พระเครื่อง

ในใจ 'พยัพ คำพันธุ์' 
จาก...หลวงพ่อคูณ หลวงตาบัว ถึง...จ่าเพียร

ในใจ 'พยัพ คำพันธุ์' จาก...หลวงพ่อคูณ หลวงตาบัว ถึง...จ่าเพียร

01 มิ.ย. 2553

“เล่นพระกับแต่งเพลง” เป็นงาน ๒ อย่างที่นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า “รักที่สุดในชีวิต เพลงกับพระมาพร้อมๆ กันเลยในชีวิต โดยเป็นลูกศิษย์ครูลพ บุรีรัตน์ วงจุฬารัตน์ แต่หยุดงานเพลงไปหลายสิบปี และกลับมาแต่งเพลงหลวงพ่อคูณให้แอ๊ด

  ในบรรดาบทเพลงนับร้อยๆ เพลงที่นายพยัพแต่ง มีอยู่ ๒ เพลงเท่านั้นที่นำเรื่องของพระมาเขียนเป็นเพลง คือ เพลงหลวงพ่อคูณ แต่งให้ แอ๊ด คาราบาว ร้อง ส่วนอีกเพลงหนึ่งแต่งเองร้องเอง คือ เพลงหลวงตามหาบัว

 “เพลงหลวงพ่อคูณออกมาในยุคที่บ้านเมื่ออยู่ในภาวะวิกฤติมาก หลวงพ่อคูณท่านเป็นพระที่เสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ท่านเป็นพระสงฆ์ท่านยังมีใจช่วยชาติบ้านเมือง ปัจจัยที่ท่านได้มานั้น ท่านนำไปสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล สะพาน หรืออาจจะเรียกว่า สร้างทุกอย่างที่เป็นสาธารณประโยชน์

 สมัยนั้นนักการเมืองเข้าหาท่านให้เขกกบาล ชนิดเรียกว่า หัวกระไดกุฏิไม่แห้ง ทุกคนได้พรจากหลวงพ่อคูณไป แต่น้อยคนนักที่ทำตามคำของท่าน”

 นี่เป็นแรงบัลดาลในใจการแต่งเพลงพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หรือ "เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด" ของพยัพ คำพันธุ์

 ส่วนแรงบัลดาลในใจการแต่งเพลงพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี นั้น พยัพ คำพันธุ์ บอกว่า หลวงตามหาบัวท่านเป็นพระที่ช่วยชาติบ้านเมือง ทั้งๆ ที่ท่านเป็นพระ แต่ประชาชนที่มีอันจะกินที่ดี มีกินอย่างเหลือเฟือ ทำไมไม่คิดที่จะช่วยชาติเหมือนหลวงตาบัวบ้าง

 ที่ยิ่งกว่านั้น ในช่วงที่ท่านทอดผ้าป่าหาเงินช่วยชาติกลับมีคนไปแสวงหาผลประโยชน์จากผ้าป่าช่วยชาติ คนที่ไปแสวงหาผลประโยชน์ก็ล้วนเป็นคนมีอันจะกินทั้งนั้น แต่กลับไม่คิดถึงบาปบุญคุณโทษ

 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายพยัพ คำพันธุ์ ได้แต่งเพลงให้ "พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา" หรือ "จ่าเพียรขาเหล็ก วีรบุรุษแห่งบันนังสตา" ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร บันนังสตา จ.ยะลา ที่ต่อสู้กับขบวนการโจรก่อการร้าย มายาวนานถึง ๔๐ ปี จนถึงบั้นปลายชีวิต ด้วยเหลือเวลาเพียงปีเศษๆ ที่จะเกษียณอายุราชการ จึงต้องการที่จะไปใช้ชีวิตที่สงบกับครอบครัว แต่ไม่ได้เป็นดังที่คิดไว้ เมื่อไม่มีคำสั่งให้ย้ายจากหน่วยงานบังคับบัญชา เขาถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา เป็นน้ำตาแห่งความน้อยอกน้อยใจ ในที่สุดเขาต้องมาจบชีวิตลงเพราะถูกลอบวางระเบิด ยังไม่ทันที่เขาจะได้ย้ายไป เหลือไว้แต่เพียงคุณงามความดีที่สั่งสมมาตลอดเวลาชีวิตราชการ และชีวิตส่วนตัว

 นายพยัพ ให้เหตุผลของการแต่งเพลงจ่าเพียรว่า เพื่อสดุดี เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน ท่านเสียสละเพื่อแผ่นดิน ท่ามกลางภาพลักษณ์ของตำรวจที่ตกต่ำลงทุกวัน แต่ก็มีตำรวจดีๆ พอที่จะสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนได้บ้าง

 ท่านทำงานด้วยความมุ่งมั่น เปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ ในอันที่จะดูแลปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้ได้รับความปลอดภัย และความอบอุ่นใจเสมอมา ในทุกพื้นที่ที่ท่านได้รับแต่งตั้งให้เข้าไปปฏิบัติราชการ ดังที่ปรากฏผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมทั่วไปมาตลอดชีวิตการทำงานของท่าน

 พระ หรือคนที่มักถูกนำประวัติมาแต่งเป็นเพลง พยัพ คำพันธุ์ บอกว่า “โดยส่วนตัวแล้วจะเลือกเฉพาะบุคคลที่มีผลงานที่โดดเด่น และประวัติชัดเจนเท่านั้น โดยเฉพาะประวัติด้านทำงานเสียสละเพื่อสังคม ที่สำคัญคือเอาเรื่องของพระมาเป็นเพลงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหา รวมทั้งมีคนศรัทธามากๆ เป็นเรื่องยาก ต้องคำนึงถึงลูกศิษย์และคิดถึงคนฟังว่า ทำอย่างไรจะแต่งให้เข้าหูเป็นที่พอใจของคนทั้ง ๒ กลุ่ม แม้ไม่สามารถบรรยายอะไรได้มากมาย แต่ต้องมีคติธรรมจากวัตรปฏิบัติของท่าน”

 เมื่อถามถึงความประทับใจในเนื้อหาของทั้ง ๓ เพลง พยัพ คำพันธุ์ บอกว่า เพลงหลวงพ่อคูณ ประทับใจในท่อน “ชั่วดีอยู่ในกะโหลก มาเขกโป๊กๆ จำไว้ให้ดี เข้ามาพวกรัฐมนตรี ส.ส.ตัวดีกูจะให้พร”
 
 เพลงหลวงตามหาบัว ประทับใจในท่อน “อายสงฆ์ผู้ทรงศีลต้องบิณฑบาตเรื่อยไป ท่านเทศน์จนน้ำหมากกระฉอกมาหลอกท่านทำไม หลวงตาไม่อยากเอ๋ยปาก เดี๋ยวบ้วนน้ำหมากแช่งให้ล้มละลาย”

 ส่วนเพลงจ่าเพียร ประทับใจในท่อน “จ่าเพียรบทเรียนตำรวจแห่งชาติ นักสู้องอาจประกาศชื่อเสียงเกริกไกล สิ่งที่ตอบรับมันมาพร้อมกับความตาย วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ จารึกไว้ที่เทือกเขาบูโด”

เพื่อจ่าเพียรและผองเพื่อน
 งานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ วันอาทิตย์ที่ ๖  มิถุนายน ๒๕๕๓ นายพยัพ บอกว่า ครั้งนี้เป็นการจัดงานในรอบ ๓ ปี ของสมาคม ที่ผ่านมาเมื่อหน่วยงานใดขอความร่วมมือมายังสมาคม ก็จะให้ความร่วมมือทุกครั้งไป งานใดที่สมาคมกำหนดวันไปแล้วหากหน่วยงานใดมาขอแล้วซ้ำกับสมาคมก็จะเลื่อนงานของสมาคมออกไปอย่างไม่มีกำหนด เมื่อสมาคมจัดงานก็อยากให้หน่วยงานต่างๆ ที่เคยมาขอความร่วมมือจากสมาคมกลับมาช่วยงานของสมาคมบ้าง

 การจัดงานครั้งนี้มี พล.ต.ต.สฤษฎิ์ชัย อเนกเวียง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เป็นประธานจัดงาน พ.ต.อ.(พิเศษ) พีระ บุญเลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เป็นประธานดำเนินงาน โดยมีวัตถุประสงค์ ๑.เพื่อสมทบเข้ากองทุน พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ๒.เป็นกองทุนตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภาคใต้ และ ๓.เพื่อเป็นกองทุนผู้พิทักษ์แผ่นดิน ในนามสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ส่วนผู้ที่ชนะเลิศการประกวดแต่ละรายการจะได้รับหนังสือ รวมภาพสุดยอดพระเครื่องชุด “พระเพื่อพิทักษ์แผ่นดินไทย” 

 กำหนดการมีดังนี้ วันเสาร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๗.๐๐-๒๔.๐๐ น. งานเลี้ยงคณะกรรมการจัดงาน สื่อมวลชน และผู้ร่วมสนับสนุน ตลอดจนคณะกรรมการรับและตัดสินพระ ในงานมีการบูชาพระจากผู้ร่วมบริจาค ณ พันธุ์ทิพย์ฮอลล์ ชั้น ๘ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า

 ส่วนการประกวดพระเครื่องจะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๓ งานเริ่มตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐  น. พร้อมๆ กับคอนเสิร์ตจากนักร้องและศิลปินดัง อาทิ สุนารี ราชสีมา, แจ๊ค ธนพล ฯลฯ ตลอดการจัดงาน เวลา ๑๗.๐๐ น. มอบเงินรายได้ให้แก่ครอบครัว พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา มอบรายได้ให้กองทุนตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภาคใต้ มอบรายได้ให้กองทุนผู้พิทักษ์แผ่นดิน

 “พระที่มีลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งมีคนศรัทธามากๆ เป็นเรื่องยาก ต้องคำนึงถึงลูกศิษย์และคิดถึงคนฟังว่า ทำอย่างไรจะแต่งให้เข้าหูเป็นที่พอใจของคนทั้ง ๒ กลุ่ม”

เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"