ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ หนึ่งเดียว แห่งวัดเดิมบาง สร้างตามนิมิตบัญชา

ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ นับเป็นหนึ่งเดียวในประเทศ  หมายถึง  เป็นราชาแห่งโภคทรัพย์สมบัติ ความรุ่งเรือง ร่ำรวย 
ที่สำคัญใบหน้าเป็นทองคำ  บันดาลฤทธิ์พลัง สายเสน่ห์เมตตามหานิยม แก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย   ใครมากราบไหว้ นอกจะได้โชคลาภ สมปรารถนาแล้ว  ยังได้พลังเสน่ห์เมตตามหานิยม ดุจดั่ง ได้รับพลังวิเศษ "นะหน้าทอง" จาก
ปู่ท้าวเวสุวรรณ  อีกด้วย 

จัดสร้างโดย พระครูบาวชิริล ภทฺทมุนี  สร้างถวายเพื่อประดิษฐาน ไว้ ณ วัดเดิมบาง   สาเหตุที่สร้างเป็นหน้าทองคำ เนื่องจากหลังพิธีเททองหล่อท้าวเวสสุวรรณ แล้ว ท่านพระครูบาฯได้นิมิตฝันว่า  " ได้ยินเสียงดังขึ้นว่า ใบหน้าฉันเป็นทองคำนะ หน้าทอง "  จึงเป็นปฐมเหตุให้สร้าง 

ท้าวเวสสุวรรณ หน้าทองคำ นี้คือมา ตามความประสงค์ของท่านที่มาเข้าฝัน เพื่อเป็นศุภนิมิตมงคลสืบไป  มหามงคลสมัย ฤกษ์มงคล วันศุกร์ ที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ  วัดเดิมบาง ( คงคาราม ) อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ประกอบพิธีเททองหล่อแบบโบราณองค์มหาเทพ ท้าวเวสสุวรรณ ตนใหญ่  เนื้อมหาชนวนทองสำริด 

เพื่ออัญเชิญมาประดิษฐาน ณ อนุสาวรีย์หน้าพิพิธภัณฑ์เรือนไทย  เพื่อเป็นที่กราบสักการะขอพร เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอำเภอเดิมบางนางบวช ตลอดถึงพุทธศาสนิกชนทั่วไป   โดยมีความอัศจรรย์ในวันพิธีเททอง ท้องฟ้าสว่างทั่วนภากาศ ครั้นถึงดิถีศุภฤกษ์แห่งการประกอบพิธี  เมฆลอย ปิดดวงพระอาทิตย์ ท้องฟ้าครึ้มร่มเย็นในทันทีที่เริ่มประกอบพิธีฯ

เวลา 12.39 น. พระครูสุวรรณปุญญา ประธานพิธีจุดธูปเทียน  สักการะบูชาพระพุทธปฏิมากร ตลอดถึง จุดธูปบอกกล่าว ท้าวเวสสุวรรณ แลเทพยาดาอารักษ์  พระครูบาวชิริล เจ้าพิธีกรรม จุดธูปบอกกล่าว บูชาครูบาอาจารย์ แลเทพยดาเจ้า ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาล เชิญองค์ ท้าวเวสสุวรรณ มาอนุโมทนาบุญ สถิตย์ในมณฑลพิธีฯ อ่านโองการบูชาครู เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฯ การนั้น พระครูสุวรรณปุญญารักษ์ เจ้าอาวาสวัดเดิมบาง  นั่งเจริญจิตภาวนา ตลอดวาระพิธี

ท้องฟ้าครึ้ม แดดร่ม สายลมพระพาย พัดผ่าน เกิดความร่มเย็ม เป็นสุข ดุจดั่งที่โบราณกาลกล่าวว่า เสมือนดั่ง องค์มหาเทพชั้นสูง มีท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้นท่านรับทราบรับรู้ ลงมาสถิตย์อำนวยอวยพร ในการเททองหล่อครั้งสำคัญนี้

ครั้นเริ่มประกอบพิธี พระครูสุวรรณปุญญารักษ์ เจ้าอาวาสวัดเดิมบาง และ พระครูบาวชิริล ภทฺทมุนี  ร่วมอธิษฐานจิต นำแผ่นโลหะยันต์ศักดิ์สิทธิ์ ลงสู่เบ้าหลอมทองชนวน ตลอดถึง ยืนบริกรรมเจริญจิตภาวนาตลอดวาระพิธีฯ 

ในท่ามกลางพุทธศาสนิกชนมี จำนวนมาก ร่วมจับด้ายสายสิญจ์นมงคล  พร้อมร่วมส่งพลังจิตแห่งบุญกำเนิดเป็นบุญฤทธิ์ สู่ในปรัมพิธีเททองหล่อท้าวเวสสุวรรณ  พร้อมกันนี้ พระสงฆ์ทรงศีล 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ตลอดวาระพิธีกรรมฯ
 

เมื่อประกอบพิธีเททองเสร็จ พระครูสุวรรณปุญญา พระครูบาวชิริล ประกอบพิธีประพรมน้ำพระพุทธมนต์ และโปรยข้าวตอกดอกไม้ ในมณฑลพิธีเพื่อบังเกิดความเป็นสิริมงคล ตลอดจนถึงเมตตาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ให้กับบรรดาพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีเททองหล่อท้าวเวสสุวรรณ ในครั้งสำคัญนี้ พร้อมกับร่วมถ่ายภาพบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์สืบไป

กล่าวถึง ท้าวเวสสุวรรณ  เป็นหนึ่งในท้าวโลกบาลผู้รักษาคุ้มครองโลกทั้ง 4 ทิศ มีลักษณะเป็นยักษ์และถือตะบองไว้ในมือ ซึ่งท้าวเวสสุวรรณเคยถวายสัตย์ต่อพระพุทธเจ้า ว่าจะทำหน้าที่ดูแลโลกมนุษย์ ไม่ให้ยักษ์และสิ่งชั่วร้ายมารังควาน ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งนิยมไหว้ท้าวเวสสุวรรณเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล และขอพรให้ช่วยคุ้มครองจากภัยและอันตรายต่างๆ 

ผู้ที่ต้องการตั้งจิตอธิษฐานไหว้ ท้าวเวสสุวรรณ นิยมทำในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ โดยของไหว้หลักๆ 
ที่ต้องเตรียมไว้สักการบูชา ได้แก่ ธูป 9 ดอก และดอกกุหลาบ 9 ดอก

ทั้งนี้ การไปไหว้ท้าวเวสสุวรรณ ต้องเตรียมผลไม้ 5 อย่าง ที่สื่อถึงความหมายมงคลไว้ด้วย เช่น ส้ม, กล้วย, องุ่น, แอปเปิ้ลแดง, สับปะรด (สามารถใช้ผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่มีสีแดงทดแทนได้ เช่น แก้วมังกร หรือทับทิม เป็นต้น)

วิธีขอพรท้าวเวสสุวรรณเพื่อเรียกทรัพย์    นิยมนำกระเป๋าสตางค์ที่ใช้ใส่เงินของตัวเอง ไปวนขวารอบกระบองของท้าวเวสสุวรรณ จำนวน 9 รอบ หลังจากนั้นจึงอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา