ประวัติ พระอาจารย์ปืน ปัญญาวุโธ แห่ง วัดลาดชะโด บางปะหัน อยุธยา | คมชัดลึก

หากกล่าวถึง พระนครศรีอยุธยา หรือ กรุงเก่า นับแต่อดีตจวบจนปัจจุบันนั้น เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่รวมเกจิดัง ครูบาอาจารย์ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีสำนักตักศิลาสำคัญ อย่าง วัดประดู่ทรงธรรม เป็นต้น รวมทั้ง สรรพวิชา วิทยาคมต่าง ๆ ยังได้ถ่ายทอดส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น ในปัจจุบันนี้นั้น เกจิอาจารย์ที่สามารถเรียกได้ว่า เป็นเกจิรุ่นใหม่ ต่างได้รับความนิยม ความศรัทธา ไม่น้อยไปจากครูบาอาจารย์ในอดีต เพราะแต่ละท่านก็ได้ร่ำเรียนวิชากันมา หนึ่งในครูบาอาจารย์ยุคนี้ ที่ผู้คนในความเคารพศรัทธา เชื่อมั่นในพุทธาคม นั่นคือ พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของ หลวงปู่คอน วัดชัยพฤกษมาลา ตลิ่งชัน รวมทั้ง หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม เป็นต้น 

สำหรับประวัติ ของ พระครูปลัด สราวุธ หรือพระอาจารย์ปืน ปัญญาวุโธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดลาดชะโด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านมีนามเดิมว่า อภิชาติ แต่ภายหลัง โยมบิดามารดาของท่านเห็นว่าท่านสนใจในทางธรรมมากเกินไป อยากให้ลูกชายคนโตของบ้านทำงานมีอาชีพแบบคนอื่นเพื่อช่วยทำงาน และค้าขาย จึงแก้เคล็ดด้วยการเปลี่ยนชื่อเป็น สราวุธ นามสกุล สภาพ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2517 ปีขาล ณ หมู่บ้านลาดชะโด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีโยมบิดาชื่อ นายสมชาย สภาพ โยมมารดาชื่อ นางสมใจ สภาพ มีพี่น้องร่วมท้อง 1 คน
 

ในวัยเด็ก ส่วนใหญ่ท่านไม่ค่อยได้เล่นหรือไปเที่ยวเตร่เหมือนลูกชาวบ้านคนอื่นๆ เพราะคุณปู่แม้นของท่านเป็นหมอพ่นหมอเป่ารักษาคนประจำหมู่บ้านลาดชะโด ในแต่ละวันจะมีคนมารักษาโรคต่างๆ ท่านต้องคอยช่วยเตรียมยา เตรียมอุปกรณ์ หยิบนั่นส่งนี่ มาโดยตลอด ในชีวิตวัยเด็กของท่านนั้นเรียกได้ว่า วนเวียนอยู่กับศาสนา พิธีกรรม ความเชื่อ และประเพณีท้องถิ่นมาโดยตลอด อีกทั้งท่านนั้น มีนิสัยรักการอ่านหนังสือเป็นทุนเดิม และสนใจศึกษาในวิชาต่างๆ ต้องไปสืบไปถามไปขอศึกษาเรียนวิชาให้สำเร็จ แม้กระทั่งในทางศาสนาท่านก็ติดตามคุณปู่ทำวัตรสวดมนต์เย็นที่บ้านทุกวัน อีกทั้งสามารถสวดมนต์ 7 ตำนาน 12 ตำนานได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก นี่จึงเป็นเป้าหมายในชีวิตของท่านที่อยากจะออกบวชเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรมาโดยตลอด แต่ครอบครัวโยมบิดา และมารดาไม่ค่อยสนับสนุน อยากจะให้ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเหมือนคนทั่วไป 

