พระเครื่อง

ศึกษาข้อมูล 5 เครื่องรางของขลัง สาย ป้องกัน แคล้วคลาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศึกษาข้อมูล เครื่องรางของขลัง 5 วัตถุมงคล สายป้องกันภัย แคล้วคลาด สามารถปรับใช้ เป็นตัวเลือก ตัวแทน กับ เครื่องราง รุ่นใหม่ ได้

เครื่องรางของขลัง เป็นอีกหนึ่งวัตถุทางอาคม ที่มีเรื่องราว เรื่องเล่า และอิทธิคุณ ตามแต่การเสกสร้างตามสายวิชาต่าง ๆ ของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน เครื่องรางนั้น ก็มีการแบ่งคร่าว ๆ เช่น เครื่องรางจากเขี้ยวสัตว์ เขาสัตว์ งา ของทนสิทธิ์ ธาตุต่าง ๆ เป็นต้น 
นอกเหนื่อจาก เครื่องรางของขลัง ด้าน เมตตามหานิยม แล้วนั้น ผู้คน นักสะสมวัตถุมงคล ยังมีความต้องการ ครอบครอง เช่าบูชา เครื่องราง วัตถุมงคล ในด้าน ป้องกันภัย แคล้วคลาด มาดูกันว่า มีเครื่องรางอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง 

1. ตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี

ตะกรุดมหาโสฬสมงคล
ตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี หนึ่งในเบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยม และถือว่าเป็นจักรพรรดิแห่งตะกรุดยอดนิยมอันดับหนึ่งของประเทศไทย มีอายุการสร้างเกินกว่า 100 ปี ตะกรุดที่หลวงปู่เอี่ยมสร้างไว้นั้น มีด้วยกันหลายคราวหลายวาระ โดยมากมักจะสร้างขึ้นจากโลหะแก่ทองเหลือง หรือที่เราเรียกเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า เนื้อฝาบาตร ส่วนที่เป็นเนื้อทองแดง และเนื้อตะกั่วก็มี สันนิษฐานว่าเป็นการสร้างในยุคต้นๆ


2.เบี้ยเเก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง

เบี้ยเเก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง
เบี้ยแก้ เป็นอีกเครื่องรางสายป้องกัน ที่หลายคนต้องการมีไว้ครอบครอง ไม่ว่าจะรู้เก่าหรือรุ่นใหม่  แต่ที่สุดของเบี้ยแก้นั้น ต้องยกให้ ของ หลวงปู่รอด วัดนายโรง  โดยการจัดสร้างนั้น ขั้นแรกจะต้องคัดตัวหอยเบี้ยที่มีฟัน 32 ซี่ ตามอาการทั้ง 32 ของมนุษย์  จากนั้นตั้งศาลเพียงตา พร้อมเครื่องสังเวยเพื่อบรวงสรวง ขอปรอทที่จะนำมาบรรจุลงในเบี้ย โดยในตำราว่า เป็นการขอจากคนธรรพ์ ซึ่งจะมาทางอากาศ โดยจะใช้ใบหญ้าคาพาดต่อลงในเบี้ยที่จะบรรจุปรอท ปรอทที่มาตามอากาศก็ลงไหลผ่านใบหญ้าคาลงไปภายใน เมื่อได้แล้วก็จะใช้แผ่นตะกั่วกันปรอทวิ่งหนี หรือบางตัวนั้นมีการอุดด้วยชันโรงใต้ดิน พุทธคุณ ป้องกันคุณไสย ป้องกันอันตราย สิ่งที่มองไม่เห็น คาถามนต์ดำต่าง ๆ 
 

3.    เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาสหรือ วัดบางเหี้ย คลองด่าน สมุทรปราการ

 เขี้ยวเสือ หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาสหรือ วัดบางเหี้ย คลองด่าน สมุทรปราการ
หนึ่งในเครื่องรางที่มีราคาสูง และถือเป็นเป็นราชาในบรรดาเครื่องรางประเภท เขี้ยว งา หลายคนยกให้เขี้ยวเสือของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย เพราะมีเรื่องเล่ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในการตกเสือด้วยหมู นำขึ้นทูลเกล้าถวาย เขี้ยวเสือที่นำมาแกะเป็นวัตถุอาคม ของ หลวงพ่อปาน นั้น จะเป็นเขี้ยวเสืออย่างเดียวเท่านั้น จะไม่ใช้เขี้ยวชนิดอื่นๆ จะมีทั้งเต็มเขี้ยวและเขี้ยวซีก มีคุณสมบัติทึบแสง เขี้ยวเสือต้องกลวง เขี้ยวเสือกลวงจะมีอำนาจในตัวมาก บางท่านเรียกเขี้ยวโปร่งฟ้า เป็นเขี้ยวของพญาเสือโคร่ง มีอำนาจมาก มีตบะมาก แค่จ้องสัตว์อื่น สัตว์อื่นจะเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่

