รู้จัก หลวงพ่อยี แห่ง วัดดงตาก้อนทอง เถราจารย์ผู้เสก ดินเป็น ทองคำ

    การเล่นแร่แปรธาตุนั้น เป็นอีกหนึ่งศาสตร์เร้นลับ ที่มีความเกี่ยวข้องกับโลกไสยเวท และเรามักจะได้ยินได้อ่าน เรื่องราวของพระเกจิอาจารย์หลายรูป ที่เคยได้ร่ำเรียนวิชาเหล่านี้ จนสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง 

หนึ่งในเกจิอาจารย์ที่มีความเข้มขลัง สามารถเสกสิ่งของให้กลายเป็นทองคำได้ 

เกจิอาจารย์ ที่อยู่ในสายที่เรียกว่า เหนือโลก ว่า หลวงพ่อยี แห่ง วัดดงตาก้อนทอง จ.พิษณุโลก 

สำหรับ  หลวงพ่อยี ปญญภาโร  อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง วัดนี้ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม  อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก แต่เดิมที่มีระบุไว้ในประวัติชีวิตของท่าน กล่าวไว้ว่า  หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี  วัยเด็กอายุได้ 8 ขวบ  ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นพระภิกษุลึกลับ ไม่ทราบที่มาที่ไป แต่ได้จาริกมาในเขตหมู่บ้านที่ หลวงพ่อยี อาศัยอยู่  ซึ่งหลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” 

ภิกษุที่มีนามว่า หลวงพ่อใหญ่ ได้พาหลวงพ่อยี ออกธุดงค์ออกป่าเรื่อยมา จนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา 
 

การครองสมณเพศของหลวงพ่อยี ดำรงเรื่อยมาจนได้ 28 พรรษา เมื่ออายุของท่านได้ประมาณ 50 ปี  ในเวลานั้น ท่านมีญาณที่เล็งเห็นแล้วว่า ตัวท่านนั้นยังมีกรรมอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้  สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ 

ในช่วงเวลาที่ท่านเป็นฆราวาส ได้ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก ซึ่งมีความเข้มขลังโดดเด่น ในด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง  จนเมื่อเวลาเหมะสมมาถึง หลวงพ่อยี จึงได้ทำการอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2 และได้ยกที่ดิน ที่ท่านบุกเบิกมานั้น ให้ส่วนหนึ่งเป็นของสงฆ์ และอีกส่วนหนึ่งได้ให้คนเช่า

ในการอุปสมบทครั้งที่ 2  หลวงพ่อยี ได้ดำเนินการก่อสร้างวัดดงตาก้อนทอง ในสมัยนั้น การก่อสร้าง ต้องอาศัยการขนส่งวัสดุทั้งหมด มาตามทางเกวียน แต่ด้วยบุญบารมีของหลวงพ่อยี เสนาสนะ ถาวรวัตถุ ของวัดแห่งนี้จึงเสร็จสมบูรณ์ในเวลาเพียง 1 ปี 6 เดือน เท่านั้น 

เหตุผลที่ทำให้หลวงพ่อยี สามารถสร้างวัดได้ในเวลารวดเร็ว เพราะท่านได้ใช้อิทธิปาฏิหาริย์ เสกให้ดินเป็นทอง หนุนดวงศิษย์ให้กลายเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย ศิษย์ที่เคยเห็นในสิ่งที่ท่านทำระบุว่า ท่านเคยเสกกระดาษให้กลายเป็นธนบัตรร้อยบาท เสกข้าวสารในการเป็นทองคำ และเมื่อศิษย์มีฐานะที่ดีขึ้น เหล่าศิษย์ก็นำปัจจัยมาช่วยเหลือท่านในการสร้างวัดจนสำเร็จ 

และในช่วงนั้นเอง ที่เรื่องราวของ หลวงพ่อยี ดังไกลจนมาถึงกรุงเทพฯ ทำให้พระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดปทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์   และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย
 

การมาวัดดงตาก้อนทอง ของพระราชมุนี นั้น ท่านมีศิษย์ใกล้ชิด ชื่อว่า หลวงพ่อถาวร ได้ติดตามทานมาด้วย หลวงพ่อยี ท่านมรณภาพในช่วงปี 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิด ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ   พอต้นปี 2531  หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่

สำหรับวัตถุมงคล ที่หลวงพ่อยี เสกจนเป็นทองคำนั้น หลายคนได้เก็บรักษาครอบครองไว้ จะมีเพียง ที่รีสอร์ทฮวงจุ้ย หรือ บ้านภูเขา ของ อาจารย์วรธนัท อัศกุลโกวิท ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยเต๋าหมวกดำ เท่านั้น ที่เปิดให้เข้าชมวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เป็นเคล็ดลับด้านโชคลาภ ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็จะมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อยี รวมอยู่ด้วย