โยมบิดามารดาได้พาไปบวชเรียนแก้บนกับพระครูพิพัฒน์ศีลคุณ (หลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) และโยมบิดาได้เล่าให้หลวงพ่อเจริญฟังว่า ลูกชายชอบสวดมนต์ไหว้พระ หลวงพ่อเจริญจึงถามวันเดือนปีเกิด และได้ทำนายทายทักว่า “เด็กคนนี้ต้องบวชเท่านั้น ถ้าไม่บวชก็ติดคุกติดตารางเป็นแน่แท้ เอาเถอะในเมื่อตัวลูกของโยมเอง มันมีจิตใจอยากบวชอยู่แล้ว งั้นยกลูกโยมให้อาตมาเถอะ จะขอรับเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนเอง” ในขณะนั้นปีพ.ศ.2530 ท่านจึงมีโอกาสได้บวชสามเณรครั้งแรก ขณะอายุ 13 ปี ณ วัดตาลานใต้ โดยมีหลวงพ่อเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ 

และได้สึกมาช่วยงานที่บ้านในเวลาต่อมา และในช่วงปีพ.ศ.2532 ขณะนั้นท่าน อายุ 15 ปี ได้บวชครั้งที่สองกับพระครูประสาทศาสนกิจ(ชิด) วัดนาคู และได้ย้ายมาจำวัดที่วัดลาดชะโด มีหน้าที่ดูแลหลวงปู่บุญมี เจ้าอาวาสในสมัยนั้น เนื่องจากในช่วงเวลานั้นหลวงปู่บุญมีท่านอาพาธ จึงได้มีโอกาสมาศึกษาวิชากับท่าน หลังจากนั้นสามเณรปืนได้ย้ายเข้ากรุงเทพ เพื่อจะศึกษานักธรรมและบาลีที่วัดมหาธาตุวรวิหาร แต่ในขณะนั้นใกล้เข้าพรรษาทางวัดจึงไม่รับเข้าศึกษา ต่อมามีคนรู้จักจึงแนะนำและพาสามเณรปืนไปฝากกับพระมหาเลี่ยม พระเถระเปรียญธรรม 8 ประโยค

 

 หลังจากนั้นพระมหาเลี่ยมก็พาไปฝากเรียนกับพระครูศรีชยาภรณ์ หรือปัจจุบันในปีพ.ศ.2565 เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชสุรวาที โมลีธรรมประสิทธิ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี ถ้ากล่าวถึงพระครูศรีชยาภรณ์รูปนี้ สามเณรปืนให้ความเคารพเป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นผู้มีพระอุปการะคุณต่อสามเณรปืนเป็นอย่างสูงในช่วงที่บวชเรียนในพระพุทธศาสนา หลังจากนั้นพระครูศรีชยาภรณ์ได้พาเข้าไปกราบพระราชมงคลมุนี หรือ หลวงปู่คอน สุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดชัยพฤกษมาลา ณ ขณะนั้น  เพื่อรายงานตัว เมื่อหลวงปู่คอนทราบว่าสามเณรปืนมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยิ่งมีความรักใคร่เอ็นดู เพราะหลวงปู่คอนท่านก็เป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน สามเณรปืนจึงอยู่รับใช้ปรนนิบัตรหลวงปู่คอน อีกทั้งขอศึกษาวิชาพุทธาคมและตำรา ความรู้ต่างๆ รวมถึงวิปัสนากรรมฐานด้วย เมื่ออยู่กับหลวงปู่คอนสามเณรปืนยิ่งเพิ่มพูนความสนใจในวิชาพุทธาคม มนต์ คาถา เลขยันต์เป็นอย่างมาก และได้รับความเมตตาจากหลวงปู่คอนสั่งสอนด้วยความเมตตา และยังเป็นศิษย์เพียงคนเดียวที่หลวงปู่คอนถ่ายทอดสอนวิชาพุทธาคมให้ หลังจากนั้นสามเณรปืนหมั่นอ่านตำรา หมั่นท่อง หมั่นหาความรู้ต่างๆ จากฆราวาสผู้มีวิชาอาคม และพระสงฆ์อีกหลายรูปในขณะที่บวชเรียนอยู่วัดชัยพฤษมาลาตั้งแต่ปีพ.ศ.2533 - ปีพ.ศ.2542

 หลังจากนั้นย้ายกลับมาช่วยงานพระศาสนาที่วัดลาดชะโด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาได้มีอาจารย์ประสิทธิ์ ดีทรง เป็นผู้แนะนำวัดพระญาติให้รู้จัก และพาไปฝากเป็นศิษย์ในสายวัดพระญาติ และได้เรียนวิชากับอาจารย์ณรงค์ คงสมบูรณ์ (อ.เบื้อก วัดพระญาติ) และในภายหลังอาจารย์เบื้อกได้พาไปกราบแนะนำตัวต่อหลวงพ่อเฉลิม เขมทสฺสี หรือ “เจ้าคุณพระโบราณคณิสสร” เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม

 

พระครูปืนท่านเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2537 โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ เป็นพระอุปัชฌาย์ (ซึ่งในขณะนั้นหลวงปู่คอนอาพาธอยู่ เลยมิได้เป็นผู้อุปัชฌาย์ด้วยตัวท่านเอง) พระธรรสุธีร์ (พีร์ สุชาโต) วัดมหาธาตุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระราชสุรวาที (ณรงค์ ประภัสสรวังโส) วัดชัยพฤกษ์มาลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปัญญาวุโธ”

หลังจากนั้น ท่านได้ศึกษาวิชากรรมฐานและพุทธาคมต่างๆ จากทั้งครูฆราวาส และครูพระเกจิหลายรูป อาทิเช่น

1. ปู่แม้น สภาพ พระครูปืนได้ศึกษาวิชารักษาคน ว่านยา สมุนไพรต่างๆ น้ำมันมนต์ดิบ น้ำมันมนต์สุก (ปู่แม้นเรียนวิชากับหลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโด) เบี้ยแก้ (ปู่แม้นเรียนกับหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ) และเบี้ยแก้หอยโข่ง (ปู่แม้นเรียนจากตำราหลวงปู่รอด วัดสามไถ)
2. ตาทิม พระครูปืนได้ศึกษาต่อวิชารักษาคน ว่านยา สมุนไพรต่างๆ (ขณะนั้นปู่แม้นท่านเสียชีวิตก่อน พระครูปืนยังศึกษาไม่จบจึงมาขอต่อวิชากับตาทิม ซึ่งตาทิมเคยมาศึกษาวิชารักษาคนกับปู่แม้น)
3. ตาทองย้อย ประศิลป์ชัย พระครูปืนได้ศึกษาทางคาถาอาคมต่างๆ วิชาหมานิลเฝ้าบ้าน วิชาเชิญครูลงประทับทรง (ตาย้อยท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง สมภารทอง วัดลาดชะโด)

4. ตาชวดวงศ์ ศรัทธาธรรม พระครูปืนได้ศึกษาทางคาถาอาคมและการเป็นสัปเหร่อ ปลุกผี สะกดผี ทำน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์
5. หลวงตาแปลก วัดลาดชะโด พระครูปืนได้ศึกษาทางคาถาอาคมและเลขยันต์
6. หลวงตาสมัย วัดลาดชะโด ท่านเป็นพระธุดงค์มาจากจังหวัดพิจิตร พระครูปืนได้ศึกษาทางคาถาอาคม เลขยันต์ และวิชาล่องผ้า

