พระเครื่อง

แพทย์ท่านแรกที่เป็น"เซียนพระ"เต็มตัวนพ.มาณพ โกวิทยา

แพทย์ท่านแรกที่เป็น"เซียนพระ"เต็มตัวนพ.มาณพ โกวิทยา

06 มิ.ย. 2553

เส้นทางนักพระเครื่อง ได้นำเรื่องราวของ นายแพทย์นักสะสมพระเครื่อง มาลงในคอลัมน์นี้ไปแล้ว ๔ ท่านด้วยกัน วันนี้จะเป็นท่านที่ ๕ คือ นพ.มาณพ โกวิทยา ซึ่งเป็นนายแพทย์ท่านแรกที่เป็น เซียนพระ อย่างเต็มตัว โดยได้เลิกอาชีพแพทย์

 หันมาประกอบธุรกิจซื้อขายพระเครื่องอย่างจริงจัง ด้วยเห็นว่า อาชีพนี้มีความมั่นคง มีอนาคตก้าวไกล เพราะทุกวันนี้ มีผู้สนใจสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะแต่ผู้สูงอายุเท่านั้น นักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ และผู้มีการศึกษาสูงๆ ต่างหันมาสะสมพระเครื่องกันอย่างกว้างขวางกว่าสมัยเก่าก่อนมาก

 ขณะเดียวกัน พระเครื่องในทุกวันนี้ยังถือได้ว่า เป็นหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงแน่นอน และมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 นพ.มาณพ โกวิทยา เป็นลูกหลานของคหบดีชาวปัตตานี  สมัยเด็กเรียนหนังสือชั้นประถมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนจิตรลดา ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท จากนั้นสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วไปศึกษาต่อช่วงเวลาหนึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมารับราชการในสำนักงานแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นเวลา ๑๔ ปี จึงได้ลาออกมาทำธุรกิจซื้อขายพระจนถึงทุกวันนี้

 "ผมเริ่มสนใจเรื่องพระเครื่องตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่ชั้น ม.๕ ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ขณะอายุ ๑๗ ปี ได้อ่านข่าวที่เจ้าพ่อคนหนึ่งโดนถล่มยิงด้วยอาวุธสงคราม ขณะที่เจ้าพ่อเมื่อรู้ตัวว่าถูกยิงก็เอาพระสมเด็จอมไว้ในปาก แม้ว่าเจ้าพ่อคนนั้นตาย แต่ก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ที่กระสุนนับร้อยนัดไม่ระคายผิวหนังเจ้าพ่อเลย มีเพียงนัดเดียวเท่านั้นที่ยิงเข้าปลิดชีพเจ้าพ่อคนดัง ตรงนี้ทำให้ผมเกิดความสนใจในเรื่องพระเครื่องขึ้นมา และเชื่อว่าพุทธคุณในองค์พระมีจริง ตั้งแต่นั้นมาผมก็หาหนังสือพระเครื่องมาอ่าน และเริ่มหาเช่าพระ โดยตั้งใจว่าจะเก็บสะสมเอาไว้เพื่อสักการบูชา และเพื่อการศึกษาต่อไป พระองค์แรกที่เช่า (เมื่อปี ๒๕๓๐ เศษ) คือ พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงนก ราคา ๔ พันบาท สวยคมชัดมาก โดยซื้อมาจากสมาน คลองสาม เซียนพระชื่อดัง ซึ่งเปิดร้านอยู่ที่สวนจตุจักร ที่ได้ซื้อพระองค์นี้เพราะบังเอิญผมเกิดวันที่และเดือนเดียวกับหลวงพ่อปาน ท่านเป็นพระหมอ มีเมตตามหานิยมสูง จึงชอบและเคารพศรัทธาท่านมาก นอกจากนี้ยังได้เที่ยวซื้อพระตามที่ต่างๆ อีกหลายแห่ง  ก็โดนของเก๊มาเหมือนกัน เพราะยังดูพระไม่เก่ง" คุณหมอมาณพ เล่าย้อนอดีตที่ผ่านมา