4.หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี

หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี
หนุมาน ของ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เกาะเกร็ด นนทบุรี เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่แกะจากไม้ โดยท่านสร้างจากต้นพุดซ้อน และ รักซ้อน โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสร้างนั้น เล่าขานไว้ว่า ท่านได้ปลูกต้นไม้ทั้งสองชนิด ไว้ด้านข้างของกุฏิ แล้วทุกวัน หลวงพ่อสุ่น จะเสกน้ำมนต์ รดต้นไม้ เมื่อได้เวลาที่เหมาะสม ท่านก็ขุดเอาไม้ทั้งสองมาทำการตาก แล้วก็แกะเป็นหนุมาน
 


จากนั้นท่านจะนำหนุมานบรรจุไว้ในบาตร หลวงพ่อสุ่นจะนำหนุมานมาปลุกเสกในอุโบสถ ทุกวันเสาร์ โดยจะให้มัคทายก หรือพระลูกวัดนำศาสตราวุธต่าง ๆ เช่น ปืน มีด หอก ดาบ อื่น ๆ นำมากองรวมกัน แล้วหลวงพ่อสุ่นจะนั่งทับศาสตราวุธเหล่านั้น ทำการปลุกเสกหนุมานเหล่านั้น ว่ากันว่า หนุมานที่หลวงพ่อสุ่นกำลังปลุกเสกจะกระโดดโลดเต้นอยู่ภายในบาตร หลวงพ่อสุ่นปลุกเสกอยู่นานมากจนได้ที่แล้ว หลวงพ่อก็แจกจ่ายให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคเงินปฏิสังขรณ์วัดศาลากุน

5.ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา

ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา

ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา นั้น  มีวิธีการสร้าง อย่างละะเอียด อ่อนและจะต้องเป็นขั้นเป็นตอน โดยเริ่มจากการจารอักขระเลขยันต์หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าการเดินยันต์นั่นเอง กานเดินยันต์นั้นก็ไม่ใช่ เรื่องง่ายๆ เพราะ การเดินยันต์หนึ่งตัวก็ต้องบริกรรมคาถาไปด้วยหนึ่งจบ โดยบทบริกรรมคาถา ส่วนใหญ่จะเป็นบทสรรเสริญพุทธคุณ สำหรับตัวยันต์ ใน ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา นั้น จะมีเอกลักษณ์ เฉพาะโดยเป็นเหมือนแผนผังกั้นเป็นห้องๆ ซ้อนกันล้อมด้วยพระคาถามหาระงับ พระคาถาบารมี 30 ทัศ และอิติปิโส 8 ทิศ เป็นต้น เมื่อลงอักขระเลขยันต์      

เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะม้วนให้เป็นแท่งกลม โดยมีช่องว่างตรงกลางไว้สำหรับร้อยเชือกเมื่อม้วนเสร็จแล้วก็ต้องพอกด้วยว่านยา คือ ใบไม่รู้นอน 7 ชนิด ประกอบด้วย ใบระงับ ,ใบผักกะเฉด ,ใบกระทืบยอด ,ใบชุมเห็ดเทศ ,ใบหญ้าใต้ใบ ,ใบแคขาว ,ใบสมี เมื่อได้ครบทั้ง 7 อย่าง อย่างละเท่าๆ กัน นำไปสุมไฟให้ใหม้แต่อย่าให้เป็นขี้เถ้า หรือนำไปตากให้แห้ง จากนั้นนำมาบดให้ระเอียดจึงนำไปกวนกับน้ำรัก หรือชันยางเรือ ทำเป็นสมุกพอกตะกรุด

หลังจากพอกยาเสร็จแล้วก็เอาไปตากให้แห้ง จากนั้นใช้เชือก หรือด้ายดิบถักทับแล้วจึงลงรักปิดทองเพื่อรักษาตะกรุดไว้อีกชั้นหนึ่ง ในการปลุกเสกนั้นก็ต้อง ปลุกเสกให้จนมั่นใจว่าเป็นมหาระงับ มหาปราบ โดยชนิดที่ว่าจะต้องปลุกเสก จนสามารถสะกดและระงับให้บริเวณนั้นเงียบสงบแบบไม่มีเสียงใดๆ ให้ได้ยิน เลยนั่นแหละถึงจะเป็นการปลุกเสกที่สมบูรณ์ที่สุด
 

เมื่อพก ตะกรุดนี้ไปที่ใด ภัยอันตรายจะถูกระงับหมด ถ้ามีคดีความก็จะว่าความชนะได้เปรียบเขา ,ไม่เป็นรองใคร หากเล่นพนันก็จะมีดวงเหนือกว่า , การค้าการขายมีเมตตา ค้าขายดี , ติดต่อการงาน เจรจาสิ่งใดก็สำเร็จ แม้แต่คุยกับเจ้านาย ผู้มีอำนาจก็ สามารถ สะกด ให้เขายอมเราทั้งหมด ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากตำหนิเรา


เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