7. หลวงตาจุ่น วัดลาดชะโด ท่านเป็นพระธุดงค์มาจากสุโขทัย พระครูปืนได้ศึกษาทางคาถาอาคม วิชาทำเชือกกันงู เชือกคาดเอวเด็กตกน้ำไม่จม
8. หลวงปู่บุญมี อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดชะโด (หลานชายหลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโด) พระครูปืนได้ศึกษาทางคาถาอาคม วิชาลงทางเมตตามหานิยม การหุงสีผึ้งเมตตา ลงยันต์ นะ พาเงินมา ตะกรุดใต้น้ำ
9. หลวงปู่ชอบ รองเจ้าอาวาสวัดลาดชะโด พระครูปืนได้ศึกษาการทำน้ำมนต์ และคาถาสาหวั่ง (คาถาสาหวั่งนี้เป็นคาถาอยู่ในทิพย์มนต์ของตำราพิชัยสงคราม) ขจัด ปัด เป่า สิ่งชั่วร้าย อัปมงคล เสนียดจัญไรต่างๆ
10. หลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูปืนได้ศึกษาวิชาพระหน้าทอง

11. พระครูศรีชยาภรณ์ หรือปัจจุบันเป็น พระราชสุรวาที ได้ศึกษานักธรรมและบาลี หัดเทศน์และสวดมนต์ต่างๆ
12. พระราชมงคลมุนีหรือหลวงปู่คอน สุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดชัยพฤกษมาลา พระครูปืนได้ศึกษาวิชาสายวัดสะแก วิชาพรหมศาสตร์ วิชาในสายของวัดประดู่ในทรงธรรม ยันต์หนุมาน ยันต์เมตตา ยันต์ต่างๆ ตะกรุดพิชัยสมบัติ การปลุกเสกน้ำมันมนต์ วิชาเสกรักยมตามตำหรับหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เจิมนะโภคทรัพย์ เจิมรถ ทำน้ำมนต์ เป็นต้น (หลวงปู่คอน ในอดีตท่านอยู่วัดสะแก 3 พรรษา ได้ขอเรียนวิชาหลวงปู่สีห์, หลวงปู่ใหญ่, หลวงปู่ดู่, อาจารย์เฮงไพรวัลย์ และในสายวัดประดู่ในทรงธรรมเรียนจากพระครูสุทธิจิตกาลีหรือพระครูชม อดีตเจ้าอาวาสวัดประดู่ในทรงธรรม)
13. พระครูอาทรธรรมรัตน์ (หลวงปู่หมึก) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชัยพฤกษมาลา พระครูปืนได้ศึกษาวิชายันต์เก้ายอด การสร้างตะกรุดกระดูกแร้ง (หลวงปู่หมึกนี้ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด อีกทั้งหลวงพ่อหรุ่นเป็นผู้สักเก้ายอดให้ที่กลางหลัง)

14. หลวงตาเล็ก วัดชัยพฤกษมาลา พระครูปืนได้ศึกษาทางด้านคาถาอาคม และเลขยันต์ วิชาแม่เป๋อ วิชาแม่กระทงลอย ลงผ้าผูกขา
15. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม พระครูปืนได้ศึกษานะหน้าทองเพียงอย่างเดียว
16. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี พระครูปืนได้ศึกษาการสร้างและปลุกเสกลูกประคำ
17. พระครูสุนทรธรรมกิจ (หลวงปู่หยอด) วัดแก้วเจริญ จังหวัดสมุทรสงคราม พระครูปืนได้ศึกษาการทำตะกรุดลูกอมโลกธาตุ

18. ลุงโอ เป็นซินแสจีน พระครูปืนได้ศึกษาศาสตร์ทางจีน เช่น ดูฮวงจุ้ย การเขียนหู้ การรักษาคนโดยสมุนไพรจีน การไหว้เทพเจ้าจีน และศึกษาประวัติกำเนิดเห้งเจีย (แต่วิชาทางจีนพระครูปืนกล่าวว่า จำไม่ค่อยได้เพราะตำราที่จดบันทึกไว้ได้สูญหายไปพร้อมเหตุการณ์ไฟไหม้วัดลาดชะโด)
19. อาจารย์ณรงค์ คงสมบูรณ์ (อ.เบื้อก วัดพระญาติ) พระครูปืนได้ศึกษาวิชาในสายหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติ

20. เจ้าคุณพระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อเฉลิม เขมทสฺสี วัดพระญาติการาม) พระครูปืนได้ศึกษาแบบถอดตัว คือ เรียนและติดตามอยู่กับท่านเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ตั้งปีพ.ศ.2544 - ปีพ.ศ.2564 จนกระทั่งหลวงพ่อเฉลิม มรณะภาพ ได้ศึกษาวิชาประจำสำนักในสายหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติ ยันต์ชาตรี 9 เฮ การปลุกเสกพระ การเขียนทำผง-ลบผง การเขียนและเรียกสูตรยันต์นะต่างๆ นะทรหด นะพิชัยสงคราม นะอภิสิทธิ์ การทำลูกสะกด การสร้างหุ่นพยนต์ การทำตะกรุดเที่ยง ตะกรุดโทน ตะกรุดจูงศพ การทำน้ำมนต์ การเจิมบ้าน เจิมรถ อักขระเลขยันต์ต่างๆ อาทิ ยันต์มหาจักรพรรดิ์ ยันต์พระราหู เป็นต้น
21. หลวงพ่อหยิบ วัดบ้านกลาง จังหวัดอ่างทอง พระครูปืนได้ศึกษาการทำน้ำมนต์ วิชาการทำตะกรุดสองชั้น

22. หลวงพ่อผิว วัดประดู่ทรงธรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูปืนได้ศึกษาการทำน้ำมันมนต์รักษาแผลไฟไหม้
23. หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูปืนได้ศึกษาการทำตะกรุดดอกไม้ ยันต์ตรีนิสิงเห
24. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูปืนได้ศึกษาการเสกเข็มทองและฝังทองลงในร่างกาย ในตำราสายหลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ จังหวัดนครสววรค์

25. หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน จังหวัดอ่างทอง พระครูปืนได้ศึกษาการทำตะกรุดมนุษย์-ยักษ์ และขอต่อวิชาในสายของหลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงอภิญญา แห่งเมืองวิเศษชัยชาญ
26. พระราชสิทธิโสภณ เจ้าคณะอำเภอผักไห่ เจ้าอาวาสวัดตูม พระครูปืนได้ศึกษาวิชาในสายหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
27. หลวงพ่อปั่น วัดเนินมหาเชษฐ์ จังหวัดสุพรรณบุรี (หลานหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่) พระครูปืนได้ศึกษาวิชาในตำราสายของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และหลวงพ่อปั่นยังได้ยกตำราต่างๆ ของหลวงพ่อมุ่ยให้ พร้อมทั้งประสิทธิ์ประสาทวิชา
28. พระครูโสภณกิตติยาภรณ์ วัดสุทัศน์ พระครูปืนได้ศึกษาการสร้างพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ การลงยันต์ 108 นะ 14 นะ และการเททองพระกริ่ง

