พระเครื่อง

'พระแท้'องค์จริงเป็นครูสอนที่ดีที่สุดเอิ๊บ มรดกไทยคนหนุ่มสายเลือดใหม่

'พระแท้'องค์จริงเป็นครูสอนที่ดีที่สุดเอิ๊บ มรดกไทยคนหนุ่มสายเลือดใหม่

10 ต.ค. 2553

คนหนุ่มสายเลือดใหม่ ของวงการพระเครื่องอีกคนหนึ่ง ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ในฐานะที่ เล่นพระดี มีพระสวย และ รวยพระแท้ เป็นผู้สนใจพระมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียน จนสามารถก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น เซียนพระคนรุ่นใหม่ ด้วยเงินก้อนแรกเพียง ๖ พันบาท ตั้งใจศึกษาพระ

ธนันท์ ศรีแก้ว เป็นชื่อจริงของ เอิ๊บ มรดกไทย เป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด บ้านเดิมอยู่ที่ซอยรางน้ำ เรียนหนังสือชั้นประถมที่โรงเรียนปริญญาทิพย์ มัธยมต้นที่โรงเรียนสันติราษฎร์

ต่อมาพ่อแม่ได้ย้ายไปอยู่แถวบางกะปิ จึงได้เข้าเรียนชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนบางกะปิ แล้วไปจบปริญญาตรีที่ มรภ.จันทรเกษม สาขาวิทยาศาสตร์เคมี
เอิ๊บ เล่าว่า “คุณปู่คุณย่าผมเคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยคุณปู่เป็นนายสถานีรถไฟที่นั่น จึงมีความใกล้ชิดกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ มาก สมัยที่ท่านสร้างพระหลวงพ่อทวด รุ่นแรก เนื้อว่าน เมื่อปี ๒๔๙๗ คุณปู่ยังได้ไปช่วยวัดกดพิมพ์พระ พอผ่านพิธีปลุกเสกแล้ว พระอาจารย์ทิม ได้ให้พระเนื้อว่านรุ่นแรกนี้แก่คุณปู่คุณย่ามากมายหลายองค์ รวมทั้งเหรียญรุ่นต่อๆ มาอีก แทบจะครบทุกรุ่น โดยเฉพาะพระหลวงพ่อทวด รุ่นหลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ ทั้งพิมพ์หลังเตารีด และหลังตัวหนังสือ จนถึงรุ่นสุดท้ายปี ๒๕๑๑ เพราะคุณปู่คุณย่ามีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสหลวงพ่อทวด และพระอาจารย์ทิม มาก จึงมีความผูกพันมาโดยตลอด ยามเมื่อมีเรื่องอะไรก็มักจะบนบานศาลกล่าวขอพรหลวงพ่อทวดเสมอ ก็ได้รับความสำเร็จสมหวังทุกครั้งไป หลังจากที่พระอาจารย์ทิม มรณภาพแล้ว (เมื่อ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๒) คุณปู่ก็ได้ย้ายเข้าฒษอยู่กรุงเทพฯ พระหลวงพ่อทวดที่ได้มาก็แจกให้ลูกหลานญาติมิตรทั้งหลายใช้กันทั่วหน้า” 

ด้วยเหตุนี้ เอิ๊บจึงรู้จักพระหลวงพ่อทวดมาตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียน โดยคุณย่าได้ให้เหรียญหลวงพ่อทวดใช้ติดตัวอยู่เสมอ

ขณะเดียวกัน สมัยเรียนอยู่ที่บางกะปิ มีคุณลุงของเพื่อนคนหนึ่งเป็นนักสะสมพระ ชอบคุยเรื่องพระเสมอ ยามเมื่อเอิ๊บไปหาเพื่อนคนนี้ก็ได้ยินได้ฟัง จึงคุยกับคุณลุงไปด้วย และยังได้เช่าพระหลวงพ่อทวด ไปจากคุณลุงองค์หนึ่ง เป็นรุ่นหลังตัวหนังสือ ในราคาไม่กี่ร้อยบาท เนื่องพระหลวงพ่อทวด ที่คุณย่าให้มานั้นมีเพียงเหรียญเดียว จึงอยากได้รุ่นอื่นบ้าง

“หลังจากที่ได้พระหลวงพ่อทวด รุ่นหลังตัวหนังสือมาแขวนติดตัวอยู่หลายเดือน วันหนึ่งผมได้ขึ้นไปเดินบนห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ บนนั้นมีแผงพระอยู่ด้วย จึงแกล้งเอาพระหลวงพ่อทวดที่แขวนอยู่ไปลองขายดู ปรากฏว่าเขาไม่ซื้อ เพราะเป็นพระปลอม รู้สึกเสียใจเหมือนกัน ที่ถูกคุณลุงของเพื่อนหลอกเอาจนได้ จึงเกิดความคิดว่า พี่ที่แผงพระเขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระปลอม แล้วพระแท้เป็นอย่างไร ผมอยากเรียนรู้จริงๆ จึงหาหนังสือพระมาอ่าน พร้อมกับหาเวลาเข้าสนามพระบนห้างเดอะมอลล์แทบทุกวัน ยามเมื่อว่างจากการเรียนหนังสือ จนคุ้นเคยกับพี่ๆ บนนั้นไปทั่ว จึงพอรู้ว่าคนไหนเล่นพระแท้ ก็จะขอเช่าจากเขา โดยเอาเงินที่เหลือจากค่าขนมบ้าง ขอจากคุณแม่บ้าง พระที่เช่าส่วนใหญ่คือ พระหลวงพ่อทวด พระหลวงพ่อพรหม ซึ่งสมัยนั้นยังไม่แพงมากนัก จนจำนวนพระที่เช่ามามีมากพอสมควร” เอิ๊บ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเช่าพระอย่างจริงจัง

ต่อมาเมื่อเรียนต่อที่ มรภ.จันทรเกษม ก็ยังหาเช่าพระอยู่เสมอ โดยเช่าเก็บอย่างเดียว ไม่ได้คิดจะขายต่อแต่อย่างใด พระที่มีอยู่ก็เอามาส่อง เพื่อศึกษาหาจุดสังเกตต่างๆ ในองค์พระ จนพอจำได้ว่า ของแท้เป็นอย่างไร เมื่อไปพบพระบนแผงพระทั่วๆ ไปหยิบขึ้นมาส่องดูก็ได้เห็นความแตกต่าง เพราะส่วนใหญ่พระเหล่านั้นมักจะเป็นพระปลอม

“ช่วงนั้นผมเก็บพระไว้เยอะมาก พอมีงานประกวดพระที่ไหนก็จะไปเดินดูพระในงานด้วย มีบางคนถามว่า มีพระให้ดูไหม ก็เอาให้เขาดู เขาถามว่าจะปล่อยไหม ก็บอกราคาเขาไป พอขายได้เราก็รู้ว่าพระของเราเป็นพระแท้ และที่ขายไปนั้นก็มีกำไรด้วย รู้สึกดีใจ พร้อมกับความคิดว่าอาชีพซื้อขายพระนี้ก็ดีเหมือนกัน ได้เงินง่าย จึงเริ่มซื้อขายพระตั้งแต่สมัยนั้น โดยขายให้แผงพระบ้าง คนรู้จักกันบ้าง ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพระที่ได้มานั้น ซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ทั้งนั้น” เอิ๊บ กล่าว

จากสนามพระเดอะมอลล์ บางกะปิ และงานประกวดพระทั่วๆ ไป คราวนี้เอิ๊บได้ไปเดินที่สนามพระท่าพระจันทร์ และสนามพระมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน

พอเรียนจบ มรภ.จันทรเกษม รู้สึกว่าตัวเองโตมากแล้ว ไม่ควรจะขอเงินแม่มาใช้จ่ายอีกต่อไป จะต้องช่วยตัวเองให้ได้ จึงต้องหางานทำ ขณะเดียวกันก็ยังวนเวียนเดินอยู่ในสนามพระ เพราะยังหางานไม่ได้ จึงเอาพระที่มีอยู่ออกมาขายทั้งหมด ปรากฏว่า ขายได้เงิน ๖,๐๐๐ บาท ขาดทุนไปเท่าตัว แต่ต้องยอม เพราะต้องการจะได้เงินมาใช้จ่ายต่อไป

และจากเงิน ๖,๐๐๐ บาทนี้เองที่เอิ๊บได้ใช้เป็นเงินทุนในการซื้อขายพระตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา โดยช่วงแรกเป็นการเดินซื้อขายไปเรื่อยๆ ยังไม่มีร้านเป็นของตัวเอง

