พระเครื่อง

เกร็ดตำนาน "กรมหลวงชุมพร" ในแง่มุมของ ไสยเวท

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ขวนอ่านเกร็ดตำนานด้านวิชาอาคม ของ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทายาทราชสกุลยืนยัน ทรงมีปั้นเหน่งย่านาคจริง ระบุชัดทรงเลี้ยงผีในวังนางเลิ้ง

กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถูกขนานพระนามว่า เสด็จเตี่ย เจ้าฟ้าจอมขมังเวทย์ พระองค์มีความสนพระทัย ใฝ่ศึกษาสรรพวิทยาคมต่าง ๆ จากครูอาจารย์ ทั้งภิกษุสงฆ์ อาจารย์ฆราวาส 

เกร็ดตำนาน "กรมหลวงชุมพร" ในแง่มุมของ ไสยเวท

 

 

 

อภินิหารย์ตำนานเกี่ยวกับพระองค์ มีเขียนเล่าบอกความกันกว้างขวางในโลกโซเชี่ยล แต่ในบางเรื่องราว ขาดโซ่ข้อกลางไป 

เนื่องในวันอาภากร 2565 จึงขอรวบรวมเกร็ดเล็กเรื่องน้อยของพระองค์ เพื่อเพิ่มเติมตำนาน ในผู้ที่สนใจใคร่รู้

ม.ร.ว.อภิเดช อาภากร ผู้ศึกษาค้นคว้าชีวประวัติเสด็จเตี่ย ได้บอกเล่าข้อมูลว่า การสักบนพระวรกรนั้น หม่อมย่าของท่าน ได้เล่าไว้ ท่านมีรอยสักตั้งแต่พระชนมายุ 23 พรรษา แต่ไม่ได้ระบุว่ามากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันช่วงเวลาการเริ่มต้น การสักของเสด็จเตี่ย

เกร็ดตำนาน "กรมหลวงชุมพร" ในแง่มุมของ ไสยเวท ​​​​​​

 

 

นอกจากนี้ยังได้เล่าไปถึง การเรียนวิชาของพระองค์ท่าน กับครูอาจารย์ ที่มีระบุไว้ว่า การเรียนวิชากับหลวงปู่ศุข วัดบางคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก จะร่ำเรียนกันในเวลากลางคืนจนรุ่งเช้า 

น.ต.ภากร ศุภชลาศัย บุตรของหม่อมเจ้าจารุพัตรา พระธิดาในกรมหลวงชุมพรฯ กับหม่อมกิม ได้เล่าถึง " เขียดดูดพิษ " เครื่องรางที่เคยเห็นน้อยมาก ซึ่งแม่ของท่านรับมาจากกรมหลวงชุมพร 

เกร็ดตำนาน "กรมหลวงชุมพร" ในแง่มุมของ ไสยเวท

สมัยหนึ่ง น.ต.ภากรและครอบครัว พักอาศัยในย่านหัวหมากในช่วงเวลาที่ไม่เจริญแบบมุกวันนี้ และมีบ้านว่างอยู่ จึงมีฝรั่งมาขอเช่าอาศัย พร้อมกับมีแม่บ้านชื่อ นางสม มาทำงานด้วย

วันหนึ่ง นางสม แม่บ้าน เกิดถูกตะขาบกัด และแถวนั้นก็ไม่มีโรงพยาบาล ฝรั่งก็มาถาม หม่อมเจ้าจารุพัตรา จะทำอย่างไรดี

หม่อมเจ้าจารุพัตรา จึงบอกบุตรชาย คือ น.ต.ภากรว่า ให้ไปเอาเขียดดูดพิษของเสด็จตามา จากนั้นก็ทำการจุดธูป เทียน บูชาบอกกล่าวกรมหลวงชุมพร ให้ทรงมาช่วยรักษา

