พระเครื่อง

ชั่วโมงเซียน-พระยอดขุนพลพระซุ้มปรางค์  กรุวัดไก่ จ.ลพบุรี

ชั่วโมงเซียน-พระยอดขุนพลพระซุ้มปรางค์ กรุวัดไก่ จ.ลพบุรี

27 ก.ย. 2553

ในสังคมมนุษย์ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน เมื่อสังคมมีปัญหาก็มักมีบุคคลสำคัญเข้ามากอบกู้สถานการณ์ ซึ่งในอดีตนั้น ผู้ที่กอบกู้ส่วนใหญ่จะมาจากทหารเอก หรือแม่ทัพนายกอง ทั้งนี้ เราจะยกย่องบุคคลเหล่านี้ว่าเป็น "ยอดขุนพล"

ขณะเดียวกัน ในวงการพระเครื่องซึ่งมีการค้นพบพระะเครื่องที่มีศิลปะงดงามอลังการ ถึงกับมีการขนานนามพระเครื่องที่มีศิลปะแบบนี้ว่า "พระยอดขุนพล" เลยทีเดียว

 พุทธลักษณะอันโดดเด่นของพระยอด กรุวัดไก่ คือ มีรูปลักษณ์การทรงเครื่องแบบเทริด คือ องค์พระมีการทรงเครื่องแบบสวมมงกุฎ สวมกำไลแขน กำไลข้อมือ กำไลข้อเท้า ประทับนั่งอยู่บนฐานแบบบัลลังก์ ลักษณะของการทรงเครื่องคล้ายแม่ทัพนายกองสมัยโบราณ หรือแบบยอดขุนพลในตำนานนั่นเอง

 พระยอดขุนพล ที่พบมีขึ้นด้วยกันหลายกรุ หลายจังหวัด มีทั้งประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้ว ในซุ้มกนก รวมทั้งแบบไม่มีซุ้มก็มี ซึ่งเป็นที่นิยมกันในหมู่นักสะสมพระกรุทุกระดับชั้น และเป็นที่เล่นหานิยมกันในทุกๆ กรุที่พบ

 แต่ถ้าจะนับความเก่าแก่ของอายุการสร้างแล้ว ก็ต้องถือว่า พระยอดขุนพล ที่ขึ้นจาก จ.ลพบุรี จะมีอายุการสร้างมานาน และมีขึ้นด้วยกันหลายกรุ มีทั้งเนื้อชินเงิน ชินตะกั่วสนิมแดง เนื้อดิน เป็นต้น

 ทั้งนี้หากจะกล่าวถึงเฉพาะพระยอดขุนพล เนื้อชินเงิน แล้ว กรุอันเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งต้องยกให้ พระยอดขุนพล กรุวัดไก่ จ.ลพบุรี

 การแตกกรุของพระยอดขุนพล กรุวัดไก่ เกิดจากการขุดค้นหาพระเครื่องและของมีค่า ของนักเผชิญโชครุ่นเก่าๆ หลายครั้งหลายหนและหลายคนที่เข้าไปค้นหา (อย่างไม่เป็นทางการ) ปรากฏว่า นักเผชิญโชคเหล่านั้นได้พระกันไปจำนวนมาก

 พระที่ได้จากกรุวัดไก่นี้ มีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ทรง ปะปนกันไป มีพระหลายสมัยรวมอยู่ด้วยกัน เช่น พระศิลปลพบุรีบริสุทธิ์ กับศิลปอยุธยา ก็เป็นที่เชื่อได้อย่างแน่นอนว่า พระที่มีศิลปลพบุรีนั้น ได้ถูกนำมาบรรจุรวมกับพระศิลปอยุธยาในภายหลัง (ขณะที่สร้างพระเจดีย์) ภายในกรุ มีทั้งพระบูชาและพระเครื่องหลายอย่างหลายชนิด ซึ่งเหมือนกับเจดีย์รายบางองค์ ในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี หรือที่อื่นๆ ด้วยเช่นกัน

 ศิลปพระยอดขุนพล กรุวัดไก่ เป็นศิลปลพบุรี มีลักษณะคล้ายกับที่พบที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.ลพบุรี ซึ่งเคยขุดอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘ องค์พระมีส่วนสูงประมาณ ๗ ซม. กว้างประมาณ ๔ ซม. เป็นพระปางสะดุ้งมาร บัวคว่ำ บัวหงาย (แบบฐานบัว ๒ ชั้น) แบบบัวหงาย (แบบฐานบัวชั้นเดียว) มีสังฆาฏิเป็นรอยลึกทุกองค์ มีความคมชัดเจนมากกว่าพระอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน

 แต่รู้สึกว่า องค์พระจะใหญ่ไปเล็กน้อย พระเกศมาลาเหมือนฝาละมี ไม่แหลมไม่เตี้ยเกินไป ลักษณะองค์พระเท่ากับพระหูยาน ส่วนซุ้มของท่านดูแลแข็งแรง แสดงให้เห็นฝีมือของช่างที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานให้งดงามอลังการอย่างแท้จริง

 พระกรุวัดไก่ จ.ลพบุรี มีเนื้อชินแบบเดียวกับพระหูยาน วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ รวมทั้งยังมีเนื้อชินเงิน และเนื้อตะกั่วผสม 

