กทม.ร่วมมือ เอกชน การท่องเที่ยวฯ จัดกิจกรรม วัดลับย่านฝั่งธนฯ
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม วัดลับย่านฝั่งธนบุรี เปิดมุมมองอารามผ่านแสงสี
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมนำร่องในกรุงเทพฯ ภายใต้โครงการ ‘Unfolding Bangkok เปิดประสบการณ์ใหม่กรุงเทพมหานคร’ ใน 3 ธีมหลัก ได้แก่ Hidden Temple ท่องวัดลับ, Greeting Benjakitti เที่ยวสวนป่ากลางเมือง และ Living Old Building ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์
สำหรับ Unfolding Bangkok จะจัดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 - มีนาคม 2566 เพื่อเป็นการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวในพิกัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ นำเสนอประเทศไทยและวัฒนธรรมไทยในมิติที่น่าสนใจและร่วมสมัย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่ต่างๆ
ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ธีม Hidden Temple เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของพุทธศาสนาและการตกแต่งสถาปัตยกรรมของวัดในมุมมองใหม่แบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ผ่านแสง สี และเสียง ที่ 5 วัดลับในย่านฝั่งธนบุรี พร้อมการจำหน่ายสินค้าจากตลาดนัดชุมชน และท่องเที่ยว Creative Tour เรียนรู้อัตลักษณ์ของย่าน
สำหรับการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว 5 วัดลับย่านฝั่งธนฯ จัดขึ้นภายใต้ 3 แนวคิด ได้แก่ จาริกแสวงบุญ, วัดร้างกับพื้นที่ชุมชน และขอบเขตที่ถูกซ่อนไว้ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งวันที่ 12-20 พฤศจิกายน จัดที่วัดอินทาราม, วัดจันทาราม, วัดราชคฤห์
สำหรับ 3 อาราม ที่ได้จัดงานขึ้นเป็นอันดับแรกนั้น มีความสำคัญ คาบเกี่ยวกับเรื่องราว ในประวัติศาสตร์ อย่าง วัดอินทารามวรวิหาร ประดิษฐานพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี รวมทั้งพระราชอัครมเหสีของพระองค์ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เช่น พระแท่นบรรทม โดยเชื่อว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ชื่อเดิมคือ วัดบางยี่เรือนอก ซึ่งตั้งอยู่เคียงคู่กับวัดบางยี่เรือใน หรือวัดราชคฤห์ในปัจจุบัน เดิมทีเป็นวัดราษฎร์ จนเมื่อครั้นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี พระองค์ทรงศรัทธาในวัดแห่งนี้มาก ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์และสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง ซึ่งในรัชสมัยของพระองค์ได้ทรงประกอบพิธีพระราชกุศลสำคัญที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ วัดแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่โดยพระยาศรีสหเทพ (ทองเพ็ง) ต้นตระกูลศรีเพ็ญ ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 โดยมีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น บูรณะของเดิม และสร้างถาวรวัตถุมากมาย รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามใหม่ว่า "วัดอินทาราม" สืบมาจนปัจจุบัน
วัดจันทาราม เป็นวัดโบราณมีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ตามตำนานพระอารามหลวงโดยสังเขป พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ในสมัยรัชกาลที่ 3 ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ให้ข้อมูลที่ตรงกันคือ พระยาสุรเสนา (ขุนเณร) เป็นผู้สร้าง และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์แล้วได้พระราชทานนามให้ใหม่ว่า "วัดจันทาราม" แต่วัดนี้จะสร้างเมื่อไรไม่มีหลักฐานที่จะให้ค้นคว้าอ้างอิงได้
วัดราชคฤห์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เคยเป็นที่ตั้งทัพของพระยาพิชัยดาบหัก ที่พระเจ้าตากสินให้มาดักซุ่มยิงโจมตีทัพพม่า พระปรางค์ด้านหน้าพระวิหารใหญ่ เป็นที่บรรจุอัฎฐิของ พระยาพิชัย และเป็นวัดโบราณสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีชาวมอญอพยพโดยทางเรือจากกาญจนบุรีมาอาศัยอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่ มีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธานสร้างวัดอยู่ใกล้กัน 3 วัด ตามตำบล วัดนี้ตั้งอยู่ทางเหนือน้ำไหลจึงเรียกว่า วัดบางยี่เรือเหนือ (วัดราชคฤห์) วัดบางยี่เรือกลาง (วัดจันทารามวรวิหาร) วัดบางยี่เรือใต้ (วัดอินทาราม) แต่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า วัดมอญ สันนิษฐานว่าคนมอญช่วยกันสร้างและพระมอญอยู่จำพรรษาประจำอยู่วัดนี้มาก จึงเรียกชื่อว่าวัดมอญ