จากนั้น น.ต.ภากร ก็นำเขียดเครื่องราง  ครั้งแรกปักผิด ครั้งที่สอง ปักบนแผล ที่น่าแปลกคือ ตัวเขียดดังกล่าว ตั้งตัวตรงแนวขวาง เสมือนกำลังดูดพิษจริง ๆ เพราะผู้บาดเจ็บก็บอกว่า ดีขึ้น และจนพิษถูกดึงออกมาจนหมด 

สำหรับเรื่องราวที่ได้รับการกล่าวขานอีกเรื่องคือ ปั้นเหน่งย่านาค โดย 2 ทายาทในเชื้อสายราชกุศลอาภากร ยืนยันว่า มีอยู่จริง มีพระญาติผู้ใหญ่หลายคนยืนยันว่า เสด็จเตี่ย เคยนำปั้นเหน่งในตำนานนั้นมาไว้ที่วังนางเลิ้ง แต่ใครจะนำมาทูลถวาย หรือได้มาแต่ที่ใด ไม่มีข้อมูล 

ในวังนางเลิ้งนั้น เสด็จเตี่ย มีห้องสองห้องที่เกี่ยวข้องกับไสยเวทของพระองค์ หนึ่งคือ ห้องพระ สองนั้น คือ ห้องเลี้ยงผี ซึ่งคาดว่าปั้นเหน่งน่าจะเก็บไว้ที่ห้องนี้ 

ภายหลัง ปั้นเหน่ง ได้ตกทอดไปยังพลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร จากนั้น ทาง
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร หรือพระองค์ชายกลาง ได้ทรงขอปั้นเหน่งดังกล่าวไป ก่อนที่จะทราบว่าทุกวันนี้ตกทอดไปที่ใด

เกร็ดตำนาน "กรมหลวงชุมพร" ในแง่มุมของ ไสยเวท

 

นอกจากนี้ ด้วยความที่ เสด็จเตี่ย ท่าน เชี่ยวชาญในเรื่องพุทธาคม ไสยเวท และทรงสั่งสอนพระโอรส ธิดา ให้มีความกล้า เข้มแข็ง ทำให้พระองค์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการประหารชีวิตในคดีสำคัญ อย่าง บุญเพ็ง หีบเหล็ก โดยพระองค์พาพระโอรส ธิดา ไปดูการประหารชีวิตครั้งนั้น เพื่อไม่ให้มีความเกรงกลัวในจิตใจ และในขณะที่การประหารดำเนินไป เพชรฆาตไม่สามารถลงดาบปลิดชีพบุญเพ็งได้ กรมหลวงชุมพร ที่ทรงทอดพระเนตรอยู่จึงทรงดำเนินเข้าไปหาบุญเพ็ง และตรัสว่า ถ้ามีของขลังอะไร ก็ขอให้คายออกมา ตัวทำผิดก็ต้องได้โทษ ซึ่งบุญเพ็ง ก็ยินยอม ที่จะคายของที่อมไว้ในปาก ซึ่งในความเป็นจริง สิ่งที่บุญเพ็งค่ยออกมานั้น คือ พระรอด ไม่ใช่ พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า ตามที่เข้าใจกันมาโดยตลอด 

นอกจากนี้ สำหรับเรื่องราวการบูชาเสด็จเตี่ย ที่ถูกต้องถามปากคำของทายาทราชสกุล น.ต.ภากร ได้บอกว่า การจะไหว้หรือสักการะกรมหลวงชุมพร ที่ถูกต้องที่สุด นั่นคือห้ามถวายหมู เพราะ กรมหลวงชุมพร ท่านไม่โปรดเสวยหมู แต่จะทรงโปรด เป็ดย่าง มะตะบะ ข้าวแช่ หรือ พวกอาหารฝรั่ง ดังนั้นจึงขอให้เข้าใจกันใหม่ .

ที่มาข้อมูล : เสวนาพระประวัติกรมชุมพรฯ เรื่อง สรรพวิชาและอาคมในกรมหลวงชุมพรฯ ในกิจกรรมโครงการ กรมหลวงชุมพร 120 ปี นิวัติมาตุภูมิ สู่ราชนาวีสยาม 

logoline