29. หลวงตาบาง พระลูกวัดที่วัดลาดชะโด พระครูปืนได้ศึกษาเรียนวิชาดูหมอ
30. หมอหวาด พระครูปืนได้ศึกษาวิชาสักยันต์ มนต์มหากาฬ องการสาบแช่ง องการมหาปัถมึ้น เลขยันต์ต่างๆ ลงทางเมตตา ลงทางมหาเสน่ห์ เรียนการทำคุณไสยกัน, แก้, ผูก และกระทำ กันคือกันตนเอง แก้คือรู้จักแก้ของที่เขาทำมา ผูกคือผูกผี ส่วนกระทำคือการทำใส่ผู้อื่นเขา (หมอหวาดเป็นลูกศิษย์ของหมอสอน หมอสอนผู้นี้เป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด เดินเรียนวิชามาตลอดทางและมาตั้งถิ่นฐานอยู่บ้านลาดชะโดเป็นผู้มีวิชาเรืองอาคมเป็นอย่างมาก มีวิชาแปลกๆในทางคุณไสยมนต์ดำ และยังเป็นศิษย์ในหลวงพ่อกล่อม วัดโพธิ์ลาว)
31. อาจารย์รวย เย็นฉ่ำ หรืออาจารย์รวยตาเห็น พระครูปืนได้ศึกษาคาถาอาคม เลขยันต์ต่างๆ การทำหักตัว พ.พาน ถักเชือกตะเข้ขบฟัน การทำกระบองกล (อาจารย์รวยท่านนี้ เป็นฆราวาสคงแก่เรียน มีวิชาอาคมสูง เป็นศิษย์ในหลวงปู่สีห์ วัดสะแก และเรียนวิชาในสายหลวงพ่อพลับ อดีตเจ้าอาวาสวัดชีตาเห็นหรือวัดชีโพน โดยศึกษาจากหลวงตาจันทร์ ซึ่งหลวงพ่อพลับ วัดชีตาเห็น เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อชู วัดนาคปรก เกจิคณาจารย์ชื่อดังฝั่งธนบุรี)

32. อาจารย์ยอด พระครูปืนได้ศึกษาในสายวิชาหลวงปู่คำสิงห์ เช่น วิชาเข้าจากหรือการฝังของอาถรรพ์เข้าใต้ท้องแขน วิชาเข้าคำเปลวตามวันเดือนปีเกิด หรือ นะ หน้าทอง วิชาตะกรุดผีหม้อ ซึ่งวิชานี้ต้องใช้หม้อที่ใส่วิญญาณผีตายโหง ถึงจะนำหม้อมาทำตะกรุดได้ซึ่งไม่ใช่หม้อไฟที่ทำหน้าศพทั่วไป (อาจารย์ยอดผู้นี้ เป็นศิษย์ของหลวงปู่คําสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม จังหวัดบึงกาฬ )
33. ศึกษาวิชาตะกรุดหนังลูกวัวตายท้องกลม การทำไม้ครู อักขระเลขยันต์ต่างๆ นะสำเร็จ เป็นวิชาในสายหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ โดยเรียนผ่านจากตำราของหลวงพ่อเต็ม วัดดอนลาน ครั้งพระครูปืนไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดดอนลานและได้พบตำราเล่มหนึ่งจึงเปิดศึกษาดูอีกทั้งยังได้ขอคำชี้แนะจากลูกศิษย์หลวงพ่อเต็มเพิ่มเติมอีก

34. ศึกษาตำราหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นตำราของคุณตาชาย สังข์มงคล ตาชายผู้นี้เป็นคนชัยนาท ชอบศึกษาเวทย์มนต์คาถาต่างๆ อีกทั้งยังมีศักดิ์เป็นน้องเขยของหลวงปู่หน่าย คือเมียของตาชายนี้ ชื่อยายซ้วน ซึ่งยายซ้วนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงปู่หน่าย เมื่อตาชายตาย ลูกหลานได้ยกตำรามาให้พระครูปืน เพื่อศึกษาช่วยเหลือผู้คน พระครูปืนจึงนำตำรานี้ไปขึ้นครูกับหลวงพ่อพิมพ์ วัดพฤกษะวัน เพื่อให้ท่านประสิทธิ์ประสาทและชี้แนะให้ เช่น วิชานิ้วเพชร วิชาชูชก วิชาตะกรุดนางแย้ม เป็นต้น

35. ศึกษาตำราของหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ได้ศึกษาการสร้างไม้ครู การลงหัวไม้ การลงกลางไม้ การลงปลายไม้ การฝังของอาถรรพ์บรรจุลงในไม้ครู
36. ศึกษาตำราโบราณ ซึ่งเป็นเหตุบังเอิญโดยมีคนนำตำรามาถวาย และในตำรามีวิชาการสร้างหุ่นพยนต์โลหะ พระครูปืนจึงจุดธูปบอกกล่าวครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาตำราเพื่อขออนุญาตศึกษา และได้ทำการทดลองสร้างหุ่นพยนต์โลหะ ลงด้วยหัวใจพระ 7 คัมภีร์ ตามตำรา ซึ่งพบว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เฉกเช่นเดียวกันกับตำราหุ่นพยนต์วัดพระญาติ
37. ศึกษายันต์พุทธกับผู้เฒ่าฆราวาส แถววัดปากคลองมะขามเฒ่า เรียนการเขียนยันต์พุทธ 4 ตัว ของหลวงพ่อมหาโพธิ์ เช่น พุทธอุดม้วนโลก พุทธมหาราช พุทธแคล้วคลาด โดยอาจารย์เสี่ย มนัส สิวาภิรมย์รัตน์ ได้มาถวาย และศึกษายันต์พุทธของหลวงพ่อชุ่ม วัดราชคาม ศึกษายันต์พุทธของหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง โดยพระราชสิทธิโสภณ เจ้าอาวาสวัดตูม เป็นผู้ประสิทธิประสาทให้

สมณศักดิ์และตำแหน่งของท่านที่ได้รับตามลำดับปีดังนี้
พ.ศ.2535 ได้นักธรรมเอก
พ.ศ.2537 ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระครูวินัยธร สราวุธ ปัญญาวุโธ
พ.ศ.2544 ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระกรรมวาจาจารย์
พ.ศ.2546 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดลาดชะโด
พ.ศ.2550 ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูต ฝ่ายปฏิบัติการสาย 2
พ.ศ.2551 ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระปลัด สราวุธ ปัญญาวุโธ
พ.ศ.2553 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส วัดดอนลาน
พ.ศ.2556 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส วัดชีโพน
พ.ศ.2557 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส วัดจักราช พร้อมดำรงตำแหน่งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำอำเภอผักไห่ ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอผักไห่ อีกทั้งยังเป็นครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนลาดชะโดสามัคคี รวมถึงยังเป็นผู้อุปถัมภ์ด้านการศึกษาโดยมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน

ปัจจุบันพระครูปืนกำลังทำโครงการสร้างอุทยานประวัติศาสตร์ทุ่งสามหมื่น ท่านได้กล่าวไว้ว่า เราตั้งใจมาตั้งแต่เป็นเด็ก แต่เราไม่มีโอกาส ในเมื่อเรามีโอกาสแล้ว เราจะต้องทำให้สำเร็จ ถ้าเราไม่ตายก่อน เงินมีน้อยก็ค่อยๆทำไป เพราะต้องอาศัยลูกศิษย์ลูกหาช่วยกัน เราจะไม่ขูดเลือดขูดเนื้อลูกศิษย์ เราก็ค่อยๆทำไป วัตถุมงคลที่ออกมาเพื่อที่ว่า เราอยากให้ลูกศิษย์ได้ร่วมทำบุญ และได้รับวัตถุมงคลกลับไปบูชาเป็นที่ระลึกในการร่วมบุญใหญ่กันในครั้งนี้ด้วย สิ่งที่เราตั้งใจไว้ก็ คือ สร้างอุทยานประวัติศาสตร์ทุ่งสามหมื่น บ้านลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.อยุธยา สร้างพระปางอุ้มบาตรสูง 17 เมตร

 

เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา สร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชา เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับทหารวีรชนคนกล้าที่สู้รบเพื่อประเทศชาติที่ได้ตายอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 (ซึ่งอาจจะเป็นบรรพบุรุษของพวกเราทุกท่านก็ได้) สร้างอนุสาวรีย์บูรพมหากษัตราธิราชเจ้า และอาจจะมีการสร้างรูปหล่อครูบาอาจารย์ อีกทั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมให้แก่ประชาชนที่ต้องการมาปฏิบัติธรรมกัน เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นที่สงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง