พระเครื่อง

ชั่วโมงเซียน-วัตถุมงคลเรียกทรัพย์จาก...นางกวัก เฒ่าชูชก ถึง... "เรือสำเภา"

ชั่วโมงเซียน-วัตถุมงคลเรียกทรัพย์จาก...นางกวัก เฒ่าชูชก ถึง... "เรือสำเภา"

17 พ.ค. 2553

เครื่องรางของขลัง ที่เป็นคติความเชื่อของคนไทยในเรื่อง เรียกโชค เรียกลาภ และเรียกทรัพย์ ที่มาอันดับแรก คือ นางกวัก ซึ่งเป็นที่กล่าวขานกันว่า "นางกวัก" สามารถดลบันดาลโชคลาภให้บังเกิดแก่ผู้กราบไหว้บูชา และทำมาค้าขึ้น ซื้อง่าย ขายคล่อง

และมีเสน่ห์มหานิยมแก่ผู้พบเห็นอีกด้วย โดยเฉพาะในมวลหมู่ผู้มีอาชีพค้าขายด้วยเชื่อว่านามของ "นางกวัก" มีความหมายในทางทำมาหากินคล่องเจริญก้าวหน้า ตามร้านค้าจึงพบเห็นรูปนางกวักบนหิ้งบูชา หรือแม้กระทั่งรถเข็นค้าขายในตะกร้าเก็บสตางค์ หรือมุมเล็กๆ ต้องมีรูปนางกวักอยู่ด้วยเสมอ นอกจากนี้แล้วนามของ "นางกวัก" มีนัยเป็นการ "กวัก" เรียกผู้คนมาอุดหนุนร้านค้า รูป "นางกวัก" จึงมีพระเกจิอาจารย์นิยมสร้างขึ้นมากมายหลายสำนัก

 ในขณะที่ขอทานเฒ่าในนามที่ชื่อว่า ชูชก ผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่บารมีของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ในฐานะผู้ขอกับผู้ให้ ถือว่ามีความยอดเยี่ยมด้านโชคลาภ และเมตตามหานิยม กู้หนี้ยืมสิน ขอลาภเงินทอง เจรจาขอผัดผ่อนหนี้สิน ขอเลื่อนและขอลาภจากผู้ใหญ่และด้านการขอทุกชนิด แม้ว่าจะมีการสร้างชูชกออกมาหลายสำนัก แต่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมากที่สุดเห็นจะเป็นของ หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน จ.สมุทรสาคร ซึ่งหายาก และมีมูลค่าสูง ต่อมาก็เป็น หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยองและยังมีอีกหลายองค์ที่สร้างชูชกออกมาเช่น หลวงพ่อแล วัดพระทรง จ.เพชรบุรี หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

 สำหรับการจัดสร้าง "เจ้าเงาะ" นั้น เป็นวัตถุมงคลที่พระเกจิอาจารย์จากตำนานเรื่องสังข์ทอง เจ้าชายที่เกิดจากหอยสังข์เมื่อโตขึ้นได้ชุบตัวเป็นทองที่บ่อทองของนางยักษ์ แต่ต้องซ่อนรูปทองไว้ภายใต้รูปเงาะ มีอิทธิฤทธิ์ อาคม เรียกน้ำเรียกปลาได้ หน้าตาน่าเกลียดเหมือนคนบ้า พูดไม่ได้ ชอบดอกไม้แดง มีไม้เท้าและเกือกวิเศษทำให้เหาะเหินเดินอากาศได้

 ส่วนปลาตะเพียน ขยันหมั่นเพียรจนร่ำรวย เครื่องรางที่แฝงคติธรรมล้ำลึก ในความหมายของไทย หมายถึง ความขยันหมั่นเพียรและสัญลักษณ์ของความโชคดี ส่วนในความหมายของจีน ปลาหมายถึงความมีชีวิตชีวา และโชคลาภ จะทำให้ชีวิตเจ้าของบ้านมีความกระตือรือร้น ค้าขายดี มีโชคลาภ ขยันหมั่นเพียรไม่หยุดนิ่ง

 นอกจากนี้ยังมี ไซดักทรัพย์ ถือเคล็ดที่ว่าไซดักปลา ย่อมหมายถึงความอิ่มหนำสำราญ หรือความมีโชคดี เป็นเครื่องรางในการดักทรัพย์สินเงินทองและลาภผลต่างๆ เหมาะสำหรับติดบ้านเรือน นอกจากจะเป็นเครื่องรางที่บูชาเพื่อความร่ำรวยแล้ว

 แต่ถ้าเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ใช้เรือสำเภาจำลองมาตั้งไว้ในบ้าน หรือห้าร้านต่างๆ จากที่ได้สังเกตเห็นมักมีแต่บริษัทใหญ่ๆ หรือร้านค้าที่ค้าขายดีมักมีเรือสำเภาตั้งวางไว้เสมอ โดยมีคติความเชื่อว่า เรือสำเภาเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง ศาสตร์ในด้านฮวงจุ้ย จึงได้มีการนำมาเป็นสิ่งเสริมให้ผู้ที่มีไว้ครอบครองได้รับความเจริญรุ่งเรืองสมดังสมัยโบราณ ปัจจุบันแม้เรือสำเภาได้ลดบทบาทลง แต่ความคิดที่ว่าผู้ที่มีเรือสำเภาไว้ครอบครองย่อมเป็นผู้ที่มั่งมีทรัพย์สิน ความรู้ และเกียรติยศ ชื่อเสียง จึงได้มีการทำจำลองเรือสำเภาขึ้นมาไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง

