ความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ เกิดจากการสังเกตพฤติกรรมของคนและสัตว์ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งของชาวบ้าน ความเชื่อ ก็คือความเชื่อ แต่ก็ยังมีการเตือนอยู่เสมอว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่"
ข้อห้ามอย่างหนึ่งที่คนโบราณมักนำมาสั่งสอนคนรุ่นหลัง ๆ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการสังเกตพฤติกรรมคน สัตว์ และสิ่งของ ที่พวกเราจะคุ้นกันดีอย่าง จิ้งจกทัก ขณะออกจากบ้าน ท่านว่า วันนั้นเราต้องห้ามออกไปไหนเลยเพราะอาจเกิดอันตรายได้ หรืออย่างเวลากินข้าวร่วมกัน แล้ว ช้อนชนกัน ก็หมายถึงว่า เดี๋ยวจะมีคนมาหา อย่างนี้เป็นต้น แต่จะเป็นเหตุผลอะไรนั้น ก็ยังหาข้อสรุปแน่นอนยังไม่ได้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้เขียนได้ยินมาเรื่องหนึ่งว่า ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่ากินสิ่งนี้ร่วมกัน นั่นก็คือ "เป็ด" เราก็งง ว่าทำไมห้าม เพราะเวลาพักเที่ยงทีไรก็มักกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดบ้าง ข้าวหน้าเป็ดบ้างเป็นประจำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสียเพื่อน คำว่าเสียเพื่อนในที่นี้ไม่ใช่เพื่อนเสียชีวิตนะครับ หากแต่เป็นการทะเลาะกัน เลิกคบกันแบบไม่ดี
คนโบราณมักบอกว่า "ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน ห้ามกินเป็ด" ร่วมกัน ข้อห้ามนี้ยกเว้นคนในครอบครัวนะครับ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติสามารถนั่งกินด้วยกันได้ จะห้ามก็เพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจเท่านั้น
คนอื่นให้มาก็ห้ามรับ หรือทำเลี้ยงคนอื่นก็ห้ามครับ เพราะอะไร...
ความเชื่อที่ว่ากินเป็ดร่วมกันจะทะเลาะกัน ถึงขั้นแตกหักและไม่เผาผีกันเลยทีเดียว อันเนื่องมาจากพฤติกรรมของเป็ด เป็นสัตว์ที่มีนิสัยขี้ตื่นและตกใจง่าย ส่งเสียงร้องโวยวายตลอดเวลา จากการสังเกตพฤติกรรมสัตว์ของคนโบราณนำมาสอนลูกหลาน แต่ถ้ามองอีกนัยหนึ่ง เป็นนั้นเป็นสัตว์ที่มีราคาแพง รสชาติดี จึงไม่ควรจะนำมาเลี้ยงใครพร่ำเพรื่อ ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดอุบายการหวงเนื้อเป็ดไว้ ขาย และประกอบอาหารกินกันเองในครอบครัว เพราะไม่มีข้อห้ามมิให้คนในครอบครัวเดียวกันกินเนื้อเป็ด ความเชื่อห้ามเฉพาะเพื่อนกันเท่านั้น
"ความเชื่อ ก็คือความเชื่อ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง