังใจให้ชีวิต ด้วยการอาราธนาพระเครื่องขึ้นคล้องคอทุกครั้งที่ออกปฏิบัติราชการแล้ว สำหรับนายอำเภอท่านนี้ยังทำหน้าที่พุทธบริษัทที่ดี ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาของวัดในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะการทำบุญ ทั้งการตักบาตร หรือบริจาคจตุปัจจัย เพื่อใช้ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบ ด้วยเพราะเชื่อว่า นี่คือการ “สะสมพลังใจ” อย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ชีวิตปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย และแคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งสิ้นทั้งปวง

 "พระเครื่องทุกองค์ที่อาราธนาขึ้นคล้องคอ ล้วนเกิดประสบการณ์และนำพาชีวิตให้รอดพ้นจากนาทีวิกฤติมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นพระเครื่องสำหรับผม นอกจากจะเป็นตัวแทนพระพุทธองค์แล้ว ยังเป็นดั่งกำลังใจที่ช่วยให้ผมมั่นใจในทุกครั้งที่เดินทางออกปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนแห่งนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า พระเครื่องทุกองค์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจะช่วยปกปักรักษาชีวิตให้ผู้ที่คิดดีทำดี ตั้งมั่นในกรอบแห่งความงามทางศีลธรรม ในทางกลับกัน หากคิดคดทรยศต่อบ้านเมือง หรือไม่คิดตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ต่อให้มี 'พระดี' กี่องค์ก็คงหนีนรกในใจไม่พ้นแน่นอน" นายอำเภอหนองจิก กล่าวทิ้งท้าย

 "โดยส่วนตัวเชื่อว่า พระเครื่องทุกองค์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจะช่วยปกปักรักษาชีวิตให้ผู้ที่คิดดีทำดี ตั้งมั่นในกรอบแห่งความงามทางศีลธรรม ในทางกลับกัน หากคิดคดทรยศต่อบ้านเมือง หรือไม่คิดตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ต่อให้มีพระดีกี่องค์ก็คงหนีนรกในใจไม่พ้นแน่นอน”

0 เรื่อง / ภาพ สุพิชฌาย์ รัตนะ นักข่าวเนชั่น 0