 การไปค้าขายแต่ละครั้งใช้เวลานานเป็นแรมเดือน แรมปี แต่พอกลับมาแต่ละครั้งเหล่าพ่อค้าจะได้ความรู้ใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ กลับมาด้วย พร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทอง ที่มากมายเหลือคณานับ จึงทำให้ผู้ที่เป็นพ่อค้าทางเรือจะเป็นผู้ที่มีทักษะความรู้ใหม่ๆ พรั่งพร้อมด้วยความ มั่งคั่ง ร่ำรวย จึงทำให้มีผู้คนนับหน้าถือตา สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ตัวเองและประเทศชาติ เพราะการได้ไปพบเห็นศิลป วัฒนธรรมของต่างถิ่น ต่างแดน ที่มีความเจริญรุ่งเรืองกว่า ก็จะนำกลับมาสู่ดินแดนของตนเอง จึงพูดได้ว่าผู้ที่มีเรือสำเภาเป็นผู้ที่มั่งคั่ง ทั้งความรู้ ทรัพย์สิน และเกียรติยศ ชื่อเสียง สามารถเป็นขุนนางสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตนเองและประเทศชาติได้

 วิธีการตั้งวางเรือสำเภาตามศาสตร์ฮวงจุ้ย เริ่มตั้งแต่เมื่อผู้เป็นเจ้าของนำเรือเข้ามาในสถานที่ อาคาร คือ ควรวางเรือสำเภาใกล้ประตูทางเข้า หรือในห้องรับแขก เพื่อทำให้มั่นใจว่าเรือสำเภากำลังแล่นเข้าสู่บ้านหรือสำนักงาน และไม่ควรตั้งเรือสูงเกินไปเพราะจะกลายเป็นว่ากว่าจะไขว่คว้าได้คงเหนื่อยพอดูเพราะมันสูงเกินไป เพราะธรรมชาติของเรือจะแล่นในน้ำ เวลาวางก็ต้องเอาหัวเรือหันเข้าบ้านหรือสำนักงานของเรา ทำให้เหมือนกับว่าบ้านหรือสำนักงานเรานั้นเป็นท่าเทียบเรือ เรือสำเภาจะได้ขนทรัพย์สมบัติเข้าบ้าน และเพื่อเพิ่มพลังแห่งโชคให้สำนักงาน เวลาวางเรือสำเภาห้ามหันหัวเรือออกนอกบ้านเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าขนสมบัติเงินทองจากบ้านเราออกไป นอกจากนี้แล้วภายในตัวเรือ ควรจะใส่ของมีค่า เช่น แก้วแหวน แท่งทอง อัญมณี ธนบัตร เงินตราทุกสกุลจากทั่วโลก เพื่อให้เป็นการเก็บรักษาทรัพย์ที่หาได้อยู่อย่างมั่นคงไม่รั่วไหลง่ายๆ

 ในบรรดาเรือสำเภาที่คนนำไปวางปรับฮวงจุ้ยส่วนใหญ่ จะเป็นเรืองที่ซื้อจากร้านขายของที่ระลึกทั่วๆ ไป ไม่ได้มีการลงอักขะเลขยันต์หรือการปลุกเสกใดๆ แต่เรื่อสำเภาของหลวงปู่เขียว กิตฺติคุโณ วัดห้วยเงาะ  ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี น่าจะเป็นแห่งเดียวที่มีการจัดพิธีปลุกเสก รวมทั้งเขียนอักขะเลขยันต์ลงบนใบเรือด้วย คือ เสาหน้าลงยันต์เรียกทรัพย์ เสากลางลงยันต์รับทรัพย์ และเสาหลังลงยันต์เพิ่มทรัพย์ หลวงปู่เขียวท่านสร้าง "เรือสำเภารับทรัพย์" ขึ้นมา เพื่อนำปัจจัยสมทบทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัด ทั้งนี้พ่อท่านเขียวจะอธิษฐานจิตปลุกสกเดี่ยว ณ อุโบสถ วัดห้วยเงาะวันศุกร์ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ ตรงกับขึ้น ๓ คำเดือน ๙ เวลา ๑๓.๑๓ น. ศิษยานุศิษย์ และผู้ที่สนใจ ติดต่อสอบถามได้ที่ วัดห้วยเงาะ โทร.๐๘-๑๔๗๘-๘๘๖๓, ๐๘-๑๗๖๖-๖๖๐๒,๐๘-๐๐๕๙-๒๐๓๙ รวมทั้งอ่านประวัติเพิ่มได้ที่ www.bopunkan.com

ป๋อง สุพรรณ