'ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย' โชว์พระกริ่ง – พระกรุ วัตถุมงคลคู่ใจ

พระเครื่องคู่ใจคนดัง สัปดาห์นี้ วันนี่เราได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ถึงเรื่อง วัตถุมงคล และความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคุณธรรมที่ใช้ในการทำงานและชีวิตประจำวัน ที่บ้านย่านนนทบุรี โดยบ้านหลังดังกล่าวผู้บริหารคนเก่งอยู่อาศัยมากว่า 10 ปี มีการจัดวางฮวงจุ้ย ตามตำราโบราณ ตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงห้องนอน

นอกจากนี้ ยังมีหิ้งบูชาพระสองแห่ง คือ ด้านบนของบ้าน และบริเวณห้องรับแขก ประกอบด้วย พระแก้วมรกต,  องค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) หรือนามที่นิยมเรียก "สมเด็จโต", พระพิฆเนศ และองค์เจ้าแม่กวนอิม

ส่วน พระเครื่อง ที่ ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย แขวนติดตัวเป็นประจำ ประกอบด้วย พระกริ่ง ที่ไม่ทราบรุ่น แต่ได้รับมาจาก คุณประชุม มาลีนนท์ ส่วนอีกองค์เป็น พระกรุ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นรุ่นอะไร โดยซินแสประจำให้มาแขวนติดตัว ขณะที่ข้อมือก็สวมใส่หินนำโชค ที่มีปี่เซียะ ซึ่งก็ได้มาจากซินแส ให้มาบูชา เพื่อให้ช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีหรือชั่วร้าย

“ผมจะรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น มั่นใจ ทุกครั้งที่แขวนพระติดตัวออกจากบ้าน ความเชื่อเกี่ยวกับการแขวนพระของผมไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับการแคล้วคลาด ผมมองว่า พระเครื่อง หรือพระพุทธรูปที่อยู่กับเราหรืออยู่ที่ไหนเราต้องเทิดทูน ผมจะให้ความเคารพและศรัทธา เมื่อพระอยู่กับตัวผมผมก็ต้องปฏิบัติตัวไม่ทำเรื่องที่ไม่ดี ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้พระที่อยู่กับเราเสื่อมไปด้วย เพราะฉะนั้นการที่ผมมีพระอยู่กับตัวจะทำให้ผมรู้ตัว มีกำลังใจ มีสติตลอดเวลา และผมจะไม่ถอดพระเลยไม่ว่ากรณีไหนหากไม่กลับถึงบ้าน”

ผู้บริหารหนุ่ม ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย เล่าด้วยว่า ครั้งหนึ่งเคยอ่านบทความสั้นๆ เป็นประโยคประโยตหนึ่งในคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านบอกว่า หากไหว้พระอย่าบอกว่าขอให้ฝนหยุด ขอให้โชคดี หรือได้สิ่งนั้นสิ่งนี้เลย แต่จงขอให้เรามีสติ มีปัญญา และมีความกล้าหาญ ตั้งแต่นั้นมาก็ยึดมั่นคำสอนนี้มาตลอด

“หลายๆ ครั้งในการทำงานหรือดำเนินชีวิตก็จะขอพรจากพระ 3 ข้อให้มี 3 สิ่งนี้ คือ มีสติ มีปัญญา และมีความกล้าหาญ มีครั้งหนึ่งในการทำงานสมัยอยู่ที่เก่า ซึ่งกำลังจะจัดกิจกรรมใหญ่จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันแม่ เรามีการจัดงานแม่ลูกเต้นแอโรบิคกลางแจ้ง บังเอิญว่าวันนั้นพยากรณ์อากาศแจ้งว่าจะมีพายุฝนหนักมาก ทีมจัดงานก็ไปไหว้ขอศาลหลักเมือง ไหว้พระกันยกใหญ่ ผมก็ไหว้แต่ผมขอให้ผมมีสติ มีปัญญา มีความกล้าหาญ แล้วผมก็ขอให้ทำการย้ายรถออกจากอาคารจอดรถ และสร้างเวทีด่วนขึ้นมา และสุดท้ายฝนตกหนักเวทีหลักใช้งานไม่ได้และต้องใช้เวทีที่สั่งสร้างขึ้นมาสำรอง งานสามารถดำเนินไปได้ปกติ” 

สำหรับความเชื่อเรื่องบาปกรรมนั้น เชื่อว่าการทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ชีวิตหากเรามีจุดยึดอย่าไปยึดติดกับปัญหาใดๆ หากวันไหนมีปัญหาก็ดึงตัวเองออกมาแล้วใช้สติปัญญา ในการแก้ไขปัญหาเราก็จะผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้