พระเครื่อง

ยอดเหรียญเพชรตัดเพชร
แห่งเมืองสิงห์บุรี

ยอดเหรียญเพชรตัดเพชร แห่งเมืองสิงห์บุรี

11 มี.ค. 2553

ในราวปี ๒๕๑๐ ได้มีภาพยนตร์ต่างประเทศแนวคาวบอยตะวันตกเรื่องหนึ่ง เข้ามาฉายในเมืองไทย ภาพยนตร์เรื่องนั้นคือ มือปืนเพชรตัดเพชร (For a few dollars more) นำแสดงโดย ๒ ดาราคู่ขวัญ คือ ลีแวนคลิฟ แสดงเป็นเสือเฒ่า และคลินต์ อีสต์วู้ด แสดงเป็นสิงห์หนุ่ม

  เสือเฒ่าและสิงห์หนุ่ม ต่างเป็นมือปืนนักล่าเงินรางวัลยอดฝีมือ ที่เก่งกล้าไม่แพ้กัน ประเภทกินกันไม่ลง ประดุจดัง เพชรตัดเพชร ตามชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้

 สำหรับในวงการ เหรียญยอดนิยมของเมืองสิงห์บุรี ที่มีพุทธคุณยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ประเภทกินกันไม่ลง ดุจเพชรตัดเพชรนั้น ชาวเมืองสิงห์ต่างยกย่อง เหรียญหลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี อ.อินทร์บุรี และ เหรียญหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ อ.อินทร์บุรี  เช่นกัน ว่าเป็นยอดเหรียญเพชรตัดเพชรแห่งเมืองสิงห์ เนื่องจากได้มีการทดสอบพุทธคุณของเหรียญทั้ง ๒ พร้อมกัน ปรากฏว่า พุทธคุณยอดเยี่ยมทั้งคู่ ส่วนจะยอดเยี่ยมอย่างไรนั้น ผู้เขียนจะเล่าให้ทราบในลำดับต่อไป

ประวัติหลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี
 หลวงพ่อลา มีนามเดิมว่า ลา พันธุ์โสภาคย์ เกิดที่หมู่บ้านบางกะปิ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๔ ในวัยเด็กท่านเป็นคนเงียบขรึม ชอบทำบุญ และช่วยเหลือผู้อื่น เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๔๒๔) ท่านได้อุปสมบท ที่วัดโพธิ์ศรี ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี (มหานิกาย)

 ในพรรษาที่ ๔ ท่านได้เริ่มออกธุดงค์เพื่อบำเพ็ญสมถกรรมฐาน ในขณะเดินธุดงค์ท่านได้พบพระคณาจารย์รูปหนึ่ง ที่แก่กล้าในคาถาอาคมมาก จึงฝากตัวเข้าเป็นศิษย์เล่าเรียนไสยเวทย์ จนแตกฉานและสำเร็จดั่งใจประสงค์ (จากการค้นคว้าในภายหลัง  พบว่า พระคณาจารย์ท่านนี้คือ หลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี)

 จากนั้น ท่านจึงเดินออกธุดงค์ต่อไป ในป่าแถบ จ.สิงห์บุรี ชาววัดโพธิ์ศรีได้ตามเสาะหาท่าน จนพบและขอให้ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี แทนพระอาจารย์คิ้ม ซึ่งลาสิกขาไป ซึ่งท่านก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ

 ต่อมา หลวงพ่อลาได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี เพื่อขออุปสมบทใหม่ในนิกายธรรมยุติ เพราะเลื่อมใสในแนวทางปฏิบัติของธรรมยุติ  ท่านได้อุปสมบทที่วัดราชบพิธ กรุงเทพฯ โดยมี สมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ได้มาเป็นพระลูกวัดอยู่ที่ วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติแห่งแรกของจ.สิงห์บุรี

 ต่อมา ชาวบ้านแถบ อ.อินทร์บุรี ได้ทำเรื่องขอเปลี่ยนวัดโพธิ์ศรี จากมหานิกายเป็นธรรมยุตินิกาย ประจวบกับเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีว่างลง หลวงพ่อลาจึงได้รับนิมนต์ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี เป็นครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๖

 และเมื่อพ.ศ.๒๔๗๔ ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูวินิตศีลคุณ ได้อยู่ในตำแหน่งจนกระทั่งมรณภาพ เมื่อวันที่ ๓๐  สิงหาคม ๒๔๘๖ ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุได้ ๘๒ ปี
 
 หลวงพ่อลา เป็นผู้ที่ยึดมั่นในสมถกรรมฐาน และมีพลังจิตที่แก่กล้า ท่านได้รับความไว้วางใจจากชาวสิงห์บุรีให้เป็นพระคณาจารย์เข้าร่วมปรกปลุกเสกในพิธีพุทธาภิเษก เหรียญกริ่งรูปเหมือน แหวนมงคลเกล้า ในพิธีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ณ วัดราชบพิธ เมื่อพ.ศ.๒๔๘๑ ซึ่งเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกของเมือง โดยมีพระคณาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศจำนวน ๑๐๘ รูป ร่วมนั่งปรกปลุกเสก

 หลวงพ่อลา ได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายชนิด เช่นเหรียญ ตะกรุดโทน ผ้ายันต์ รูปถ่ายขนาดบูชา เป็นต้น

 สำหรับเหรียญนั้น ท่านได้สร้างเป็น รุ่นแรกและรุ่นเดียว เมื่อพ.ศ.๒๔๖๘ มีเนื้อทองแดงกะไหล่ทองเพียงอย่างเดียว ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อนาคปรก (พระนาคปรก) เก่าแก่สมัยสมัยลพบุรี สถิตอยู่ในวิหารของวัดโพธิ์ศรี ที่ชาวสิงห์บุรีให้ความเคารพนับถือว่า ศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่ง

 ด้านหลัง เป็นรูปหลวงพ่อลานั่งเต็มองค์ ใต้รูปท่านมีคำว่า พระอธิการลา วัดโพศรี พ.ศ.๒๔๖๘ (คำว่า "โพศรี" ที่ถูกคือ โพธิ์ศรี) เป็นเหรียญที่สร้างแจกแก่ผู้ร่วมทำบุญสร้างโรงเรียนประชาบาล “ลาวิทยาคาร” ลักษณะเป็นเหรียญแบบนูนต่ำ แต่ลึกและคม
 
 หลักการพิจารณาเหรียญหลวงพ่อลา คือ ด้านหน้า (รูปหลวงพ่อนาค) มีเส้นพิมพ์แตกหนึ่งเส้น ลากจากขอบเหรียญไปข้างบนในแนวดิ่ง ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือขององค์หลวงพ่อนาค โดยบล็อกนี้ถือว่าเป็นบล็อกนิยม

 ส่วนด้านหลัง (รูปหลวงพ่อลา) ข้างไหล่บริเวณแขนด้านบนทางด้านขวามือของหลวงพ่อ มีเส้นพิมพ์แตก ๒ เส้นขนานกัน  เฉียงขึ้นไปทางด้านบน และที่บริเวณไหล่ซ้ายของหลวงพ่อ เหนือผ้าสังฆาฏิขึ้นไปจะมีเส้นพิมพ์แตกสั้นๆ หนึ่งเส้น พุ่งขึ้นไปในแนวดิ่ง 

 ผู้ที่มีเหรียญหลวงพ่อลาบูชาติดตัว ต่างมีประสบการณ์ในหลายๆ ด้าน เช่น แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด และป้องกันอัคคีภัยได้ดีอีกด้วย
(ยังมีต่อฉบับวันพรุ่งนี้)

0 ไพศาล ถิระศุภะ 0