
พล.ต.ต.สุชาติ กาญจนวิเศษ กับวจี...คนปักษ์ใต้แขวนพระหลวงปู่ทวดทุกคน
หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมัญญานี้เริ่มเป็นที่รู้จักประมาณ พ.ศ.๒๕๐๐ โดยเป็นที่รู้จักกันด้วยเหตุแห่งเป็นพระเครื่องเนื้อว่านที่สร้างขึ้นโดยเกจิอาจารย์บ้านนอกในถิ่นทุรกันดารอย่างวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้สร้างคือ พระอาจารย์ทิม ธรรมธโร ซึ่งสร้างข
หลังจากการสร้างเพียง ๒-๓ ปี คือ ประมาณ พ.ศ.๒๕๐๐-๒๕๐๑ คนในวงการบันเทิง หรือจะเรียกว่าดารา นางเอกหญิงแสนสวย คือ คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง ซึ่งห้อยบูชาพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกของวัดช้างให้อยู่ ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วแคล้วคลาดปลอดภัยอย่างน่าอัศจรรย์ จึงเป็นที่โจษขานเล่าลือกันไปรวดเร็วประดุจไฟลามทุ่ง สมัญญาหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างรวดเร็ว พระเครื่องของวัดช้างให้เริ่มมีการแสวงหา และหนึ่งในจำนวนนี้มีชื่อของ พล.ต.ต.สุชาติ กาญจนวิเศษ อุปนายกสมาคมปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมอยู่ด้วย
“ไม่เฉพาะผมเท่านั้น ขึ้นชื่อว่าคนใต้ ต้องมีพระหลวงปู่ทวดห้อยติดคอไว้ทุกคน บางคนแขวนองค์เดียว บางคนแขวนหลายองค์ ที่แขวนพระหลวงปู่ทวดคราวเดียวกันนับสิบองค์ก็มี แม้ไม่แขวนในรถอย่างน้อยก็ต้องมีภาพพระหลวงปู่ทวดติดอยู่ ส่วนปาฏิหาริย์นั้นไม่ต้องพูดถึง ท่านโดดเด่นเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย อย่างคำที่ว่า แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหงจริงๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องขึ้นอยู่ที่กรรมดีด้วย ถ้าแขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไปก่อกรรมเลว สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ครั้งแรกท่านอาจจะช่วยให้ไม่ตายโหง แต่ครั้งต่อๆ ไป อาจจะไม่แน่” นี่เป็นคำยืนยันของพล.ต.ต.สุชาติ
อย่างไรก็ตาม จากกฤษฎาภินิหาร และบารมีธรรมของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เมื่อ ดร.ประจวบ มณีรัตน์ ที่ปรึกษาอาวุโสของสมาคมได้เล่าถึงความฝันว่า ได้เห็นรูปหล่อหลวงพ่อทวดขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้าที่ทำการสมาคมชาวปักษ์ใต้ จึงได้นำเข้าสู่การหารือกับคณะกรรมการบริหาร และกรรมการบริหารยินดีอย่างยิ่งในการที่ ดร.ประจวบ มณีรัตน์ จะเป็นแม่งานในการสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ขนาดหน้าตัก ๓๙ นิ้ว สูง ๖๙ นิ้ว ขึ้นจำนวน ๓ องค์ โดยประดิษฐานอยู่ที่ จ.เชียงราย ประดิษฐานอยู่ที่ จ.น่าน และประดิษฐานอยู่ ณ วิหารหน้าอาคารที่ทำการสมาคม
นอกจากแขวนพระหลวงปู่ทวดแล้ว พล.ต.ต.สุชาติ ยังแขวนพระสายใต้อีกหลายองค์ ประกอบด้วย พระครูพิศิษฐ์อรรถการ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์" วัดสวนขัน ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พระครูอรรถธรรมรส หรือพ่อท่านซัง วัดวัวหลุง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลวงปู่สงฆ์ จนฺทสโร อ.เมือง จ.ชุมพร รวมทั้ง พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นศิษย์พ่อท่านคล้าย ส่วนองค์เทพที่ขาดไม่ได้อีกเช่นกัน คือ จตุคามรามเทพ แม้ว่าจะไม่มีรุ่นแรกๆ แต่ก็มีรุ่นอื่นแขวนติดคอเช่นกัน เพราะคิดว่า อย่างไรเสียก็เป็นจตุคามรามเทพเหมือนกัน จะเป็นปีไหน ใครหรือหน่วยงานใดสร้าง ถ้าผู้แขวนมีพลังศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดกับคนนั้นๆ
พ่อท่านแก่นเป็นเกจิชื่อดังของเมืองนครศรีฯ พระปิดตาของท่านมีพุทธคุณชื่อเสียงโด่งดัง ว่าทนมีด ทนปืน นักนิยมพระสายใต้ต่างทราบกันดี ท่านเกิดวันเสาร์ที่ ๕ เมษายน ๒๔๔๙ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีจอ ด้วยความที่เกิดวันแข็ง คือ เสาร์ ๕ เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ่อแม่จึงเรียกว่า แก่น ทั้งนี้พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อชอบด้านอิทธิฤทธิ์ และสนใจวิชาไสยศาสตร์ ตั้งแต่วัยหนุ่ม และได้ศึกษาไสยศาสตร์กับพ่อท่านซัง วัดวัวหลุง เมื่อศึกษาก็ทดลองทำได้ผลเป็นที่อัศจรรย์ใจ และพอใจแก่พ่อท่านซังเป็นอย่างมาก
“ครั้งหนึ่ง เคยไปฝึกกระโดดร่ม ก่อนที่จะบรรจุเข้าประจำการที่กองสนับสนุนทางอากาศ ต้องไปปรับพื้นฐานเกี่ยวกับการกระโดดร่ม ในขณะที่กระโดดออกจากตัวเครื่องบินนั้น ร่มไม่กาง คิดว่าอย่างไรก็ไม่รอดแน่ๆ ใจก็นึกถึงพระที่แขวนขึ้นมาทันที โดยได้ตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีพ่อท่านแก่น ขอให้รอดตาย สิ้นสุดคำอธิษฐานเกิดกระแสลมกรรโชก ทำให้ร่มกางเต็มที่ ก่อนที่ร่มจะตกถึงพื้นประมาณ ๑๐๐ ฟุต จากนั้นลมก็พัดไปลงบนกองทราย” นี่เป็นปาฏิหาริย์ที่ พล.ต.ต.สุชาติ บอกว่า “ไม่เคยลืม แม้ว่าวันนี้จะเกษียณอายุราชการมาแล้วก็ตาม”
ส.ชาวปักษ์ใต้ฯ จัดประกวดพระ
พล.ต.ต.สุชาติ บอกว่า ในวาระครบปีที่ ๗๘ ของการสถาปนาสมาคมชาวปักษ์ใต้ สมาคมจัดให้มีกิจกรรมสมโภชวิหารหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด โดยนายกสมาคมคือ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ ได้ขอความร่วมมือไปยังนายอรรถภูมิ บุณยเกียรติ ผู้อำนวยการสถาบันโบราณศิลป์ ให้จัดกิจกรรมร่วมในวาระดังกล่าว คือ จัดนิทรรศการประกวดพระเครื่องขึ้น กว่า ๑,๕๐๐ รายการ ในวันอาทิตย์ที่ ๕ กันยายนนี้
ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่ ๔ กันยายน จะมีการออกใบเซอร์พระแท้ เฉพาะพระสมเด็จ ๓ วัด คือ วัดระฆัง วัดบางขุนพรหม และวัดไชโย ทั้งนี้สถาบันโบราณศิลป์ได้นำเหรียญพระพุทธไสยาสน์มหามงคล ๕ รอบ หลัง ภปร.ของวัดโพธิ์ ท่าเตียน ปี ๒๕๓๐ มาแจกแก่ผู้ไปร่วมงาน ทั้งวันที่ ๔ และวันที่ ๕ โดยแจกเฉพาะผู้ที่ซื้อบัตรเซอร์พระทุกรายการ ในวันเสาร์ที่ ๔ และซื้อบัตรส่งพระทุกรายการ ในวันอาทิตย์ที่ ๕ แจกรายการละ ๑ องค์
สำหรับวันประกวดพระ อาทิตย์ที่ ๕ กันยายน เฉพาะพระเครื่องยอดนิยม คือ หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นแรก วัดช้างให้ ทุกรายการ สถาบันโบราณศิลป์ประกาศความรับผิดชอบว่า หากพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านรุ่นแรกของวัดช้างให้ ที่ติดรางวัล และมีคณะบุคคลอื่นระบุว่า พระองค์นั้นไม่แท้ และผู้ครอบครองเชื่อตามนั้น ก็สามารถนำไปให้สถาบันเช่าบูชาได้ในราคาต่อไปนี้ เฉพาะเนื้อว่านรุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ เอ บี ซี เช่าบูชาองค์ละ ๑ แสนบาท ส่วนเนื้อว่านรุ่นแรกพิมพ์อื่นๆ เช่าบูชาองค์ละ ๕ หมื่นบาท
ส่วนรางวัลชนะเลิศของงานประกวดพระครั้งนี้ ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ฯพณฯ สวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรี มอบรางวัลเกียรติยศให้พระเครื่องที่ชนะเลิศทุกรายการจะได้รับหนังสือ “พระหลักยอดนิยม” ปกแข็ง หนากว่า ๓๐๐ หน้า มูลค่า ๖๕๐ บาท และยังได้รับเหรียญหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด รุ่น “ปริศนาธรรม” เนื้อทองแดงกะไหล่นาก หรือกระไหล่ทอง สำหรับรางวัลชนะเลิศประจำโต๊ะทุกโต๊ะ จะได้รับเหรียญหลวงพ่อทวด เนื้อเงินสามกษัตริย์ และพิเศษสุด..ชนะเลิศรวมพระเครื่องเมืองใต้ และหลวงพ่อทวด จะได้รับเหรียญทองคำลงยาสีแดง ๑ องค์ สำหรับชนะเลิศรวมพระเครื่องประเภทอื่นๆ ที่เหลือ ก็จะได้รับเหรียญหลวงพ่อทวดทองคำลงยาสีเขียว ๑ องค์ ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ โทร.๐-๒๘๗๙-๕๗๘๘, ๐๘-๑๔๐๙-๗๕๐๒
“ขึ้นชื่อว่าคนใต้ ต้องมีพระหลวงปู่ทวดห้อยติดคอไว้ทุกคน ส่วนปาฏิหาริย์นั้นไม่ต้องพูดถึง ท่านโดดเด่นเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย อย่างคำที่ว่า แขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วไม่ตายโหง”
เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู