พ.อ.ธนศักดิ์ ชื่นอิ่ม ความดี เป็น บารมีป้องกันตัว | คมชัดลึก

 มีอยู่ ๔ คน คือ ๑.พลเอก ไตรรงค์ อินทรทัต หรือ เสธฯ ไอซ์ ๒.น.อ. ปรีชาญ จามเจริญ หรือ หรือ   เสธ.ตุ่ม ๓ พันเอกนิคม อุดมเลิศวนสิน เสธนาธิการกรมทหารปืนใหญ่ที่ ๗๑ และ ๔. พ.อ.(พิเศษ)ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม ผู้อำนวยการกอง กรมการสารวัตรทหารบก (ผอ.กองสห.ทบ.) หรือ เสธฯ ธนะศักดิ์ 

 พ.ท. ธนะศักดิ์ บอกว่า นิสัยการรักพระเครื่องน่าจะได้มาจากพ่อ เพราะท่านพ่อเป็นคนรุ่นเก่า ชอบเก็บและสะสมพระเครื่องไว้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่เรียกว่าเซียนพระอย่างปัจจุบัน ในช่วงเป็นเด็กเห็นเพื่อนของพ่อมาขอดูพระของส่องพระที่บ้าน ด้วยความเป็นเด็กครั้นจะขอดูบ้างคงไม่มีผู้ใหญ่คนไหนให้ดู ได้แต่มองนั่งฟังพอคุยกับเพื่อนอยู่เงียบๆ  ทำให้ได้รับการซึมซับเรื่องพระเครื่องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในใจก็คิดอยู่ว่าเมื่อโตขึ้นคงมีโอกาสมีกล้องส่องพระ รวมทั้งมีพระดีๆ มาคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ เหมือนพ่อและเพื่อนของพ่อบ้าง

 ระหว่างที่เรียนหนังสือทั้งมัธยมปลาย รวมทั้งโรงเรียนนายร้อย จปร. ก็มีความสนใจพระเครื่องแต่ก็ยังไม่เคยหยิบกล้องส่องพระเลยสักครั้งเดียว จนกระทั่งเรียนจบโรงเรียนนายร้อยก็ถูกส่งไปประจำการเป็นผู้หมวด ที่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็เริ่มจับกล้องส่องพระเป็นเรื่องเป็นราว ขณะเดียวกันก็ทำงานได้รับเงินเดือนแล้วด้วยจึงกล้าที่จะซื้อพระดีๆ มาไว้ในครอบครอง ช่วงที่เล่นพระใหม่ๆ จะเช่าเฉพาะพระหลวงปู่ทวดเท่านั้น พระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่ หลังเตารีด สภาพสวยๆ ราคาประมาณ ๘,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ บาท กว่าจะเช่าพระหลวงปู่ทวดได้สักองค์ต้องเก็บเงินหลายเดือนจึงเช่าได้สักองค์หนึ่ง จากนั้นก็หนมาเก็บและสะสมพระเครื่องที่สร้างโดยพระเกจิอาจารย์ต่างๆ เช่น พระหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พระหลวงปู่ศุข วัดปากลองมะขามเฒ่า เป็นต้น

 เมื่อสนใจศึกษาสะสมพระเครื่องก็ทำให้รู้จักกับคนในวงการพระเครื่องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างกับ ป๋าพยัพ หรือ นายพยัพ คำพันธ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย รู้จักกับท่านมาเมื่อกว่า ๒๐ ปี ที่แล้ว เรียกว่ารู้จักก่อที่จะชมรมตั้งชมรมพระเครื่องมรดกไทย และสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ซึ่งขณะนั้นวงการพระเครื่องยังไม่มีการรวมตัวกันเป็นเรื่องราวอย่างทุกวันนี้ การที่ได้เข้าไปช่วยเฮียโบ๋ หาดใหญ่จัดประกวดพระ ทำให้รู้จักคนในวงการพระมากยิ่งขึ้น เมื่อย้ายประจำการทีกรุงเทพยิ่งทำให้ได้คลุกคลีกับคนในวงการพระเครื่องมาขึ้นตามลำดับ จนทุกวันนี้กลายเป็นคนในวงการพระเครื่องไปแล้ว

 “ผมไม่ใช่เซียนพระ แต่ผมก็เช่าพระหลวงปู่ทวดด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งตาเซียน ผมเช่าเพราะผมชอบ ขณะนั้นไม่เคยมีความคิดเลยว่าจะเพื่อปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ ตอนนั้นเช่าพระหลวงปู่ทวดได้มากพอประมาณ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเคยเช่าพระหลวงปู่ทวดในราคาประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท เมื่อ ๑๐ ปีก่อน มาวันนี้พระหลวงปู่ทวดองค์เดียวค่านิยมจะสูงขึ้นกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้เช่าและขายพระเป็นอาชีพ แต่เมื่อคราใดมีความจำเป็นต้องใช้เงินก็ต้องพึ่งบารมีท่าน ซึ่งทุกครั้งจะรู้สึกเสียดายเพราะโอกาสที่จะกลับคืนมานั้นไม่ใเรื่องง่าย” พ.ท. ธนะศักดิ์กล่าว

