
ความเชื่อ ในโลหะศักดิ์สิทธิ์ ส่วนประกอบการสร้างวัตถุมงคล เมฆพัด เมฆสิทธิ์
รู้จักโลหะสำคัญ ส่วนประกอบในการรวบรวมโลหะมงคล เมฆพัด เมฆสิทธิ์ เพื่อใช้ในการจัดสร้าง วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง
ในแวดวงการสร้างพระเครื่องนั้น การจะได้มาซึ่งส่วนประกอบ หรือ ส่วนผสม เพื่อให้ได้มาซึ่งพระเครื่อง เครื่องรางสำคัญ การสรรสร้างนั้น มีทั้งการใช้เนื้อดิน เนื้อผงที่ได้จากการลบเลขลบยันต์ รวมทั้งการจัดสร้างเป็นเนื้อโลหะ ถ้าตำนานการสร้างเครื่องจากโลหะที่คุ้นเคยในสังคมไทยมากที่สุด นั่นคือ การตีดาบฟ้าฟื้นของ ขุนแผนแสนสะท้าน เป้นหนึ่งในการบันทึกเรื่องราวทางความเชื่อในการสร้างเนื้อโลหะสร้างของดี นอกเหนือจากเรื่องราวที่เล่าไปนั้น เนื้อโลหะที่นักสะสมวัตถุมงคลให้ค่านิยม นั่นคือ เนื้อเมฆพัดและเนื้อเมฆสิทธิ์
คำว่า”เมฆสิทธิ์” และ”เมฆพัด”นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกโลหะผสมหลากหลายชนิดที่นำมาหลอมรวมกันตามกรรมวิธีแบบโบราณหรือที่เรียกกันว่า”เล่นแร่แปรธาตุ” หากนำมาสร้างพระเครื่องก็จะหมายถึง”โลหะธาตุกายสิทธิ์” ที่มีอานุภาพช่วยคุ้มครองและป้องกันอันตราย ช่วยเสริมบารมีและให้คุณกับผู้ครอบครอง ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยในอดีตให้ความนับถือและแสวงหามาครอบครองกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังมีความนิยมอยู่มิเสื่อมคลาย แต่เนื่องจากการสร้างที่มีจำนวนน้อยมากและมีอายุการสร้างมานานร่วม100ปีจึงเป็นพระเครื่องที่หาชมและสะสมได้ยากมาก
ประกอบกับมีการทำปลอมขึ้นมาจำนวนมากมีทั้งพิมพ์ที่คลาดเคลื่อนรวมถึงการสร้างและมวลสารที่นำมาใช้สร้างไม่ตรงกับข้อมูลเดิมที่เคยสร้างไว้ จึงทำให้เกิดปัญหากับผู้ที่ต้องการศึกษาเป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ที่จะรวบรวมข้อมูลและประวัติการสร้างรวมถึงตัวอย่างพระเครื่องของจริงที่ถูกต้องทั้งพิมพ์ ความเก่าและมวลสารพร้อมข้อมูลใหม่ทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบหาชนิดและปริมาณของโลหะที่เป็นมวลสาร เพื่อช่วยให้เราศึกษาได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้นกว่าในอดีต
หากแปลตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถานว่า”ชื่อโลหะที่เกิดจากการเอาแร่มาหุงเข้าด้วยกันแล้วซัดด้วยกำมะถัน มีสีดำเป็นมัน แววเป็นสีคราม เรียกพระเครื่องที่ทำจากโลหะชนิดนี้ว่าพระเมฆพัดหรือ พระเนื้อเมฆพัด” ตามความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณถือว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์มีอานุภาพในตัวเองเพราะขณะที่สร้างขึ้นตามกรรมวิธีนั้นจะมีการผสมน้ำว่านยาต่างๆเช่นไพรดำ ต้นหิงหาย ไม้โมก ขิงดำ กระชายดำ สบู่แดง สบู่เลือด ฯลฯ ในขณะเดียวกันก็จะมีการบริกรรมปลุกเสกด้วยคาถาไปตลอดจนครบกระบวนการผสมแร่ธาตุต่างๆ และมีอายุการสร้างมานานร่วม100ปีจึงเป็นพระเครื่องที่หาชมและสะสมได้ยากมาก