 ต่อมา เมื่อได้เข้าเรียนแพทย์อยู่ที่ศิริราช ด้วยความสนใจพระเครื่องที่มีอยู่ก่อนแล้ว พอมีเวลาว่างก็มักนั่งเรือข้ามฟากมาที่สนามพระท่าพระจันทร์ เพื่อชมพระตามแผงต่างๆ จนได้รู้จักกับ เฮียตี๋เหล้า ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือมาก ใจดี ให้ความเป็นกันเองกับทุกคน และที่สำคัญคือท่านเล่นพระดีมีแต่พระแท้จึงขอซื้อพระจากเฮียตี๋เหล้าเป็นประจำ สมัยนั้นตั้งใจซื้อพระเพื่อเก็บอย่างเดียว ไม่ได้คิดจะขายต่อแต่อย่างใด การศึกษาเรื่องพระของผมจึงได้อาศัยพระแท้องค์จริงเป็นหลัก ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ จากพระทุกองค์ที่ซื้อมา จนจำพระได้ทุกองค์ทุกหน้า อะไรที่สงสัยก็สอบถามจากเฮียตี๋เหล้า ท่านก็จะเมตตาสอนให้ และชี้แนะทุกอย่างให้เราจนเข้าใจ อีกคนหนึ่งที่เล่นพระดีมีพระแท้ คือ  คุณตี๋ วัดไทร ได้รับคำแนะนำบ่อย ตรงไปตรงมาดี พูดง่าย นอกจากนี้ก็ได้ความรู้จากการพูดคุยกันในวงการพระด้วยกัน รวมทั้งศึกษาจากหนังสือตำราพระเครื่องบ้าง และจากนิตยสารพระเครื่องต่างๆ ก็มี

 คุณหมอมาณพ กล่าวว่า "การซื้อพระช่วงระยะ ๑๐ ปีแรก แม้ว่าจะซื้อไว้มาก แต่ก็เป็นพระทั่วไป ไม่สวยคมชัดเท่าที่ควร ต่อมาผมได้เบนเข็มซื้อแต่พระแชมป์สวยจริงเป็นหลัก เพราะเห็นว่า อัตราราคาขึ้นของพระสวยจริงมีมากกว่าพระทั่วๆ ไปมากมาย อย่างเช่น เหรียญเจ้าสัว หลวงปู่บุญ เนื้อเงิน เมื่อไม่กี่ปีก่อนซื้อขายกันที่แสนเศษ แต่เหรียญเจ้าสัวอันนี้ผมซื้อมา ๒.๙ แสนบาท เพราะเป็นเหรียญสวยคมชัดและดูง่าย ทุกวันนี้หากจะเปิดราคา ๓ ล้านบาทก็มีคนเอา แต่ผมไม่ขาย และยังใช้ติดตัวจนทุกวันนี้  จึงเห็นได้ชัดว่า พระสวยจริงมีโอกาสขายได้ง่ายกว่า และได้ราคามากกว่า"

 เมื่อได้ตั้งใจทำธุรกิจพระเครื่องอย่างจริงจัง คุณหมอมาณพจึงเปิดตัวซื้อขายพระครั้งแรกขึ้นตามนิตยสารพระเครื่องต่างๆ โดยนำพระทั่วไปที่มีอยู่เปิดราคาขายขึ้นก่อน ขณะเดียวกันก็หาซื้อแต่พระสวยแชมป์เข้ามาแทนที่ ต่อมาเมื่อมีเว็บไซต์พระท่าพระจันทร์ (www.thaprachan.com) คุณหมอมาณพได้เช่าพื้นที่ลงรายการซื้อขายพระเครื่องอย่างหลากหลาย มีจำนวนพระที่ลงภาพเปิดราคาขายไว้กว่า ๒๐๐ รายการ ครบถ้วยพระทุกประเภท โดยมีการปรับเปลี่ยนความเคลื่อนไหวทุกวัน

 คุณหมอมาณพ กล่าวว่า "พระทุกองค์ที่นำมาลงขายทางเว็บ จะต้องผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่า ต้องเป็นพระแท้พระสวยสภาพเดิมๆ ไม่มีชำรุดอุดซ่อม หรือเสริมเติมแต่งแต่ประการใด และส่วนใหญ่จะเป็นพระที่ได้รับรางวัลจากงานประกวดพระครั้งใหญ่ๆ ที่สมาคมพระให้การสนับสนุนมาแล้วทั้งนั้น  โดยผมจะมีใบรับประกันพระแท้ตลอดกาลให้ด้วย ถ้าหากคิดว่าเป็นพระเก๊ นำไปขายที่สนามพระท่าพระจันทร์แล้วไม่มีคนรับชื้อ หรือสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยไม่ออกใบรับรองพระแท้ให้ หรือส่งพระเข้าประกวดแล้วกรรมการไม่รับตัดสิน ผมยินดีคืนเงินสดเต็มจำนวนทันที ขณะเดียวกัน พระทุกองค์ที่ซื้อจากผมไปหากจะขายคืนก็ยินดีรับซื้อด้วยเงินสดตลอดเวลา ในกรณีพระที่ซื้อไปนั้นมีราคาสูงขึ้น ผมจะซื้อคืนในราคาจริงในขณะนั้น คือให้กำไรเท่าที่ลูกค้าพอใจ"