 สำหรับพระเครื่องที่ พ.ท. ธนะศักดิ์ แขวนติดตัวเป็นประจำ โดยจะแขวนสลับกันทั้งนี้ขึ้นว่าจะไปไหน และเดินทางไปพบใคร ซึ่งมี อยู่ ๓ ชุด คือ ชุดแรก ประกอบด้วย พระชัยวัตร หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง เขียวเสือหลวงพ่อปานวัดบางเฮี้ย และพระปิดตาเนื้อเมฆพัตร วัดอนงค์ ชุดที่ ๒ พระหลวงพ่อเงิน พิมพ์นิยมวัดบางคลาน และ พระขุนแผนผงพลายกุมา หวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ส่วนชุดที่ ๓ พระหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระหลวงปู่ทวด หลังเตารีดปี ๒๕๐๕ พระหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ และพระกริ่งตั๊กแตน เขมร

 เมื่อถามถึงเหตุแห่งการแขวนพระเครื่อง พ.อ.ธนะศักดิ์  พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “คนไทยถ้านิสัยนักเลงหน่อย ปืนกับพระเครื่องเป็นของคู่กัน ส่วนตัวผมแล้วชอบแขวนพระพวกเนื้อโลหะ เพราะรักษาง่าย เก็บง่าย แขวนไปลุยได้ ทั้งนี้จะแขวนพระเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนียวทางจิตใจเท่านั้น ไม่ได้แขวนเพื่อป้องกันตัวอะไร ที่สำคัญหากมีเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ผมเชื่อว่า ความดี เป็น บารมีป้องกันตัว”

 ส่วนประสบการณ์ปาฏิหาริย์ที่ประสบมาด้วยตัวเองนั้น พ.อ.ธนะศักดิ์  เล่าว่า ประมาณปี ๒๕๔๑ ถูกเชิญไปเป็นกรรมตรวจสอบการฝึกรบภาคสนามการเข้าตีด้วยกระสุนจริง ที่ม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี การฝึกลักษณะนี้เพื่อทดสอบสภาพทางจิตรใจและการตั้งสติของทหารหากได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดจริงๆ  ในสนามรบจะควบคุมความกลัวได้มากน้อยเพียงใด ระหว่างที่อยู่ในที่หลบภัยนั้นปรากฏว่ามีกระสุนปืน เอ็ม ๑๖ ลูกหนึ่งหลุดมาจากสนามฝึก เสียงกระสุนผ่านหน้าแหวกอากาศไปโดยนายทหารท่านหนึ่งเสียชีวิต ซึ่งจริงแล้วตัวเองก็มีสิทธิที่จะโดนลูกปืนลูกนั้น แต่ด้วยพุทธคุณและปาฏิหาริย์พระหลวงปู่ทวดจึงมีลมหายใจมาถึงทุกวันนี้

 อย่างไรก็ตามด้วยความเชี่ยวชาญและชำนาญเรื่องการดูพระ นอกจากเรื่องงานแล้ว พ.อ.ธนะศักดิ์ มักจะถูกผู้บังคับบัญชาเรียกคุยเพื่อแลกเปลี่ยนคงวามรู้เรื่องพระเครื่องเสมอๆ ทั้งที่ช่วยให้ดูพระเครื่องให้ รวมทั้งหาพระดีๆ มาขึ้นคอ ซึ่งนายทหารส่วนใหญ่มักจะนิยมแขวนพระยอดขุนพล โดยเข้าใจว่าชื่อของพระที่ว่า “ยอดขุนพล” และสิ่งหนึ่งที่ พ.อ.ธนะศักดิ์ บอกว่า เป็นเรื่องหนักใจมากและไม่อยากตอบคำถามผู้บังคับบัญชาเลย คือ เมื่อถูกถามว่า พระที่มีอยู่นั้นเป็นของแท้หรือองปลอม ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าพระที่ผู้บังคับบัญชามีอยู่นั้น ของแท้ก็มีอยู่จำนวนมาก ของปลอมก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย ถ้าเป็นผู้บังคับบัญชาที่ไม่สนิทหากเจอพระปลอมก็จะบอกว่า “นายครับครับผมไม่ถนัด หรือผมไม่เป็นพระรุ่นนี้ครับ” แต่ถ้าเป็นผู้บังคับบัญชาที่สนิทหากเจอพระปลอมก็จะบอกว่า “นายครับขออนุญาตครับ พระของนายเป็นพระปลอมครับผม” ซึ่งนายส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้

เรื่องและภาพ "ไตรเทพ ไกรงู"