สำหรับเนื้อเมฆพัด และ เมฆสิทธิ์ ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงและมีราคา นั่นคือ พระปิดตาเมฆสิทธิ์ของพระอาจารย์ทับแห่งวัดอนงคารามฝั่งธนบุรี ย่านคลองสาน เมฆสิทธิ์ นั้นเกิดขึ้นจากการเล่นแร่แปรธาตุในยุคหนึ่งของเหล่าท่านปรมาจารย์ที่เข้มขลังทางพระเวท เป็นยุคแห่งการแสวงหา เสาะหามวลสาร ที่มีคุณวิเศษที่แตกต่างจึงมีการนำเอาโลหะ และวัตถุ หลายๆอย่าง
นำมาเท คนโบราณเขาเรียกว่า"นำมาสาดหรือซัด"คือหล่อหลอมวัตถุที่ได้มาแต่ละชนิดจนเป็นของเหลวแล้วนำมาสาดใส่กันหรือซัดใส่กัน ให้มวลสารที่แตกต่างรวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว และให้เกิดสิ่งใหม่ มวลสารใหม่ คือจากวัตถุธรรมดาแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่มีคุณวิเศษยิ่ง(กลับร้ายกลายเป็นดี)ซึ่งจะให้มวลสารที่แตกต่างกันหล่อหลอมให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันและมีคุณวิเศษเปลี่ยนสี บอกลาง ทางดี ทางร้าย ให้ผู้ใช้ผู้ใส่ ระวัง ไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท และให้มีคุณวิเศษทางหนุนดวง พลิกดวง ตามความเชื่อและยึดถือเก่าแก่มาแต่โบราณนั้นคงไม่ใช้เรื่องง่ายๆ ซึ่งในยุคเก่านั้นต้นตำหรับสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งถือเป็นอาจารย์ใหญ่ของท่านปรมาจารย์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นตำนาน ยิ่งกว่าตำนานที่ค้นพบเนื้อเมฆพัด เป็นท่านแรกก็คือ หลวงปู่นาค แห่งวัดห้วยจระเข้ นั่นคือเบอร์1และเป็นสุดยอดแห่งเนื้อเนื้อเมฆพัดทั้งหลายทั้งปวง ส่วนเนื้อเมฆสิทธิ์ ที่มีการสร้างและค้นพบเป็นท่านแรกและถือเป็นเบอร์1 และเป็นตำนานของเนื้อเมฆสิทธิ์ที่เราเอยถึงอยู่นี้ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่าน อาจารย์ทับ แห่งวัดอนงค์ ที่คนเก่าแก่โบราณเชื่อนักเชื่อหนาและมีเขียนเป็นหลักฐานในตำราเก่าแก่หลายเล่มว่าเป็นสุดยอด ของการหนุนดวง พลิกดวง(คนที่สวมใส่จะไม่มีวันดวงตก)และถ้าได้ใช้คู่กับ กะลาตาเดียว ของหลวงพ่อน้อย แห่งวัดศรีษะทองจะดีมากเห็นผลทันตาทันใจ
จนมีคำโบราณ คำจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่าไว้ว่า กะลาแกะราหูอมจันทร์ ของหลวงพ่อน้อยวัดศรีษะทอง ท่านเป็นเจ้าตำหรับ สุดยอดด้านหนุนดวงโชคลาภ ส่วนเมฆสิทธิ์ นั้นสุดยอดด้านการพลิกดวง(เมฆสิทธิ์ พลิกดวง!) เพราะเมฆสิทธิ์เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุจากวัตถุธรรมดาแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่มีคุณวิเศษยิ่ง(กลับร้ายกลายเป็นดี) ดังนั้น เมื่อนำสองสิ่งนี้มาใช้ร่วมกัน จึงเกิดผลแห่งความอัศจรรย์ยิ่งกระทั้งผู้ที่ใช้รู้สึกได้ คนที่ดวงดีก็จะเสริมดวง คนที่ดวงตกก็จะหนุนดวง เป็นคำที่ผู้เฒ่าผู้แก่สอนวิธีการใช้กันมาอย่างนั้นตั้งแต่โบร่ำโบราณ