พระเครื่อง

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สัมภาษณ์สนทนา อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส แห่งรายการ theghostsecret มุ่งมั่นให้คนเชื่อในกฏแห่งกรรม หวังสร้างคนส่งต่อธรรมะ เผยเตรียมลุยถ่ายรายการประเทศเพื่อนบ้าน

ในช่วงเวลานี้หากพูดถึงรายการที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณหลายคนให้ความสนอกสนใจกับรายการที่มีชื่อว่า the ghost secret ไขความลับโลกวิญญาณ ซึ่งมี 2 พิธีกรหลักได้แก่คุณท๊อฟฟี่จากวงดนตรี 3.50 บาท และคุณส้มเช้งชะชะช่าที่ผันตัวมาร่วมรายการแห่งความลี้ลับ

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

และแกนกลางสำคัญ ที่เป็นเสมือนเส้นเรื่องของรายการนั่นก็คือ ชยุต พันธุ์แก้วทอง หรือ อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

ความน่าสนใจของรายการนี้ไม่ได้อยู่แค่เพียงการใช้สิ่งที่เรียกว่าญาณสัมผัสในการค้นหาคำตอบหรือการทำภารกิจจากสิ่งลี้ลับที่ส่งให้กับผู้ร่วมรายการและพิธีกรต้องทำตาม แต่ยังมีการเล่าเรื่องในลักษณะสารคดีทางความเชื่อมากกว่าการทำรายการที่ให้คนต้องเชื่อตามเท่านั้น

และนั่นเองจึงทำให้เป็นเหตุผลต้องขอพูดคุยกับอาจารย์โอเล่ในครั้งนี้

จุดเริ่มต้นของรายการนี้ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้ถูกจัดวางให้เป็นรายการเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับแต่วางให้เป็นรายการประวัติศาสตร์อิงความเชื่อ แต่เมื่อมีการถ่ายทำเทปแรกของรายการที่เมืองดงละคร เมืองโบราณในอดีตที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนครนายก และได้พบกับสิ่งเหนือธรรมชาติ จึงเป็นจุดเปลี่ยนจุดเริ่มต้นของรายการนี้

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

  ประเด็นเริ่มต้นการสัมภาษณ์ ที่ถามอาจารย์โอเล่ ถึงที่มาที่ไปของรายการ 

"จริงๆแล้วเรารวมตัวกันในการทำรายการที่เกี่ยวกับความเชื่อสิ่งเร้นลับในเชิงให้ความรู้ แต่ในบางครั้งเวลาเราไปในสถานที่ต่างๆภพภูมิต่างๆเราไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ก็ต้องเข้าไปผจญเข้าไปเปิดเผยซึ่งความลับ อะไรต่างๆได้ภพภูมิของโลกวิญญาณ ถ้าปกติถ้าผมจะทำ ไปยังสถานที่โบราณ ไปยังสถานที่มีตำนาน ไปเล่าเรื่องเล่าตำนานแล้วจบ กลับบ้านแต่นี่ไม่ใช่ครับ มันเป็นเรื่องของสถานที่เรื่องของบุคคล เรื่องที่เกี่ยวกับตัวตนเรื่องของประเพณีความเชื่อทั่วไป ที่เข้ามาผสมผสานเป็นการเปิดเผยข้อเท็จจริงของสถานที่นั้นๆ" อาจารย์โอเล่ กล่าว

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

เมื่อถามต่อไปว่าด้วยระยะเวลาของการดำเนินรายการที่ผ่านมามีการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโลกวิญญาณไปแล้วมากน้อยแค่ไหน 

 

อาจารย์โอเล่ได้กล่าวว่าส่วนใหญ่เคสขอความช่วยเหลือจาก inbox มาทางแฟนเพจของรายการก็จะมีการจัดลำดับคิวตามกันขอร้องความช่วยเหลือ

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกการคุกคามจากโลกวิญญาณ และส่วนใหญ่จะเข้ารับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันแต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่มีคำตอบ สุดท้ายก็ต้องมาแก้ที่ใจ

คุยกับ "อาจารย์โอเล่ ญาณสัมผัส" มุ่งทำหน้าที่ ให้คนเชื่อกฏแห่งกรรม

"จริงๆแล้วผมแนะนำ ขอใช้คำว่าเป็นผู้แนะนำ ให้เขานำไปปฏิบัติเป็นผู้ให้สติเขา ให้เขาสามารถลุกขึ้นยืนได้ เดินได้ต่อไปในสังคม พยายามให้เขาละ ละด้วยความเคยชิน ละในสันดานที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ให้ละความคิดที่จะนำไปสู่ผลที่ไม่ดีที่เขาจะได้รับ หลังจากนั้นก็จะให้เขาทำการบ้านการจะทำหรือไม่ทำก็ต้องอยู่ที่ตัวบุคคลนั้นๆแล้ว"

