รู้จัก วัตถุมงคล เด่น ที่สายมู ให้ความนิยม ของ หลวงปู่บุดดา ปญญาธโร

หลวงปู่บุดดา ปญญาธโร อายุ112 ปี ท่านคือเกจิรุ่นสุดท้ายที่สืบทอดวิชาพญานกถึดทือ สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
นกถึดทือ ของท่านเด่นเรืองทำมาหาเงิน หาเงินคล่อง แต่ศิษย์บางคนนำนกของท่านไปเล่นในบ่อน จนบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน ประกาศไม่ให้นกถึดทือของท่านเข้ามาในบ่อน 

วิธีบูชา ตั้งนะโม 3 จบ แล้วภาวนาคาถา พญานกถึดทือ “กิปิพิคิ คิพิปิกิ” หลายๆจบยิ่งมากยิ่งดี แล้วอธิษฐานจิตตามต้องการ ผู้ที่มีไว้บูชาจะอุดมด้วยลาภผลนานับประการ ทางการค้าขาย ทำธุรกิจประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ เป็นโภคทรัพย์ มีโชคมีลาภ มีกินไม่รู้หมด

สำหรับลักษณะของนกถึดทือ เป็นนกฮูกหรือนกเค้าแมวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีลำตัวสีนํ้าตาล มีลายกระสีขาว ลำตัวด้านบนและปีกสีเข้มกว่าด้านท้อง ขนคิ้วยาว เห็นได้ชัด ตาสีเหลือง หน้าแข้งไม่มีขน หากินในเวลากลางคืน การที่ได้ชื่อว่า "ถึดทือ" นั้น มาจากเสียงร้อง ที่เป็นเสียงต่ำทุ้ม โดยเฉพาะช่วงจับคู่ในฤดูหนาว ทั้งสองเพศจะร้องประสานเสียงกันให้ได้ยินบ่อย ๆ ยามพลบค่ำและรุ่งสาง

โบราณาจารย์ จึงนำมาผูกปลุกเสกสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง เน้นทางโชคลาภทำมาหากิน ครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านวิชานกถึดทือ ภาคกลาง ต้นตำรับของสายวิชานี้ คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ส่วนในทางภาคอีสาน ต้นตำรับของสายวิชานี้ คือ สำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ เป็นต้น
ซึ่งคติความเชื่อนี้ในประเทศอินเดียเองก็ถือว่านกถึดทือมีความเกี่ยวข้องกับพระลักษมีเทวี เทพีแห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ซึ่งในปางที่เกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ทางพืชพันธุ์ก็จะมีนกถึดทือประกอบอยู่ด้วยในภาพจิตกรรมที่เขียนขึ้นเสมอ ๆ

ตำรับวิชานกถึดทือของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า นั้นจะมีคาถาวิชานกถึดทืออยู่สองบทด้วยกัน แบ่งเป็นบทนกถึดทือตัวผู้และบทนกถึดทือตัวเมีย หลวงปู่ศุขท่านได้ถ่ายทอดวิชานกถึดทือให้แก่ลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านต่างคนต่างบท โดยได้ถ่ายทอดวิชานกถึดทือตัวผู้ ให้แก่หลวงพ่อบุญยัง คงคสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองน้อย และถ่ายทอดวิชานกถึดทือตัวเมีย ให้แก่พระอาจารย์กลับ แสงเขียว อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนตาล

มีเรื่องเล่าขานกันว่า สมัยหนึ่งหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านได้เดินทางมายังวังนางเลิ้ง เป็นวังที่ประทับของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เมื่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์และพระชายา เข้ากราบนมัสการ ถวายการต้อนรับหลวงปู่ศุขแล้วนั้น เหล่าบรรดานายทหาร ข้าราชบริพาร ก็ได้เข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ศุข

โดยที่หลายๆคนได้เอ่ยปากขอเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลและตะกรุดต่างๆของหลวงปู่ศุข เพื่อนำไว้บูชาติดตัวเป็นสิริมงคลในชีวิต แต่ก็มีอีกหลายคนติดเบี้ยบ่อนพนัน ได้เอ่ยปากขอของดีจากหลวงปู่ศุข เพื่อต้องการจะไปแก้มือเจ้าของบ่อน หลวงปู่ศุขท่านไม่ได้ให้วัตถุมงคล แต่กลับกันนั้นหลวงปู่ศุขท่านเมตตาเขียน ผ้ายันต์พญานกถึดทือ มอบให้แก่ผู้ที่เอ่ยปากขอท่าน

หลังจากนั้นปรากฏว่า เจ้ามือบ่อนต่างๆ ทั้งในย่านนางเลิ้ง ย่านพระนคร ย่านสี่กั๊ก ยันย่านเสาชิงช้า ต้องปิดบ่อนหนี เหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ศุข ที่มีผ้ายันต์พญานกถึดทือ ไว้ในครอบครอง โดยที่เหล่าลูกศิษย์ต่างแก้มือสำเร็จ ร่ำรวยไปตามๆ กัน จนเจ้ามือไม่กล้าให้เล่น

ตำนานมีกินไม่รู้สิ้น เครื่องรางสายโชคลาภ นักเสี่ยงโชคเสี่ยงดวง ความมั่งคั่ง เมตตามหานิยม ค้าขายคล่องตัว ป้องกันการกระทำทางคุณไสย และล้างอาถรรพณ์สิ่งที่ไม่ดี โบราณต้องมีไว้ เพราะเป็นวิชาดี มีอยู่จริง เป็นของเล่นอริยะ ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ในสมัยก่อนคนติดบ่อนติดฝิ่นมีอยู่มาก เอาเงินเอาเบี้ยไปประเคนเจ้ามือหมด วิชานี้จึงมีไว้เพื่อปราบเจ้ามือขี้โกง ปราบเศรษฐีเห็นแก่ได้ เพราะบรรดาเบี้ย บ่อนสมัยก่อน ล้วนเสาะแสวงหาอาจารย์ผู้มีวิชา เพื่อเรียกลูกค้าให้มาเสียเงินให้มากๆ เหมือนกัน วิชานกถึดทือของหลวงปู่ศุข จึงเป็นวิชาเสี่ยงโชคได้ลาภ แก้เผ็ด คล้ายย้อนรอย หนามยอกเอาหนามบ่ง ชนะวิชาประจำบ่อนเบี้ยทั้งหมด