ศึกษา ตำรา สุขภาพ ตำรับ หลวงปู่โง่น แห่ง วัดพระพุทธเขารวก

ตามปกติแล้วการเขียน หรือ นำเสนอ ในส่วนของ พระเครื่อง เครื่องราง ของขลัง ต่าง ๆ เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คน ให้ความสนใจ รอบนี้ ขอปรับเปลี่ยน มานำเสนอ เรื่องราวของ ครูบาอาจารย์ ในแง่มุมของ สุขภาพ ถือเป็นอีกเรื่องราว ที่น่าสนใจไม่น้อย ครูบาอาจารย์ ที่จะกล่าวถึง นั่นคือ หลวงปู่โง่น แห่ง วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร อาจารย์รูปหนึ่งของ ครูบาบุญชุ่ม ญาณวโร ซึ่งท่านได้เคยจารจารึก เรื่องราวไว้ ในหนังสือ ชะลอความแก่ ซึ่งท่านได้คัดสรรความรู้ ที่เหมาะสมในการมาปรับใช้ 

“สัพเพสัพตา อาหารัตสิกา” สัตว์ทั้งหลายอยู่ได้ด้วยอาหาร”

พุทธภาษิต อันการรับทานอาหารนั้น ทางพระทางนักบวชไม่มีปัญหา เพราะฉันเป็นเวลาอยู่เเล้ว เเต่ควรจะฉันพออยู่ได้ อย่าฉันตามอำนาจกิเลส คือความอยาก คุณโยมเอ๋ยเเต่ไหนเเต่ไรมาอาตมาก็ฉันมื้อเดียว เรื่องการขบฉันอาตมาพิถีพิถันมาก จึงไม่ยอมรับกิจนิมนต์ไปบ้านใครเลยนอกจากขัดไม่ได้จริงๆ
เเต่เราก็ต้องเตรียมของเราไปด้วยคือข้าวต้ม ต้มให้เปื่อย ส่วนมากก็นำเอาข้าวไปด้วยเสมอ ดื่มน้ำข้าวต้มเเล้วอยู่ได้มันย่อยง่าย

ส่วนอาหารหลัก ก็มีผักเป็นส่วนมากบดให้ละเอียดเคี้ยวง่ายย่อยง่าย ส่วนผักที่จะฉันก็ฉันเเต่ผักป่า ของป่าคือยอดกระถิน ส่วนผักที่ซื้อจากตลาดไม่เอาไม่ฉันเพราะมันมีสารพิษเจือปน เเล้วโยมนายห้างก็ถามหลวงปู่ขึ้นว่า เห็นตำราบางเล่มว่า พระเทวทัตได้ขอพรต่อพระพุทธเจ้า ทรงบัญญัตพระไม่ให้ฉันปลา ไม่ให้ฉันเนื้อทุกอย่าง มีบางคนหาว่าใครไม่กินเนื้อเป็นพวกเทวทัต หลวงตาจะว่าอย่างไร
หลวงปู่โง่นจึงกล่าวว่า
 

คุณโยมเอ๋ย พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนให้ใช้โยนิโสมะนะสิการ คือก่อนฉันอะไรควรพิจารณาให้เเยบคายเสียก่อนว่าอาหารเหล่านี้ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ เเละเมื่อฉันไปเเล้วจะไม่เป็นพิษเป็นภัยไม่ให้โทษเเก่ร่างกายเเละจิตใจ อาจเป็นพิษเป็นภัยกับร่างกายเราก็ไม่รับ พระพุทธเจ้าให้กินพออยู่ได้ พอให้สนัตติของชีวิตสืบเนื่องไป ไม่ให้กินตามอำนาจของกิเลสไม่ให้ฉันมากๆ ในเวลาหิว ถ้าหิวก็ให้ดื่มน้ำมากๆ ให้ได้วันละไม่ต่ำกว่า12เเก้ว เฉลี่ยชั่วโมงละเเก้ว ก่อนนอนต้องอย่างน้อย2-3เเก้ว