ต่อมาได้เช่าตู้พระบน ชมรมพระเครื่องมรดกไทย ตรงโซนเก่า แล้วย้ายไปอยู่หน้าร้าน อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์ ระยะหนึ่ง ก่อนจะมาได้ร้านที่อยู่ในทุกวันนี้
“ช่วงที่อยู่หน้าร้านเฮียเกี๊ยก ผมได้รับความเมตตาจากเฮียเกี๊ยกมาก ในการสอนให้ดูพระกริ่งและรูปหล่อพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าๆ เช่น พระกริ่งสายวัดสุทัศนฯ สายวัดบวร พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และหลวงพ่ออีกหลายๆ ท่าน จนพอจำได้ว่าพระแท้ดูตรงไหน มีจุดสำคัญอะไรบ้าง ก็พอจะมีความรู้ในด้านนี้ในระดับหนึ่ง ผมจึงให้ความเคารพนับถือเฮียเกี๊ยกมาก ถือเป็น "ครูคนแรก" ของผมในการสอนให้ดูพระเป็น เพราะก่อนหน้านี้ไม่ใครสอนให้กัน การดูพระไม่มีใครสอนกันอย่างตรงไปตรงมา เราอยากเรียนรู้พระอะไรก็ต้องหาซื้อพระนั้นมาศึกษาเอาเอง โดยต้องรู้ก่อนว่า คนไหนเล่นพระดีมีพระแท้ ซึ่งสามารถรู้ได้ไม่ยากนัก เพราะคนในวงการพระคนไหนชำนาญพระอะไร ดูพระอะไรแม่น นิสัยใจคอเป็นอย่างไร มีความรับผิดชอบแค่ไหน คนในสนามพระด้วยกันจะรู้จักกันหมด พอเรารู้ว่าคนไหนเก่งพระอะไร ก็ไปขอซื้อพระนั้นๆ จากเขา ซึ่งเขารับประกันให้อยู่แล้วว่าเป็นพระแท้แน่นอน เราก็เอาพระองค์นั้นมาศึกษาหาข้อมูลจากองค์พระเอาเอง มีอะไรสงสัยก็ไปสอบถามเขาได้ แต่เขาจะไม่สอนเราทั้งหมด เราต้องศึกษาเองเป็นส่วนใหญ่ ต้องจดจำเอาเองให้ได้” เอิ๊บ บอกกล่าวถึงแนวทางการศึกษาพระอย่างถูกต้อง

ด้วยเหตุนี้ เอิ๊บจึงต้องหาซื้อพระทุกประเภทที่อยากเรียนรู้ ทุกพิมพ์ ทุกเนื้อ ทุกสภาพ ด้วยความเชื่อที่ว่า พระแท้องค์จริงเป็นครูที่สอนได้ดีที่สุด เช่น ขณะนี้ เอิ๊บยังมีพระหลวงพ่อทวด หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ฯลฯ อย่างละหลายร้อยองค์ พระพิมพ์ไหนได้เรียนรู้จนจำได้หมดแล้วก็ขายออกไปบ้าง เพื่อจะได้เอาเงินมาเป็นทุนในการซื้อพระองค์อื่นๆ ต่อไป เพราะการเรียนรู้เรื่องพระ ไม่มีวันจบสิ้น การเรียนรู้พระแท้องค์จริง ให้มากๆ และบ่อยๆ ย่อมทำให้มีโอกาสที่ดีกว่าคนอื่น

มาถึงทุกวันนี้ เอิ๊บบอกว่ามีความสุขกับงานที่ทำอยู่นี้ เพราะเป็นงานที่รักและชอบ ขณะเดียวกันก็ยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้เท่าที่มีอยู่ ให้ท่านผู้สนใจที่จะหาพระแท้มาศึกษาเป็นแนวทาง ไปสอบถามได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อพระจากเขาก็ได้ ยินดีแบ่งปันความรู้ให้เสมอ
เอิ๊บ (ธนันท์ ศรีแก้ว) มีร้านพระอยู่ในชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร.๐๘-๙๙๒๑-๓๙๐๓ นอกจากนี้ยังมีร้านพระอยู่ในเว็บไซต์ "ท่าพระจันทร์" (http://www.thaprachan.com) อีกด้วย

0 ตาล ตันหยง 0