เปิดตำนาน " กระสุนคต " วิชาพิศดาร ยิงเมื่อไหร่โดนทุกครั้ง

กระสุนคต เป็นหนึ่งในมหาวิชา ที่ได้รับการเล่าขาน และ สนใจใคร่รู้ กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ เรื่องของ หลวงปู่ศุข เกสโร กับ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ไปเปิดเผยถึงมหาวิชา 4 วิชา ที่ใครได้ครอบครองไว้นั้น วิชากระสุนคต คือหนึ่งในสี่ยอดวิชา ที่มีเรื่องเล่าว่า หลวงปู่ศุขไม่สอนให้เสด็จเตี่ย แต่ได้แสดงให้ทอดพระเนตร โดยยิงปืนทะลุใบบัวทุกใบ ของวังนางเลิ้ง 

ในปัจจุบัน วิชาเกี่ยวกับกระสุนคต ยังมีพระปลัดอิ่ม ปญฺญาวุโธ หรือ พ่อท่านอิ่ม แห่งวัดทุ่งนาใหม่  อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช  ที่ท่านมีความเชี่ยวชาญในการใช้ธนู กระสุนคต จนเป็นที่กล่าวขวัญถึง 

พ่อท่านอิ่ม เคยเล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังว่า สมัยก่อนท่านจะยิงกระสุนคตเพื่อสั่งสอนเณรที่ซนๆ แม้จะไปแอบ ไปซ่อน ไปหลบที่ไหนไม่มีรอดพ้น จะอยู่ที่ไหนไม่ว่าจะบนต้นไม้,ข้างโบสถ์,ซ่อนในกุฏิมิดชิดท่านก็นั่งอยู่ที่ห้องของท่านและยิงไปหาได้  หากเพียงแต่ท่านปรามความซนไม่ได้ยิงเพื่อทำลาย

   กระสุนคต มีความเชื่อกันว่า เป็นเทพศาสตราในตำนาน หนึ่งในวิชาที่สืบทอดกันมายาวนาน  เป็นวิชาที่พิสดาร ที่สืบทอดมาจากตำราพิชัยสงครามที่ชื่อ ธนูเพธา เป็นแขนงหนึ่งของการใช้ธนูหรือ ศร ที่เรียกว่า ธนูรเวท เป็นพระเวทที่สุดพิเศษ มีคุณวิเศษมาก สามารถชนะได้แม้เทวดา ในตำราระบุไว้

 ผู้ที่สามารถสร้างกระสุนคตและสร้างคันธนูได้ ต้องรอบรู้ในสรรพเวทวิทยาและมีพลังจิตแน่วแน่จึงจะสามารถทำได้โดยสำเร็จ กระสุนคต(ธนูคต)ตามตำราที่ต่างๆจะมีการทำและวิธีที่ไม่แตกต่างกันมากทั้งวัสดุและอุปกรณ์และคาถากำกับ  การทำคันกระสุน ตามตำราต้องหาไม้ไผ่สีสุกตายพราย นั่นก็คือตายเอง   ถ้าเป็นกลางกอและยอดด้วนจากถูกฟ้าผ่าด้วยยิ่งดี เชื่อกันวามีอาถรรย์แรงและมีคุณวิเศษในตัวมาก ให้บัดพลีเอาแล้วตัดให้ขาดในครั้งเดียว นำมาเหลาโดยให้เหลาไปในทางเดียว ขณะเหลาก็มีคาถาภาวนาเฉพาะ จนเสร็จแล้วมาถักรังกระสุนด้วยหวายและไม้ไผ่ที่เหลือ และขึ้นสายลงอักขระปลุกเสก

สำหรับการทำกระสุนมีอยู่ 3 วิธี  ได้แก่ 
1.ใช้ขี้ผึ้งรังร้างมาผสมกับผงอาถรรพ์
2.ปั้นกระสุนดิน มีดินจอมปลวก,ดินรังหมาร่า,ดินในปล่องไผ่,ดินโป่ง,สะเก็ดดาว,เศษไม้ฟ่าผ่า,ผงไม้กาฝาก108,ผงอักขระ นะธนูทอง หรือพระอาจารย์บางท่านใช้เพียงดินเหนียวธรรมดา ขณะปั้นก็ภาวนาคาถากำกับและปั้นจนกระสุนแห้งคามือจึงใช้ได้

3.กระสุนปรอท กระสุนชนิดนี้เป็นกระสุนที่วิเศษที่สุด ใช้รบได้แม้กระทั้งเทวดา การทำต้องไปพลีดักแร่ปรอทตามโบสถ์ ตามถ้ำ ปรอทป่า ปรอทดิน มาผสมกัน แล้วไล่โทษไล่่พิษปรอท และใช้อาคมกับพลังจิตกำกับปรอทให้แข็งตัวเป็นเม็ดก้อนกลม ถือว่ากระสุนชนิดนี้เป็นกระสุนยอดสุด ครบเครื่องทั้งป้องกันและทำลายล้างศรัตรู เพียงนำกระสุนปรอทพกติดตัวก็เป็นเครื่องรางป้องกันตัวได้ด้วย

  เมื่อได้ทั้งคันกระสุนและลูกแล้วให้นำมาลงอาคมปลุกเสกตามฤกษ์ จนมีนิมิตว่าคันกระสุนพลิกได้ดังมีชีวิต จึงจะถือว่าปลุกเสกสำเร็จ และมีข้อห้ามเด็ดขาดห้ามนำคันกระสุนไปขว้างหรือตีผู้อื่นเพียงแค่เล่นสนุกเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ผู้ที่โดนตีเจ็บป่วย และพิการถึงขั้นเสียสติได้ บาปกรรมจะตกอยู่กับตัวอาจารย์ผู้สร้าง

ในอดีตมีพระผู้ทรงคุณได้สร้างคันธนูและกระสุนคตอยู่มากมาย เช่นทางใต้ก็สายเขาข้อ มีพ่อท่านเอียด พ่อท่านทองเฒ่าและสืบทอดกันมาจนถึงพระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ และขุนพันธ์ได้มาเรียนวิชายิงกระสุนคตไว้อีกที  ทางภาคกลางและภาคเหนือตอนบนรวมทั้งภาคตะวันออกก็มีอีกหลายรูปที่ทำได้ทำสำเร็จและก็สอนลูกศิษย์กันมาจากรุ่นสู่รุ่น

อันมี สมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน หลวงปู่ศูข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงปู่ทอง วัดเขากบ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพและลูกศิษย์ท่าน หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และลูกศิษย์ท่านหลวงปู่กลิ่น นี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายชื่อพระผู้ทรงคุณที่ท่านทำได้จริง พิสูจน์ได้จริง