ศรัทธาสายมู

พระอุปคุต ปางปราบมาร ตำนานแห่งอิทธิฤทธิ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พระอุปคุต พระมหาเถระ แห่ง ตำนาน ผู้บรรลุธรรม และ มีฤทธานุภาพ ผู้ปราบปราม พญามาร จนยอมศิโรราบ นำมาสู่ วัตถุมงคลทางปราบมาร บันดาลโชคลาภ


ความเชื่อเกี่ยวกับ พระอุปคุต มีหลายตำนาน แต่มีอยู่ตำนานหนึ่งที่เชื่อกันว่า พระอุปคุตมีอิทธิฤทธิ์ปราบท้าววสวัตตี โดยมีเรื่องเล่ามาว่า เมื่อประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี ปัจจุบันคือ เมืองปัตนะ ภาคใต้ของประเทศอินเดีย พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้ฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ทั้งหมดที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน แต่ถูก พญามาร มาผจญ ท่านจึงนิมนต์ พระอุปคุต ไปปราบ จนพญามารยอมแพ้ ทำให้ชื่อเสียงของพระอุปคุตโด่งดังไปทั่ว โดยเฉพาะในทางปราบมาร

พระอุปคุต ปางปราบมาร ตำนานแห่งอิทธิฤทธิ์
เรื่องราวของท่านปรากฏเมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานไปแล้ว 218 ปี พระอุปคุตเกิดในตระกูลวานิช บิดาประกอบอาชีพค้าเครื่องหอม อยู่ในเมืองมถุรา แคว้นสุรเสนะ ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนา ท่านมีพี่ชาย 2 คน ส่วนท่านนั้น เป็นคนสุดท้อง
 


มูลเหตุที่ทำให้พระอุปคุตได้บวชนั้น ก็สืบเนื่องมาจาก บิดาของท่าน ได้เคยให้สัญญาไว้กับ พระเถระรูปหนึ่ง คือ พระสาณวาสี (สาณสัมภูติ) ไว้ว่าหากมีบุตรชายจะให้อุปสมบทในพุทธศาสนา พอมีบุตรชายคนแรก ก็บ่ายเบี่ยง ด้วยอ้างว่าจะต้องเอาไว้ดูแลทรัพย์สิน ในเหย้าเรือน เอาไว้ถ้ามีบุตรชายคนที่ 2 เมื่อไร แล้วจะยอมให้บวช แต่พอมีลูกชายคนที่ 2 เข้าจริง ๆ ก็หาเรื่องบิดเบือนอีก ว่ามีความจำเป็น ต้องเอาไว้สำหรับ ทำธุระตามหัวเมือง ขอให้รอไว้มีลูกชายคนที่ 3 แล้วจะต้องบวชให้อย่างแน่นอน


จนกระทั่งมีบุตรคนที่สาม คือ “อุปคุต” เกิดมาก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้กับสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระเถระ พระเถระท่านเห็นว่า ยังไม่ถึงเวลา ท่านจึงนิ่งไว้ก่อน และก็ไม่ได้ไปทวงถามถึงสัญญานั้น จนกระทั่งอุปคุตโตเป็นหนุ่มตอนนั้นอุปคุตได้มาช่วยบิดาขายเครื่องหอมอยู่ที่ร้านในตลาด ตั้งแต่อุปคุตมาอยู่ที่ร้าน ก็ปรากฏว่า เครื่องหอม ขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ผู้คนมาซื้อหากันไม่ขาดสาย ซึ่งเป็นธรรมดาของผู้มีบุญไปอยู่ที่ไหน ทรัพย์สิน ก็จะหลั่งไหลมา ด้วยอำนาจแห่งบุญ เพราะฉะนั้นจึงเชื่อกันว่า ผู้ที่ค้าขาย หากได้บูชาพระอุปคุตเป็นประจำทุกเช้าตอนเปิดร้าน ก็จะทำให้ค้าขายดี มีคนมาซื้อหาไม่ขาดสายทรัพย์สิน ก็จะหลังไหลมาเทมา กิจการเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป
 