 

เมื่อได้นั่งพูดคุยกันถึงตรงนี้ก็ได้ถามอาจารย์โอเล่ว่าการช่วยเหลือผู้คนที่ถูกคุกคามจากโลกวิญญาณแบบนี้จะดำเนินการไปถึงเมื่อไหร่ และเป้าหมายสูงสุดในการช่วยเหลือผู้คนคืออะไร อาจารย์โอเล่ได้ตอบว่าเป้าหมายสูงสุดที่ตนได้คิดเอาไว้นั่นคืออยากให้ญาติติธรรมของตนนั้นมีความเข้าใจในธรรมะ ปลงตก วางลง และสามารถแนะนำบอกต่อคนอื่นได้

และเขาสามารถที่จะทำหน้าที่แบบอาจารย์โอเล่ มีความสามารถที่จะบอกต่อและอธิบายความหมายของคำว่ากรรมได้อย่างถ่องแท้ อธิบายบอกต่อในความหมายของบุญจริงกุศลแท้ และสามารถต่อยอดบุญยอดกุศลเพิ่มสติปัญญา ตรงจุดนี้สำคัญเชื่อจะต้องมีสติปัญญาประกอบด้วยเสมอ สามารถบอกต่อเพื่อนได้ สามารถไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ โดยที่ไม่ต้องผ่านตนเอง ตรงนี้ถือว่าตนได้มาส่งเขาจนถึงสุดทางแล้วและเขาสามารถที่จะไปเป็นเทรนเนอร์ในสังคมนี้ได้อีกมากมาย

"ให้เขามีความเชื่อในศาสนาไม่ว่าจะศาสนาใดก็แล้วแต่ อย่างพุทธศาสนาที่เราจะต้องสืบทอดและปฏิบัติกันต่อไป นี่คือเป้าหมายสูงสุดของผมแล้วในการที่จะผลิตบุคลากรธรรมะอย่างแท้จริง ส่วนที่ถามว่าในอนาคตจะหยุดการช่วยเหลือคนเมื่อไหร่ก็ต้องเรียนว่า ในสิ่งหรือความสามารถที่ผมมีติดตัวมาได้ศึกษาหลักธรรมคำสอนต่างๆ ตรงส่วนนี้คนอาจจะมองว่าเป็นความสามารถพิเศษแต่สำหรับผมตรงนี้ คือภาระหน้าที่ และในประการที่ 2 สิ่งตรงนี้ของผมมันก็คือกรรมอย่างหนึ่ง มันเป็นกรรมอย่างหนึ่งที่เราจะต้องไปรับรู้รับทราบ เพราะถ้าตามปกติถ้าผมประกอบสัมมาอาชีพผมมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่แล้ว อาจจะไม่จำเป็นจะต้องออกมาช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหาทั้งหลาย

 

ถ้าในมุมที่ผมมีจิตใจที่เป็นส่วนตัว แต่ในเรื่องของอุดมการณ์นั้นเมื่อเราลงเรือแล้ว ซึ่งเป็นเรือธรรมะ เราก็อยากจะให้คนได้ขึ้นตามมา เรือลำนี้ก็จะแล่นไปจนถึงที่สุดในชีวิตของคนๆหนึ่ง เรือลำนี้ไม่ใช่เรือลำใหญ่แต่สามารถรองรับได้ทุกความรู้สึกของคน ไม่ว่าคนจะมาจากความเชื่อไหนก็แล้วแต่ เรือลำนี้เป็นเรือลำเล็กๆครับแต่สามารถต้อนรับญาติธรรมพร้อมที่ศรัทธาพร้อมที่ใฝ่หาเรื่องของการตื่นรู้ในเรื่องของกฎแห่งกรรม เรื่องของบุญกุศล และเรื่องของการบำเพ็ญซึ่งสาธารณประโยชน์กับโลกใบนี้ครับ"

สำหรับก้าวต่อไปของรายการที่เกี่ยวข้องกับความลับของโลกวิญญาณนั้น อาจารย์โอเล่ ได้กล่าวว่า หลังจากนี้ผู้คนก็จะมากขึ้นเรื่องราวต่างๆ ก็จะเข้มข้นมากขึ้นและจะไม่ใช่แค่การดำเนินรายการในประเทศไทย แต่จะมีการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบเช่นสาธารณรัฐประชาชนลาว กัมพูชา สิงคโปร์มาเลเซียและเมียนมาร์

รวมทั้งยังจะเดินทางไปถึงประเทศจีนไต้หวัน โซนยุโรปสหรัฐอเมริกาและทั่วทุกมุมโลก เพราะเรื่องราวของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องราวสากลของโลก ดังนั้นตนก็ยังจะทำรายการเพื่อผูกบุญสัมพันธ์ต่อไป.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