 นอกจากนี้ คุณหมอมาณพยังเปิดรับจำนำพระเครื่องทุกองค์ที่เช่าบูชาไป ด้วยเงินสด ไม่จำกัดวงเงิน และไม่จำกัดระยะเวลา รวมทั้งยังมีบริการลูกค้าที่มีความตั้งใจจริงที่จะเช่าบูชาพระจากทางร้าน แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินเต็มจำนวนทันที ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนจ่ายได้อีกด้วย ถ้าหากเป็นลูกค้าขาประจำ เอาพระไปใช้ก่อน แล้วค่อยจ่ายเงินทีหลังก็ยังได้ ตรงนี้ทำให้ลูกค้าของคุณหมอสนใจกันมาก และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่กล่าวถึงของคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งหันมาสะสมพระเครื่องในทุกวันนี้

 อีกสิ่งหนึ่งที่คุณหมอมาณพได้เปิดบริการขึ้นเป็นแห่งแรกของวงการพระเครื่องก็คือ การเปิดศูนย์พระเครื่องข้ามชาติ ที่คุณหมอเรียกว่า OVERSEAS FRIENDS BUDDHIST AMULETS CENTER ทางเว็บไซต์พระท่าพระจันทร์ บริการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ เป็นจุดเด่นที่สร้างความสนใจอย่างกว้างขวาง จนเมื่อเขาเกิดความเชื่อถือคุณหมอมากขึ้นแล้ว ก็ได้ติดต่อสั่งซื้อพระเครื่องเป็นประจำ เริ่มจากพระที่มีราคาไม่แพงมาก ต่อมาก็เพิ่มเพดานการซื้อสูงขึ้นเรื่อยๆ  จนทุกวันมีการสั่งซื้อพระหลักแสนหลักล้าน จนบางครั้งมากถึงกว่าสิบล้านบาทก็มี

 ความศรัทธาสนใจในพระเครื่องเมืองไทยของลูกค้าในต่างประเทศ คุณหมอมาณพ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งน่าจะได้มาจากการติดตามอ่านเรื่องราวต่างๆ ของพระหลักยอดนิยมกว่า ๔๐ รายการ ที่คุณหมอได้ลงเผยแพร่เป็นภาษาอังกฤษทางอินเทอร์เน็ต โดยได้เขียนถึงประวัติความเป็นมาของพระแต่ละองค์ อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนการพิจารณาพระแท้พระปลอมเป็นอย่างไร ทำให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และน่าศรัทธาเชื่อถือ

 "พระเครื่องเป็นประติมากรรมขนาดเล็ก ที่มีทั้งพุทธศิลป์ และพุทธคุณ มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นพุทธพาณิชย์ ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ สำหรับผมแล้ว พระเครื่องยังเป็นสื่อสัมพันธ์ที่ทำให้มีคนรู้จักผมมากขึ้นอีกด้วย ธุรกิจการซื้อขายพระของผมไม่ได้มุ่งมั่นที่จะเอาแต่กำไรเท่านั้น แต่ผมจะมองว่า ในเรื่องของน้ำใจไมตรีจิตมิตรภาพก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน" คุณหมอเซียนพระกล่าว

 ทุกวันนี้ คุณหมอได้เปิดร้านพระชื่อ มาณพ บนชั้น ๒ ชมรมพระเครื่องมณเฑียรพลาซา บริเวณโรงแรมมณเฑียร ถนนสุรวงศ์ โทร.๐๘-๑๙๘๖-๖๗๖๕ เวลา ๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. (หยุดวันเสาร์-อาทิตย์) หรือเปิดดูภาพพระได้ที่ http://www.thaprachan.com

ตาล ตันหยง