วันหนึ่งพระสาณวาสีเถระ ได้แวะเข้าไปในร้านที่อุปคุตขายของ และได้กล่าวธรรมกถาให้อุปคุตฟัง ปรากฏว่า อุปคุตฟังแล้วเกิดดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น ในพระพุทธศาสนา เมื่อพระสาณวาสีเถระเห็นว่า อุปคุตได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว จึงได้ไปทวงสัญญากับนายพาณิชย์ ผู้เป็นพ่อของอุปคุต พอนายพาณิชย์ถูกทวงถามเช่นนั้น ก็อับจนปัญญา ไม่อาจหาวิธีพูดบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงได้อีก จึงตัดสินใจอนุญาตให้อุปคุตออกบวชได้


เมื่อออกบวชแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ได้เจริญวิปัสสนาญาณโดยลำดับ จนบรรลุพระอรหันต์ผล นอกจากนี้แล้ว ท่านยังสำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่า ท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ


ต่อมา พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้สร้างวิหารและสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กำหนดจัดให้มีการสมโภชครั้งใหญ่ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เพื่อให้งานสมโภชสำเร็จเรียบร้อยด้วยดี จึงขอให้พระสงฆ์ขีณาสพที่ทรงอิทธิฤทธิ์เป็นผู้คุ้มครองงานให้ปราศจากอุปสรรคปัญหาต่างๆ คณะสงฆ์ในนครปาตลีบุตร จึงตกลงกันว่าให้ไปอัญเชิญพระอุปคุตเถระที่จำพรรษาอยู่กลางสะดือทะเลมาช่วยรักษาความปลอดภัยในงานสมโภชพระสถูปเจดีย์พระอุปคุตเถระรับนิมนต์


พระเจ้าอโศกมหาราช เห็นว่าท่าน คือ พระอุปคุต มีร่างการผายผอมอ่อนแอ เกรงจะทำหน้าที่ไม่สำเร็จจึงทดสอบฤทธิ์ด้วยการปล่อยช้างตกมัน ให้วิ่งมาทำร้ายระหว่างพระอุปคุตกำลังบิณฑบาต ช้างก็ถูกพระอุปคุตสะกดให้แข็งเป็นหินนิ่งอยู่กับที่ ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชเลื่อมใสศรัทธามาก ครั้นถึงงานสมโภชพระสถูปเจดีย์พญาวสวดีมารก็มุ่งมาทำลายงานสมโภช โดยใช้ฤทธิ์อำนาจของตนเอง ในที่สุดพระอุปคุตเถระก็ปราบมารจนสิ้นฤทธิ์ พระอุปคุตอธิฐานประคตเอวเป็นโซ่รัดพญามารไว้กับภูเขา และเนรมิตให้ซากสุนัขเน่าไปคล้องคอพญามารไว้ไม่มีใครสามารถช่วยพญามารได้ เสร็จงานสมโภชแล้วพระอุปคุตจึงปล่อยพญามาร ทำให้พญามารเลื่อมใสศรัทธาอธิฐานเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนาและตั้งจิตอธิฐานปรารถนาสำเร็จเป็น พระสัพพัญญู ในอนาคต


พระอุปคุตจึงขอให้พญามารเนรมิตการเป็นรูปพระพุทธเจ้าเพื่อให้พระสงฆ์สาวกได้เห็นเหมือนเมื่อครั้งที่พระองค์ยังคงมีพระชนม์ชีพพญามารก็แสดงฤทธิ์เนรมิตกายเป็นพระพุทธเจ้าให้พระสงฆ์สาวกนับแสนรูปได้เห็นเป็นที่เจริญศรัทธายิ่งนัก
ตั้งแต่นั้นมาจึงถือคติว่าพระอุปคุตเป็นพระอรหันต์มีฤทธิ์ทางปราบมาร บันดาลโชคลาภ ได้มีการสร้างรูปพระอุปคุตเป็นวัตถุมงคลรูปแบบต่าง ๆ ทั้งพระกริ่งอุปคุต พระบัวเข็ม พระอุปคุตบูชา พระอุปคุตจกบาตร


สำหรับ พระบัวเข็ม หรือ พระอุปคุต ในทางพระเครื่องมีประวัติว่า เดิมท่านเป็นพระพุทธรูปมอญ เข้ามาแพร่หลายในไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 โดย พระรามัญได้นำมาถวาย พระวชิรญาณภิกขุ ต่อมา รัชกาลที่ 4 โดยเชื่อในพุทธคุณว่า เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ก่อให้เกิดลาภผล ความมั่งมี ขจัดภยันตราย และมีอิทธิฤทธิ์ในทางขอฝนอีกด้วย
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