บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กับ...สิ่งพิเศษยิ่งกว่า "ยันต์ห้าแถว" | คมชัดลึก

 พร้อมกันนี้ บิณฑ์ เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในการแสดงภาพยนตร์เรื่อง “ก็โอเคนะ” ฉากหนึ่งต้องกระโดดตึกที่มีความสูง ๑๕ ชั้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแลความเรียบร้อยเป่าลมถุงลมนิรภัยขนาดใหญ่ไว้ที่พื้น ในขณะที่ผมต้องโดดลงมาจากตึก ซึ่งก็เรียบร้อยปกติดี หน่วยตรวจสอบเข้าไปตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่เจ้าหน้าที่เป่าลมเรียบร้อย เจ้าหน้าที่หลายคนขึ้นไปกระโดดตรวจสอบน้ำหนัก การกระแทก ทุกอย่างปกติ

 ในครั้งนั้นขึ้นไปชั้นที่ ๑๕ เพื่อเตรียมตัว สัญญาณจากข้างล่างบอกว่าเรียบร้อย รอสัญญาณ พอได้เวลาเจ้าหน้าที่สั่งแอ็กชั่นก็ต้องกระโดดลงมาจากตึกทันที

 ก่อนที่ร่างผมจะกระแทกกับเบาะลมยางที่ปูไว้ เสียงถุงลมแตกออกดัง “ปุ้ง” ขณะที่ร่างก็กระแทกกับเบาะลมที่มีลมเหลืออยู่ไม่มากนัก เวลานั้นหากกระโดดช้าหรือเร็วไปเพียงไม่กี่วินาที ผมคงไม่มีโอกาสที่จะมาพูดอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ผมเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์

 พระเครื่อที่แขวนติดตัวเป็นประจำ บิณฑ์บอกว่า "ก่อนหน้าที่จะแขวนพระพุทธชินราช จะต้องแขวนเสด็จพ่อ ร.๕ ก่อน โดยเริ่มแขวนมาตั้งแต่เข้าสู่วงการแสดง แล้วก็มีการบูชาเคารพสักการะพระองค์ท่าน พร้อมทั้งจะมีการไหว้ครูที่บ้านเป็นประจำทุกปี โดยที่ผ่านมาจะมีเพื่อนๆ นักแสดงมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก เพราะอย่างน้อยเป็นการระลึกนึกถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน"

 นอกจากภาพของดารานักแสดงแล้ว ในทางสังคมยังเป็นที่รู้จักกันดีว่า บิณฑ์เป็นดาราที่ช่วยเหลือสังคม ทำงานเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูมานานกว่า ๒๐ ปี โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน หนึ่งในอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่อุทิศชีวิตส่วนหนึ่งเพื่อทำประโยชน์ให้แก่สังคม จนเป็นโลโก้ของร่วมกตัญญูไปแล้ว

 บิณฑ์บอกว่า ได้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไม่เคยลืม คือ เมื่อ ๔-๕ ปี ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุกว่ามีมอเตอร์ไซค์ชนเสาไฟฟ้าแถวลาดพร้าว เจ้าหน้าที่บอกเสียชีวิตแล้ว เอาผ้าขาวคลุมเรียบร้อย อยู่ๆ ผมเกิดสงสัยขึ้นมา เปิดผ้าคลุมแล้วจับมือเขา มือยังอุ่นๆ เหมือนคนยังไม่ตาย ผมก็เลยเอามือกดท้องแบบลงแรงสุด กดประมาณ ๒ นาที ก็ตึ๊กๆ ตอดมือเรา ผมบอกว่าเขายังไม่ตาย เจ้าหน้าที่ ๓-๔ คนบอกเขาตายแล้ว ผมบอกรับผิดชอบเอง ช่วยพาเขาส่งโรงพยาบาลสยามที่ใกล้ที่สุด ไปถึงหมอนำเข้าห้องฉุกเฉิน แล้วผมก็ยืนลุ้นตลอด หมอเอาคีมอะไรไม่รู้ มางัดปาก มีกลิ่นเหล้าหึ่งเลย แล้วหมอเอาสายยางยาวๆ แหย่เข้าไปในท้อง ปรากฏว่าเขาลุกพรวด อ้วกพุ่งขึ้นมาหมดเลย โวยวายชี้หน้า แล้วหาว่าพวกเราไปแกล้งเขา ไปต่อยเขา ผมดีใจที่เขาไม่ตาย ก็อดขำไม่ได้

