
เกราะทางปัญญา (เสื้อยันต์) สายวิชชาวัดพระญาติการาม
เรื่องของ เลขยันต์ และ ความศักดิ์สิทธิ์ มีมายาวนาน บนดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้ ในขณะที่คนทั่วไปกำลังมองว่า เรื่องราวอันเกิดจากภูมิปัญญาของบรรพชน เป็นเรื่องเหลวไหล ไม่มีเหตุผล ทว่า ยังมีคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการจะสืบศาสตร์อนุรักษ์ศิลป์แห่งกฤตยาคมเอาไว้ สืบเนื่อง
สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ในฐานะหน่วยงานหนึ่ง ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมในแง่ของการให้ความรู้ในทุกๆ ด้าน และรวมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประเทศ เท่าที่จะทำได้ ได้คิดโครงการนำ เกราะทางปัญญา ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของไทย ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากสำนัก วัดประดู่ทรงธรรม ที่ยังมีการสืบทอดถึงปัจจุบัน มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สังคมทุกคน และประเทศชาติ โดยถ่ายทอดลงบน เสื้อยันต์ เป็นกรณีพิเศษ
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำรายได้ทั้งหมด สมทบทุน โครงการสมโภชเพนียดคล้องช้างหลวงอยุธยา ในวาระทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗ รอบ ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ.ศ.๒๕๕๔
สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ได้อันเชิญสายวิชชาวัดประดู่ทรงธรรมอันเกรียงไกร ซึ่งปัจจุบัน วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ และ วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงสืบทอดวิชชาดังกล่าว มาจนถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่หลวงพ่อกลั่น ธัมมโชติ ซึ่งสืบทอดวิชชาอาถรรพณ์ต่างๆ จาก หลวงพ่อม่วง เจ้าสำนักวัดประดู่ทรงธรรมในสมัยนั้น ที่ยังลงพิชัยสงครามในราชศัสตราวุธที่ วัดตูม อยุธยา ควบคู่กับวัดประดู่ทรงธรรม โดยมีพระยันต์ เฑาะว์ขัดสมาธิ เป็นพระยันต์ศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนัก
พร้อมทั้ง หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ, หลวงปู่ดู่ วัดสะแก, อาจารย์เฮง ไพรวัลย์, หลวงปู่สี วัดสะแก จนมาถึงสมัยปัจจุบัน หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ และ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ได้บรรจุวิชชาทั้งหมดของวัดดังกล่าวข้างต้น ลงบน เสื้อยันต์ ที่ใช้วัสดุผ้าทอขึ้นเป็นกรณีพิเศษ และเป็นการจัดทำครั้งเดียวเท่านั้น
ด้านหน้าของ เสื้อยันต์ สายวิชชาวัดพระญาติการาม ได้จัดทำพิธีบวงสรวงบูชาครู ถ่ายทอดสรรพวิชชาทั้งหมด ลงบนแม่พิมพ์ของหลวงพ่ออั้นอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานาน
แม่พิมพ์ดังกล่าว ประกอบด้วยพระบารมีแห่งชัยชนะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ขึ้นต้นด้วย ขยํ มนุสสานํ แสดงความหมายแห่งชัยชนะ ความสำเร็จทุกประการ ในการทั้งปวงที่ประสงค์จะทำขึ้น
พระยันต์ดังกล่าวนี้ ได้ผูกเป็นรูปสามเหลี่ยมพีรมิด เพื่อเป็นสื่อดึงขุมพลังทั้งมวลจากจักรวาล ลงมาสู่เสื้อยันต์ทะลุมิติที่ ๓ ถึงมิติที่ ๖ อันเป็นมิติเหนือมิติ มีเครื่องหมายรูปองค์พระพุทธเจ้าเสด็จประทับนั่งอยู่เหนือพระยันต์สามเหลี่ยม
เหนือขึ้นไป เป็นสัญลักษณ์ของจักรวาล คือ พระจันทร์ พระอาทิตย์ และอุณาโลม ใต้พระยันต์สามเหลี่ยม เป็นพระยันต์อิติปิโสรัตนมาลา ๑๐๘ นำมาผูกเป็นพระยันต์ มหาจักรพรรดิ มีรูปลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมเจียระไนจนเป็นเหลี่ยมเพชร
พระยันต์จักรพรรดิราธิราช เป็นพระยันต์ที่มีอานุภาพมาก เป็นการรวมเอาไว้ซึ่งคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า และคุณพระสังฆเจ้า จำแนกตามคัมภีร์รัตนมาลา ห้องพระพุทธคุณ ๕๖ ห้องพระธรรมคุณ ๓๘ ห้องพระสังฆคุณ ๑๔ รวมเข้าด้วยกันเป็น ๑๐๘ ถือเป็นพระรัตนตรัย (แก้วสามประการ) เป็นใหญ่กว่ายันต์ทั้งปวง
พระยันต์ลงด้วยกลม้าหมากรุก และกลตรีนิสิงเห โบราณเชื่อกันว่า พระยันต์สามารถห้ามเสียซึ่งภยันอันตรายต่างๆ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
พระยันต์มหาจักรพรรดิ นี้ เป็นหัวใจสำคัญของเสื้อยันต์ เนื่องจากเป็นพระยันต์ที่บันดาลให้เกิดชัยชนะอุดมสมบูรณ์ด้วยลาภยศ วาสนาบารมี แคล้วคลาด ปราศจากอุปสรรค คงทน ทรหด เป็นมหาอุด คงกระพันชาตรี เป็นการหลอมรวมความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด จากวิชชาสายวัดประดู่ทรงธรรม ลงในพระยันต์ดังกล่าวนี้ จึงดีด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ ยังมีมหาเทพอีก ๒ พระองค์ ที่คอยพิทักษ์พระยันต์ดังกล่าว ให้มีอายุยืนยาวเท่ากับกาลเวลาที่ระบบจักรวาลได้ตั้งไว้ คือ พระนารายณ์ สี่กร และ พระคเณศวร สี่กร
พระนารายณ์ เป็นองค์มหาเทพองค์หนึ่ง ใน ๓ องค์ หรือ ตรีมูรติ ในศาสนาฮินดู ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง เป็นมหาเทพในทางปราบสิ่งชั่วร้ายทั้งมวล ในจักรวาล โดยมิมีผู้ใดต่อต้านได้ ทรงจักร สังข์ คทา และตรีศูลเหนือเศียร พระนารายณ์ ลงด้วย ยันต์เฑาะว์ทรหด อุณาโลมล้อมรอบด้วย ไตรสรณคม อันเป็นยอดศีล
ส่วน พระคเณศวรสี่กร ทรงบ่วงบาศ ตรีศูล ค้อน ประคองงวง อันเป็นปางที่ทรงพลังมากที่สุด เหนือเศียรลงด้วยพระยันต์เฑาะว์ ที่เรียกว่า นะ เศกอภิสิทธิ์ หรือ นะ สิทธํ อะ และ สัญลักษณ์ของการทะลุมิติแห่งจักรวาล
พระคเณศวร นี้ ได้รับสมญานามว่า เป็น มหาเทพแห่งการขจัดอุปสรรคทั้งปวง
พระยันต์มหาจักรพรรดิ ดังกล่าวนี้ จึงดีเหนือพระยันต์อื่นใด ด้วยประการทั้งปวง ชนิดครบทุกด้าน เด่นทุกด้านครอบจักรวาล และเป็นการเสริมเสื้อยันต์ให้ดียิ่งขึ้น ได้ผลทันตาเห็น
คณะกรรมการสมาคม และคณาจารย์สายวัดประดู่ทรงธรรม วัดพระญาติการาม ได้คัดเลือกวันอันเป็นธงชัย สำหรับประกอบพิธีเทวาภิเษก ณ วัดพระแก้ววังหน้า อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๘.๐๙ น. ประกอบด้วย โจโร แห่งฤกษ์ที่ ๒๑ อุตตราษตะ เป็นฤกษ์แห่งการจู่โจมปราบปราม ปลุกเสกเครื่องรางของขลังในทุกทางเห็นผลทันตา
โดยเฉพาะ ตรงกับฤกษ์จีนว่า เต้า มีดาวพฤหัสเป็นผู้รักษาฤกษ์ จะทำให้เจ้าของร่ำรวยมหาศาล มีบุญวาสนา ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
สำหรับอีกด้านหนึ่งของเสื้อยันต์ สมาคมได้อันเชิญพระบรมสาทิศลักษณ์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฝีมือศิลปินแห่งชาติ ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ทรงม้าอาชาไนย พระกรข้างหนึ่งทรงพระแสงดาบคาบค่ายอันทรงศักดิ์สิทธิ์ ให้เป็นเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อเป็นการบูชาพระคุณพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงรับสั่งให้มีการบันทึกสรรพวิชชาพิชัยสงครามขึ้น ณ สำนักวัดประดู่ทรงธรรม และวัดป่าแก้ว เป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงประกอบกู้ชาติแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานไทย ได้มีแผ่นดินอยู่ชนิดไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของใคร จารึกไว้ในแผ่นดิน และโลกใบนี้ ด้วยบารมีพระองค์ท่าน จะต้องปกป้องคุ้มครองให้พี่น้องไทยและชาติปลอดภัย อริราชศัตรูที่คิดทำลายชาติทำลายแผ่นดิน จะต้องพ่ายแพ้ในที่สุด รูปวาดนี้ท่านอังคารตั้งใจทำให้เป็นกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ กิตติคุณแห่งหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ หลวงปู่สี วัดสะแก หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ เป็นอย่างไร เสื้อยันต์นี้ก็มีกิตติคุณเสมอเหมือนเช่นเดียวกัน
การมอบเสื้อยันต์นี้ให้คนที่เรารัก แผ่นดินที่เราหวงแหน จึงนับเป็นของขวัญอันล้ำค่าแห่งปีเสือ ๒๕๕๓ ที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง และนับเป็น เสื้อยันต์ที่ทำขึ้นเป็นครั้งแรก ของโลก ที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร
เสื้อยันต์นี้มีลักษณะเป็นเสื้อกั๊ก ไม่มีแขน ผูกเชือกด้านข้าง ดังนั้นจึงสวมใส่ได้ทุกขนาด มี ๒ ชนิด ชนิดแรกใช้ผ้าฝ้ายอย่างดี ทอด้วยมืออย่างประณีตบรรจง มีสี ๒ สี คือ สีแดงน้ำหมาก และสีผ้าขาวดิบ บรรจุอยู่ในถุงผ้า สีเดียวกัน ชนิดที่ ๒ จัดทำด้วยผ้าไหมสีขาวนวล เพียงสีเดียว
ผู้ศรัทธาสนใจติดต่อบูชาได้ที่ สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร โทร.๐-๒๒๒๕-๗๙๔๕, ๐๘-๑๘๓๑-๓๓๔๙
0 บุญนำพา 0