กะลาตาเดียวแกะพระราหูอมจันทร์ แห่ง สำนัก วัดศรีษะทอง นครปฐม

ความเป็นมาพระราหู  ( อสูรเทพ )  เกิดจาก อสูรกาย(ยักษ์)หรืออสูรฝ่ายอธรรม มีชื่อว่า พระราหู ที่ปลอมตัวไปแอบดื่มน้ำอมฤทธิ์ ของเหล่าเทวดา แล้วหลังจากนั้นเหล่าพระอาทิตย์และพระจันทร์เห็นจึงฟ้องพระวิษณุหรือพระนารายณ์ พอพระวิษณุทราบ จึงโกรธแล้วปลอมตัวไปใช้กงจักรขว้างใส่ อสูรกาย(ราหู) แต่หาได้ทรงสิ้นชีพ  เนื่องจากได้ดื่มน้ำอมฤตเข้าไปแล้ว

 จึงมีฤทธานุภาพสูงเทียมเท่ากับ  เทวะทั้งมวล โดนที่กลางลำตัวขาดเป็น2ท่อน ท่อนบนกายเป็น พระราหู (ดาวราหู) ท่อนล่างกลายเป็นพระเกตุ(ดาวหาง)ล่องลอยไปมาในสวรรค์คอยจับ พระอาทิตย์  และ พระจันทร์ มากินเพื่อแก้แค้นเช่นเดิม  

ส่วนท่อนล่างของพระราหูที่กระเด็นขาดหายไปได้กลายไปเป็นพระเกตุ  เป็นเทวะแห่งนพเคราะห์องค์ที่ 9  ซึ่งมีรูปลักษณ์เป็นดาวหาง  หรือผีพุ่งไต้  เกิดขึ้นนาน ๆ ครั้งในชั้นบรรยากาศ และเป็นตำนาน พระราหูอมจันทร์ และ อมพระอาทิตย์

ในทางด้านโหราศาสตร์

มีความเชื่อกันว่า หากดาวราหูจรทับลัคราศีใดราศีนั้น จะมีแต่เรื่องร้ายๆเข้ามาในชีวิตหลายๆด้าน หลงเห็นอะไรไม่ดีเป็นถูกเป็นดี  ราหูนั้น ไม่ได้หมายถึงความโชคร้ายอย่างเดียวนะครับ ถ้าราหูหากอยู่ถูกที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา หรือบูชาอย่างถูกวิธี รับรองรวยลูกเดียว

 

ลักษณะความเชื่อในการบูชาพระราหู

โดยมีความเชื่อกันว่าการบูชาพระราหูหรือ เรียกอีกชื่อ หนึ่งว่า “เทพราหู”  ซึ่งถือเป็นเทพงค์หนึ่ง  สามารถบันดาลประโยชน์และโทษให้เกิดขึ้นกับบุคคล  หรือสิ่งต่าง ๆ ได้  ดังนั้นจึงได้มีคิดค้นวิธีการบูชาพระราหูเกิดขึ้น

 

 เนื่องจากมีความเชื่อว่าให้สิ่งที่เลวร้ายอันอาจจะเกิดขึ้น  ให้บรรเทาเบาบางลง  แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดี  เกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน  มีโชคมีลาภ  เจริญก้าวหน้าร่ำรวย

จัดเป็นสุดยอดทั้งด้านพุทธคุณ พุทธศิลป์ และเป็นที่สุดทางศิลปะเชิงช่างของวัดศรีษะทอง และยังนับว่าเป็นสิ่งที่บ่งบอกและเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดทางด้านวัตถุ แกะได้สุดยอดและปราณีตมากเลยครับ

พระราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อย นับว่าเป็นอาจารย์ใหญ่ของวัดศรีษะทอง มีศิษย์สืบทอดวิชาต่อคือ อาจารย์ปิ่น ในปัจจุบันเป็นที่เสาะแสวงหา ในหมู่นักสะสมพระเครื่องของขลัง ตลอดจนผู้ศรัทธาเป็นอย่างมาก

จึงทำให้มีการลอกเรียนแบบเยอะมาก หากผู้ใดต้องการจะสะสมพระราหูอมจันทร์ แนะนำให้ศึกษาให้ดีก่อน ไม่งั้นอยากจะไปหลงสะสมของเก๊ไปบูชาเป็นภาระของลูกหลาน 

วิธีการสร้าง พระราหูอมจันทร์

การสร้าง พระราหู นั้น คือ การแกะสลักลวดลายลงบน กะลาตาเดียว หรือ กะลามหาอุตม์ (ไม่มีตา) จากกะลาเป็นลูก แล้วฉลุ ออกมาเป็นชิ้นเล็ก แล้วตกแต่งให้เรียบร้อย การแกะนั้นมีลายละเอียดที่แตกต่างกันไป

หลายลักษณะ ตามพรรณาการ หรือ อารมณ์ของผู้แกะ ต้นแบบแรงบรรดาลใจ จากโขน ลิเกไทย เป็นต้น แต่คงความเป็นเอกลักษณ์เล่าเรื่องราว ลงบนชิ้นงานได้อย่างลงตัว เช่น พระราหู ท่อนบนเป็นยักษ์ท่อนเป็นนาค (หางนาคจะตวัดอยู่รอบใบเสมา)

การแกะสลัก พระราหู ในฝีมือของแต่ละช่าง สามารถ ลอกเรียนแบบได้ยาก เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละช่าง มีหลากหลายลวดลาย  อาทิเช่น 

ลวดลายใบหน้าพระราหูอมจันทร์ (ปางค์ต่างๆ) 

หน้าเทพ 
หน้ายักษ์
หน้าจีน
เศียรครู
หน้าค้างคาว
หน้านกฮูก
ศิลป์โบราณ

ลักษณะลวดลายใต้แขนพระราหูก็มีหลายแบบตามแต่ช่างจะจินตนาการ

คาถาบูชาพระราหู

พระคาถาสุริยะบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติ

พระคาถาจันทบัพพา
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสกัง กาติยังมะมะ ยะติกา

 

คำถวายเครื่องสังเวยพระราหู

นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง สักการะวันทะนัง
สูปะพะยัญชะนะ สัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง
สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุปะริภุญชันตุ 
สัพพะทา หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา มะหิทธิกา เตปิ
อัมเห อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ เยนะ สุเขนะจะฯ

ข้าแต่เทพราหู เทพแห่งโชคลาภอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
ข้าขอบูชาท่านด้วยของดำ 8 อย่าง
ขอให้ข้าฯปราศจากภัย และอันตรายใดๆ
ขอให้ท่านประทานพรโชคลาภความร่ำรวย 
ทั้งหลายทั้งปวงให้แก่ข้าฯด้วยเทอญ

ส่วนของดำทั้ง 8 ที่ควรเอาไปบูชา มีดังนี้

1. ไก่ดำ ความหมายคือ คุ้ยเขี่ย ค้าขายดี
2. เหล้า ความหมายคือ ความกล้าในการเสี่ยง การลงทุนดี
3. กาแฟดำ ความหมายคือ คิดอะไรก็สมหวัง
4. เฉาก๊วย ความหมายคือ ความใจเย็นและมีความคิดรอบคอบ
5. ถั่วดำ ความหมายคือ ความเจริญรุ่งเรือง

 

6. ข้าวเหนียวดำ ความหมายคือ ความเหนียวแน่นในเรื่องการเงินและความรักครอบครัว
7. ขนมเปียกปูน ควาหมายคือ การปูนบำเหน็จ รางวัล และความสำเร็จโชคลาภ
8. ไข่เยี่ยวม้า ความหมายคือ การวิ่งเต้น หรือการติดต่อ ให้ได้รับความสำเร็จ