 หลายครั้งที่ต้องเจอร่างไร้วิญญาณ หรือศพไม่มีญาติ แต่ไม่เคยกลัว เพราะเราขอขมาศพทุกครั้งว่าเราจะทำให้ท่านดีที่สุด แม้จะไม่ใช่ญาติพี่น้องกัน อย่าถือโทษโกรธกัน บางครั้งต้องมีข้ามไปข้ามมา ส่งวิญญาณให้เขาไปสู่สุคติ หลักธรรมในการดำเนินชีวิตของผม ถือเพียงอย่างเดียวตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงตรัสว่า จะคิดทำการใดก็ตาม อย่าให้คนอื่นต้องเดือดร้อน และเป็นคติประจำใจของผมมากระทั่งปัจจุบัน ผมจะไม่ทำการใดๆ ก็ตามที่ต้องทำให้คนรอบข้างหรือสังคมต้องเดือดร้อน และผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมได้ยึดถือปฏิบัติมาถึงทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยู่รอดมาได้ถึงทุกวันนี้

 บิณฑ์ยังบอกด้วยว่า ก่อนที่จะมาสักยันต์กับ อ.หนู ได้ติดตามข่าวสารจากหนังสือ รวมทั้งได้รับคำบอกเล่าจากเพื่อนในวงการว่า ยันต์ของท่านมีพุทธคุณเป็นที่เลื่องลือมาก เมื่อได้ร่วมแสดงภาพยนตร์เรื่อง “อาจารย์หนู กันภัย ศึกมหายันต์ยิงกันสนั่นจอ” ในงานพิธีเปิดกล้อง ได้ให้ อ.หนู สักยันต์ห้าแถวหนุนดวงให้ ซึ่งที่จริงแล้วผมจะเข้ามาหาอาจารย์หนู เพื่อสักยันต์หลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส ก็อย่างที่บอกไป อะไรก็ตามไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหากมีโอกาสผมจะต้องไปกราบ ไปหามาไว้ในครอบครอง เพราะผมมีความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง

 ความพิเศษของการสักยันต์ห้าแถวหนุนดวงของ อ.หนู รวมทั้งลายยันต์อื่นๆ ไม่ได้อยู่ที่ตัวอักขระหรือรูปภาพอย่างเดียวเท่านั้น ที่พิเศษยิ่งกว่าคือ เมื่อได้รับการสักยันต์แล้ว มีข้อห้ามอย่างเคร่งครัด ลูกศิษย์ที่สักยันต์แล้วหากปฏิบัติตามได้ก็จะเป็นคนอยู่ยงคงกระพันชาตรี ไม่มีอะไรทำร้ายได้ แต่ถ้าลูกศิษย์คนใดผิดศีล ไม่ปฏิบัติตาม ลายสักยันต์ก็จะเป็นเพียงรูปวาดบนผิวหนังเท่านั้น แล้วมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย

 ๑.ไม่เป็นคนเจ้าชู้กับเมียใคร ๒.ไม่ด่าว่าพ่อแม่ของใครๆ โดยเด็ดขาด ๓.ไม่ทำลายพระพุทธศาสนา ๔.ไม่ลบหลู่บิดามารดา เวลาท่านต่อว่า ๕.ไม่เสพสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายทุกประเภท ๖.ห้ามไม่ให้เป็นคนผิดในศีลธรรม ๗.ห้ามเป็นนักเลงหัวไม้ และ ๘.ห้ามตีรันฟันแทงกับใครอย่างเด็ดขาด

 ขณะเดียวกัน ต้องหมั่นสวดมนต์ภาวนาอยู่เป็นประจำทุกๆ วัน หลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว ขอให้นั่งสมาธิ ฝึกจิต ประมาณวันละ ๑๕-๒๐ นาที จากนั้นให้แผ่เมตตาให้บิดามารดา และเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ

 อย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ ๓๐ เมษายน และวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ นี้ เป็นงานไหว้ครูประจำปี สำนักสักยันต์ อ.หนู ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป เงินรายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะถวายพระใบฎีกาเทียนชัย สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดแม่ตะไคร้ ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เพื่อนำปัจจัยที่รวบรวมได้สร้างองค์หลวงปู่ทวดประทับยืนปางธุดงควัตร องค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากเสร็จพิธี รับแจกวัตถุมงคลฟรี สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.๐-๒๙๗๕-๒๗๙๙, ๐๘-๙๑๔๔-๙๔๕๖

 "ความพิเศษของการสักยันต์ห้าแถวหนุนดวงของ อ.หนู รวมทั้งลายยันต์อื่นๆ ไม่ได้อยู่ที่ตัวอักขระหรือรูปภาพอย่างเดียวเท่านั้น ที่พิเศษยิ่งกว่าคือ เมื่อได้รับการสักยันต์แล้วมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัด"

เรื่อง... "ไตรเทพ ไกรงู"
ภาพ... "ประเสริฐ เทพศรี"