ปรากฏการณ์แห่งพลังศรัทธา ในบุญทอดกฐิน..."หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก" วัดป่าขันติธรรม | คมชัดลึก

 ส่วนกฐินวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๒ ต้นกฐินจากแรงศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหา เพิ่มเป็น ๒๗ ต้น ได้เงินกว่า ๕๗ ล้านบาท ทองคำ ๑๑ กก. โดยปัจจัยที่ได้ทั้งหมดหลวงปู่เณรคำได้ใช้ในการก่อสร้างเครื่องทรง ๓ ฤดูขององค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าประมาณ ๑๕๐ ล้านบาท เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างองค์พระเสร็จแล้ว

 สำหรับกฐินในปี ๒๕๕๓ นี้ จะเกิดปรากฏการณ์แห่งพลังศรัทธาอีกครั้งหนึ่ง โดยมียอดเงินทำบุญน่าจะมากกว่ากฐิน ๒ ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุที่ว่า ขณะนี้มีญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วประเทศ รวมทั้งจากต่างประเทศ ได้จองต้นเงินยักษ์ สูง ๙ เมตร จำนงน ๓๖ ต้น ไว้หมดแล้ว และอาจจะได้ปัจจัยเกือบ ๑๐๐ ล้านบาท

 อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงงานบุญทอดกฐิน มีข่าวเป็นที่ฮือฮาแก่บรรดาศิษยานุศิษย์หลวงปู่เณรคำ คือเมื่อขบวนรถยาวเหยียดจากสนามบินอุบลราชธานี เข้าเทียบศาลาวัดป่าขันติธรรม สาขา ๑ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี สถานที่จัดงานแสดงมุทิตาสักการะหลวงปู่เณรคำ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ ๓๒ ปี เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา

 ถุงเงินกว่า ๒๐ ล้านบาทถูกอารักขาอย่างเข้มงวดโดยตำรวจนำขบวน โดยวัตถุประสงค์ของเจ้าภาพที่นำมาบอกว่า ต้องการถวายเงินจำนวนนี้แก่หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เพื่อนำไปซื้อทองคำ ๙ กิโล เอาไปหุ้มหัวใจพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ตามที่ตนเองได้ปวารณาไว้ ซึ่งถ้านับจำนวนเงินทั้งหมดที่ตนเองได้ถวายหลวงปู่ไปแล้วก่อนหน้านี้กว่า ๑๐๐ ล้านบาท

 นายชูเกียรติ ชัยลือกิจ เจ้าของศูนย์สุขภาพลานนา ท่าพระ กทม. หนึ่งในบรรดาศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่เณรคำ กล่าวกับ "คม ชัด ลึก" ผู้ที่นำปัจจัยมาถวายหลวงปู่ครั้งนี้คือ มิสเตอร์อู๋ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนเองกับมิสเตอร์อู๋มีธุรกิจร่วมค้าขายอาหารเสริมร่วมกัน และได้แนะนำให้มารู้จักกับหลวงปู่ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยให้ความเลื่อมใสพระสงฆ์ไทยมาก่อนจนได้มาพบหลวงปู่เณรคำ จากคำชักชวนของคุณชูเกียรติ

 "ตนเองกับภรรยาประสบความสำเร็จในธุรกิจทุกๆ ด้าน มีเงินมากก็จริง แต่ไม่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับภรรยาได้ แต่เสมือนว่าบุญบารมีได้นำพาหลวงปู่มาพบกับเขา และได้ช่วยเหลือภรรยาของเขาจนหายจากอาการเจ็บป่วยที่แพทย์ไม่สามารถรักษาให้หายได้ จึงเป็นสาเหตุที่ผมและภรรยาให้ความเคารพศรัทธาในตัวหลวงปู่เณรคำเป็นอย่างมาก" นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้มิสเตอร์อู๋ ศรัทธาหลวงปู่เณรคำ

