
พระเสกพระ ยิ่งมากรูปการนิมนต์ก็ยากยิ่ง
องค์ประกอบหนึ่งของการจัดสร้างพระเครื่อง และวัตถุมงคล คือ การพุทธาภิเษก หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า การปลุกเสก ส่วนจะเรียกว่า พิธีพุทธาภิเษก หรือ พิธีมหาพุทธาภิเษก ซึ่งในปัจจุบัน มีกรรมวิธีและขั้นตอนมากมาย ตามแต่ความยิ่งใหญ่ของพิธีที่จัดขึ้นว่า จะอลังการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๐ มีนาคม ที่ผ่านมา ปรากฏการณ์อย่างในวงการจัดสร้างวัตถุมงคล คือ วัดและนักสร้างวัตถุมงคล ต่างแห่ปลุกเสกวัตถุมงคลในวันดังกล่าว ด้วยเหตุผลที่ว่า ตรงกับวันเสาร์ห้า คือวันเสาร์ ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งโอกาสที่จะเกิดวันเสาร์ห้านั้น เกิดได้ยาก ตามคติความเชื่อของโบราณเชื่อว่า ดาวเสาร์เป็นดาวแห่งความเข้มแข็ง และมีพลังมาก หากมีการประกอบปลุกวัตถุมงคลในวันเสาร์ห้า จะมีพุทธคุณด้านคงกระพัน และแคล้วคลาด มากกว่าวันปกติ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ ฤกษ์เสาร์ห้าปีเสือ ๑๐๐ ปีจะมีครั้ง
เมื่อวัดและนักสร้างวัตถุมงคลต่างแห่ปลุกเสกวัตถุมงคลโดยยึดเอาฤกษ์เสาร์ห้าปีเสือ ๑๐๐ ปี จะมีครั้ง สิ่งที่ตามมา คือ การแย่งนิมนต์พระเกจิอาจารย์มานั่งปรกปลุกเสก นักสร้างวัตถุมงคลเลือกที่จะนิมนต์พระเพียงรูปเดียว ให้ปลุกเสกเดี่ยวในวัดของท่าน ส่วนหนึ่งเพราะความสะดวก แต่ส่วนที่สำคัญ คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย
ในขณะที่ยังมีวัดหลายแห่ง และนักสร้างวัตถุมงคล กล้าลงทุนนิมนต์พระนับร้อยรูปมานั่งปรกปลุกเสก เช่น ที่วัดช้าง อ.บ้านนา จ.นครนายก ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวน ๑๐๘ รูป จากวัดใน ๑๔ จังหวัดภาคใต้ มานั่งปรกปลุกเสกพระหลวงพ่อทวด รุ่น ๑ ซึ่งหลังจากปลุกเสกแล้ว พระครูสังฆ์รักษ์ อายุวัฒฑโก หรือพระอาจารย์เสนาะ เจ้าอาวาสวัดช้าง จะมอบพระรุ่นดังกล่าวให้ตำรวจทุกนาย ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
“การสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ผู้เช่าบูชานิมนต์ขึ้นคออย่างสนิทใจ นอกจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในการจัดสร้างแล้ว พระเกจิอาจารย์ที่มานั่งปรกปลุกเสกก็มีความสำคัญไม่น้อยยิ่งกว่า การนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมากมาร่วมพิธี เป็นเครื่องชี้วัดความรับผิดชอบของนักสร้างวัตถุมงคล การจัดสร้างวัตถุมงคล หลายรุ่นสร้างแบบสุกเอาเผากิน ไม่กล้านิมนต์พระเกจิมาปลุกเสก แต่กลับเกณฑ์พระเณรในวัดมารวมกันมากๆ เพียงเพื่อบันทึกภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงจตุคามรามเทพขาขึ้น บางคนเอากล่องเปล่าติดรูปถ่ายวัตถุมงคลไว้ข้างกล่อง และขอเข้าร่วมพิธี จากนั้นก็ถ่ายรูปมาทำโฆษณา ความเข้มขลังจึงไม่เกิดขึ้น” นี่คือความเห็นของ นายวันชัย สอนมีทอง ประธานฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย
พร้อมกันนี้ นายวันชัย ยังบอกด้วยว่า สถานที่ปลุกเสกวัตถมงคลนั้น ก็มีความสำคัญไม่น้อย สถานที่ปลุกเสกส่วนใหญ่ จะเป็นในวิหารหน้าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และในโบสถ์ โดยมีคติความเชื่อว่า โบสถ์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญที่สุดในวัดเป็นเขตบริสุทธิ์ที่ได้พระราชทานวิสุงคามสีมา ถือเป็นเขตของพุทธจักร รวมถึงจะได้อาราธนาบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานในโบสถ์ มาอำนวยพรให้วัตถุมงคลที่ปลุกเสก อีกทั้งความเชื่อแบบเฉพาะคนที่มักจะคิดว่า โบสถ์เป็นสถานที่ให้กำเนิดพระสงฆ์ บวชพระ ทำสังฆกรรมต่างๆ ถือว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการปลุกเสกวัตถุมงคล แต่ก็มีนักสร้างวัตถุมงคลไม่น้อย นิมนต์พระเกจิอาจารย์มายืนปลุกเสกท้ายรถกระบะ ที่ดีหน่อยก็เอาไปให้ท่านปลุกเสกในกุฏิ แต่ก็ทำในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน ๓๐ นาที บางรายจัดของเสร็จ นิมนต์พระมานั่งพนมมือ เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ถือว่าเป็นอันเสร็จพิธี
เสกหมู่พุทธคุณครอบจักรวาล
ในอดีต การจัดสร้างวัตถุมงคลสายวัดบวรนิเวศ และวัดระฆังโฆสิตาราม จะขึ้นชื่อเรื่องการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาร่วมพิธีในอดีตทุกครั้งที่มีการปลุกเสก ไม่ว่าใครจะสร้างอะไร ผู้สร้างจะนิมนต์เกจิที่มีชื่อเสียงทั้งสิ้น
แต่ทุกวันนี้ ไม่มีให้เห็นแล้ว การนิมนต์พระเกจิอาจารย์จำนวนมากๆ กลับกลายเป็นเรื่องเล่าไปแล้ว เหตุที่ไม่นิมนต์เกจิดังๆ มาร่วมพิธีพุทธาภิเษกจำนวนมากๆ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ขณะเดียวกัน ผู้จัดสร้างไม่กล้าลงทุน เพราะการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังมาร่วมพิธี ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
“จะปลุกเสกเดี่ยว หรือปลุกเสกหมู่ดีทั้งนั้น แต่คนไทยมีคติความเชื่อที่ว่า ถ้าปลุกเสกเดี่ยวพุทธคุณจะโดดเด่นไปด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าเด่นทางเมตตามหานิยมค้าขาย เรื่องแคล้วคลาดคงกระพันจะด้อยลงไป หากเป็นการปลุกเสกหมู่ คนจะเชื่อว่า มีพุทธคุณดีทุกด้าน หรือที่เรียกว่าครอบจักรวาล ในยุคบ้านเมืองไม่สงบ และเศรษฐกิจไม่ดี แน่นอนที่สุดว่า ใครๆ ก็อยากได้วัตถุมงคลที่มีพุทธคุณทั้งเด่นทางเมตตามหานิยมค้าขาย เรื่องแคล้วคลาดคงกระพันรวมอยู่ในองค์ หรือชิ้นเดียวกัน” นี่คือความเห็นของ นายวันชัย สุพรรณ นักจัดรายการวิทยุ “คุยเฟื่องเรื่องพระ”
ทางด้าน อ.โสภณ พัฒน์ชนะ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอักขระเลขยันต์ ซึ่งมักเดินทางไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกอยู่เป็นประจำ บอกว่า ในยุคเศรษฐกิจของประเทศไม่ดี คงเป็นเรื่องยากที่ผู้สร้างวัตถุมงคลจะกล้าลงทุนนิมนต์พระจำนวนมาก บางงานใช้เงินหลายล้านเป็นค่าใช้จ่ายนิมนต์พระ การนิมนต์พระมาปลุกเสกจำนวนมากๆ ทำให้วัตถุมงคลมีพุทธคุณครอบจักรวาลดีทุกด้าน ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้าน เรียกว่ามวยหมู่ ซึ่งย่อมดีกว่ามวยเดี่ยว อย่างน้อยต้องต่อยถูกสักหมัด
“การสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ผู้เช่านิมนต์ขึ้นคออย่างสนิทใจ นอกจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในการจัดสร้างแล้ว การนิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมากมาร่วมพิธีเป็นเครื่องชี้วัดความรับผิดชอบของนักสร้างวัตถุมงคล
0 เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู 0
0 ภาพ กุลพันธ์ ศิริพิมพ์อัมพร 0