 จากประสบการณ์เก่าแก่ ของผู้ที่เคยใช้พระยอดขุนพล กรุวัดไก่ พบว่าเป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุนโดดเด่นด้านคงกระพันมาก ถึงกับมีการพูดกันว่า "เหนียวชะมัดยาด" นอกจากนี้แล้ว ยังมีอานุภาพด้านแคล้วคลาด รวมทั้งเป็นที่ยำเกรงแก่บรรดาผู้ใต้ปกครองอีกด้วย

 ประสบการณ์หนึ่ง อันเป็นที่กล่าวขานจนถึงทุกวันนี้ ต้องยกให้เรื่องของ จ.ส.อ.สุข คงเจริญ อดีตผู้คุมขังทหาร ที่กระทำตนผิดวินัย และความผิดต่างๆ ในหลายกรณี เช่น ปล้น, ฆ่า,จี้,หนี,ขาด,พยายามฆ่า,ข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อทหารที่เป็นนักโทษได้ยินชื่อนั้นแล้ว จะต้องสะดุ้งผวาแปดตลบ เพราะว่าบุคคลผู้นี้คือ ผู้คุมนักโทษของ จทบ.ลบ.ในอดีต จ่าผู้นี้นี่แหละ คือ ที่มาของพระกรุวัดไก่ อันมีชื่อเสียงเล่าลือระบือไกล ดังกระฉ่อนไปทั่วแคว้นแดนสยาม

 สาเหตุที่ทำให้พระยอดขุนพล กรุวัดไก่ มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะตัวจ่าสุขมีพระพิมพ์นี้อยู่องค์เดียว จากกรุวัดไก่ โดยห้อยไว้ที่คอ แล้วเกิดประสบการณ์ต่างๆ นานา หลายสิบครั้งหลายสิบหน ปรากฏว่า ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดทั้งสิ้น (เป็นอันว่ามีแต่บวกไม่มีลบ)

 พระที่จ่าสุขได้มานี้ เพราะจ่าเคยคุมทหารที่ต้องขังไปทำความสะอาดบริเวณรอบๆ แท็งค์น้ำในค่ายสมเด็จพระนารายณ์ ทหารคนหนึ่งได้หลบหนีไป ต้องเดือดร้อนถึงผู้คุม ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน ๒-๓ คน จ่าสุข ขันอาสาติดตามเอง และแทบทุกครั้งเมื่อทหารหนี จ่าสุขจะต้องติดตามมาจนได้ ด้วยความสามารถมาก จิตใจของจ่าเหี้ยมเกรียม และเด็ดเดี่ยว ทำให้ทหารต้องโทษเกรงกลัวมาก ดีไม่ดีบางทีก็เอาถึงตาย

 พระยอดขุนพล กรุวัดไก่ หรือที่เราท่านทั้งหลายเรียกว่า พระยอดขุนพลนั้น นับเป็นวัตถุมงคลที่มีคุณค่ายิ่งชิ้นหนึ่ง ที่มีคุณวิเศษสมคำกล่าวอ้างที่ว่า ยอดขุนพล จึงสมแล้วกับสมญานามอันเกรียงไกรยิ่งใหญ่ของท่าน ที่เราสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิในทุกกาลเวลา

วัดไก่อยู่หนใด?

 วัดไก่เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยโบราณ ในอดีตวัดไก่เป็นวัดที่มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งวัดหนึ่ง ปัจจุบันเป็นวัดร้างที่เหลือแต่ซากพระเจดีย์ปรักหักพังให้เห็นเท่านั้น อยู่ในพื้นที่ตำบลทะเลชุบศร หมู่ที่ ๕ อ.เมือง จ.ลพบุรี (นอกเขตเทศบาล) อยู่ในละแวกเดียวกันกับวัดศาก (หินสองก้อน) และวัดชีป่าสิตาราม โดยห่างกันไม่เกินครึ่งกิโลเมตร ทางทิศเหนือ วัดศาก (หินสองก้อน) ทางทิศใต้ คือวัดชีป่า

  วัดไก่เป็นวัดเก่าวัดแก่ที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์มิใช่น้อย คงมีความเจริญรุ่งเรืองสุดขีด พื้นที่ของวัดมีบริเวณกว้างขวางมาก วัดไก่นี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่า ใครเป็นผู้สร้าง หรือสร้างมาแต่เมื่อไร แต่จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดีและนักวิชาการ ได้กำหนดเอาว่า วัดไก่ นี้สร้างขึ้นใน สมัยอยุธยาตอนต้น หรือ ราวๆ พุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ เป็นอย่างต่ำ

 จากหลักฐานที่ปรากฏให้เห็นคือ เจดีย์ เจดีย์วัดไก่นี้มีความเก่าแก่ สร้างแบบ "ทรงลังกา" นักโบราณคดีจะกำหนดค่อนข้างแน่ชัดว่า สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเรืองอำนาจ

 จากการสังเกตหลักฐานจากสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรม บ่งบอกอย่างแน่ชัด และมีสิ่งที่น่าคิดน่าศึกษาอีกมาก ในเรื่องพระเครื่องและพระบูชา ในองค์พระเจดีย์ เครื่องประดับปรางค์ รวมถึงลักษณะทรวดทรงของพระเจดีย์ด้วย
 
เต้ สระบุรี