 ปรากฏการณ์หนึ่งของความศรัทธาจากยอดเงินบริจาคงานกฐินที่วัดป่าขันติธรรมตั้งแต่ปี ๕๑ ที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันชี้วัดได้ว่า ศรัทธาสานุศิษย์ของหลวงปู่แรงไม่มีตก ปีนี้วัดป่าขันติธรรม ได้กำหนดจัดงานกฐินระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐ ตุลาคม โดยจะตั้งองค์กฐินที่วัดป่าขันติธรรม ในคืนวันเสาร์ที่ ๒๙ เวลา ๑๙.๐๐ น. พิธีบวชชีพราหมณ์ จากนั้นตั้งแต่เวลา ๒๐.๓๐ น. เป็นต้นไป มีการแสดงพระธรรมเทศนาตลอดคืน โดยพระนักเทศน์ชื่อดังจำนวนมาก วันอาทิตย์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และเวลา ๑๐.๐๐ น. พิธีทอดถวายมหากฐินทาน

ธรรมะจากหนังสือ “คนเห็นโลก”
 "...ความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ในโลกเกิดจากมนุษย์ผู้ที่สร้างบารมีแล้วก็ไม่ได้เอาบารมีไปด้วย จิตนิพพานไปแล้ว แต่บารมีที่ท่านสร้างไว้ในโลกยังคงอยู่ เปรียบเหมือนนักจิตรกรวาดภาพเอาไว้ เมื่อตายไปก็ไม่ได้เอาภาพไปด้วย ในหมู่มนุษย์ทั่วไปจึงมีคำพูดว่า ตายแต่ตัว ความดีชั่วยังคงอยู่

 การเกิดเป็นมนุษย์โชคดีอย่างที่สุดแล้ว อนาคตโลกจะแตกหรือไม่เป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง เมื่อเราคิดในแง่ร้าย โลกก็จะเป็นตามที่เราคิด ซึ่งไม่ตรงกับหลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนให้เรามีความสุขในปัจจุบัน ทำจิตใจให้ผ่องใส เพื่อพระนิพพานในภายภาคหน้า พระนิพพานไม่ได้อยู่ที่ว่าโลกจะแตกหรือไม่แตก แต่พระนิพพาน คือ การหลุดจากโลกไปแล้ว

 การเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารภพน้อยภพใหญ่นี้ มันทุกข์ร้อนมากๆ ผู้ไม่ปรารถนาที่จะมาเวียนว่ายตายเกิดอีก ต้องปฏิบัติตนรักษาศีล บำเพ็ญภาวนา ตั้งศรัทธาให้มั่นคง ปฏิบัติธรรมกำหนดรู้ถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ทั้งปวง ถอดถอนความยึดถือในโลกทั้งปวง ในธรรมทั้งปวง ความเป็นตัวเป็นตน ความแบกหาม เอาสมมติทั้งหลายทิ้งไปให้หมด สละไปให้หมด จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้หลุดพ้นจากการเวียนว่าย ตายเกิด ..."

 ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของหลักธรรมคำสอน ของหลวงปู่เณรคำ จากหนังสือหนังสือ “คนเห็นโลก” ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมประวัติปฏิปทาคำสอนที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์ไว้ ได้พูดถึง สถานการณ์วิกฤติของบ้านเมือง และของโลกไว้อย่างน่าฉงนสนเท่ห์ กล่าวคือ โลกมนุษย์ในยุคนี้กำลังเข้าสู่ “กลียุค” ตามคำทำนายเมื่อครั้งสมัยพุทธกาล จิตมนุษย์ตกต่ำลงอย่างมาก ผู้คนขาดศีลธรรมยึดเหนี่ยวจิตใจ ในบางตำรากล่าวว่า ใกล้ถึงวันอวสานของโลก น้ำจะท่วมโลก ซึ่งหลวงปู่ได้กล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า เมื่อถึงเวลาเช่นนั้นจริง ทุกคนควรมีจิตที่เด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง ปฏิบัติธรรมฝึกฝนจิตใจให้หนัก เพื่อความพร้อมกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ตาม จงมีความสุขอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด

 "การเกิดเป็นมนุษย์โชคดีอย่างที่สุดแล้ว อนาคตโลกจะแตกหรือไม่เป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง เมื่อเราคิดในแง่ร้าย โลกก็จะเป็นตามที่เราคิด ซึ่งไม่ตรงกับหลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนให้เรามีความสุขในปัจจุบัน"

0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0