เเละต้องเป็นน้ำสะอาดจริงๆ น้ำชาอาตมาไม่ดื่ม เพราะมีสารคาเฟอีน น้ำอัดลมต่างๆเช่นกัน เซลต่างๆที่มีอยู่ในร่างกายเรา จะมีน้ำเป็นส่วนมาก น้ำที่เราดื่มเเล้วเข้าไปอยู่ในร่างกาย จะช่วยละลายอาหาร ให้ซึมซาบเข้าไปตามเส้นเลือด น้ำเป็นผู้ทำหน้าที่ส่วนหนึ่งของเลือดคือ น้ำย่อยอาหารกลายมาเป็นน้ำเลือด น้ำเหงื่อ น้ำลาย น้ำมูก น้ำจะช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกาย ให้คงที่ ผิวหนังเต่งตึง

ส่วนการละเว้นการกินปลากินเนื้อนั้นมันเป็นนิสัยเเต่เกิด อาตมาอยู่ตระกูลเขาไม่กินเนื้อ ฝรั่งเขาเรียก Vegetarian กินเเต่ผักเป็นอาหารหลักส่วนไข่นมเเละเนย เขาไม่ห้าม เมื่อมองด้วยภายในคือ(ตาใจ) มองดูอาการที่เขาทำด้วยเนื้อสัตว์ ในหม้อในสำรับ ที่เขาทำกินกันเเล้วมันน่าสงสาร เสียงไก่ก็ขัน เสียงนกก็ร้อง ในสำรับที่จะกินร้องกันระงมไปหมด ฟังเ้ล้วหดหู่ใจ มองดูด้วยตาเนื้อตาหนังภายนอกมันน่ากินน่าอร่อย เเต่ถ้ามองดูด้วยใจ มันน่าสงสาร
 

เมื่อนึกถึงสมัยที่เราเรียนวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ หลักของท่านไอส์ไตน์ว่า E=MCยกกำลังสอง สิ่งที่เกิดขึ้นเเล้วจะไม่สูญหายไปไหน เพราะอุณหภูมิของโลกหุ้มห่อเอาไว้ สัตว์ที่ถูกฆ่าก็หวงเเหนชีวิต ยิ่งเป็นสัตว์สำนึกสูง เช่น โค กระบือ หมู ต่างๆ เวลาจะถูกฆ่ามันจะกลัวตายสุดขีด 

อันชีวเคมีในตัวสัตว์ที่กำลังถูกฆ่าจะถูกขับออกมา วิ่งไปจุกตามกล้ามเนื้อสัตว์ เเละเมื่อเรากินเนื้อมันลงไป สายใยที่เป็นสันตะติ ของชีวิตสัตว์จะลงไปสู่กระเพราะถ้าคนกินเนื้อสัตว์มาอยู่ใกล้อาตมา อาตมาจะรำคาญมาก เพราะเสียงโหยหวนของสัตว์ที่เคราะห์ร้าย ซึ่งอยู่ในท้องคน ร่างกายคนเราเป็นสุสานเป็นป่าช้าหลุมฝังศพของสัตว์

อาตมายังมียาดีอีก4อย่างคือ

1.อากาศ ควรอยูในที่โปร่งเ้ละโดนเเดดบ้างจะได้รับวิตามินดี ป้องกันโรคกระดูกผุ ผิวดี เเม้เเต่พฤกษามาลีไม่มีจิต ยังต้องการเเสงอาทิตย์มาฉายฉัน ถึงยามค่ำน้ำค้าง พร่างไพรวัลย์รับเเสงจันทร์อบอุ่นไม่ขุ่นมัว
2.ต้องพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอให้ได้1ส่วน3ของวัน หรืออย่างน้อย8ชม
3.อาหารดังที่อธิบายมาเเล้ว
4.ดื่มน้ำสะอาดให้มาก

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่
Website -  www.komchadluek.net
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek