พระเครื่อง

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"พระมหาสังข์" สิ่งมงคลตามธรรมชาติ ของทนสิทธิ์ ที่ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม ใช้ในงานสำคัญ พระราชพิธีต่าง ๆ หนึ่งในราชูปโภคเครื่องใช้ของพระมหากษัตริย์ สิ่งใดออกจากสังข์ล้วนมงคล

"สังข์" อีกหนึ่งสิ่งของมงคล ที่หลายคนนิยมบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่า การบูชา  "สังข์" และ "มหาสังข์" จะสมบูรณ์ ทั้งความสุข ทรัพย์ และความสำเร็จมาสู่ผู้ครอบครอง จึงนับเป็นสิ่งของมงคลตามธรรมชาติ หรือเรียกกันว่าสิ่งคงทนสิทธิ์ ที่ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

"สังข์" เป็นสิ่งมงคลที่มีแต่โบราณมีคติความเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของ "สังข์" ในตำนานฮินดู เล่าขานกันว่า ครั้งหนึ่ง สังข์อสูร ได้ขโมยคัมภีร์พระเวทของพระพรหม และได้กลืนลงท้อง ต่อมา พระนารายณ์ ได้อาสาไปปราบ และได้แหวกหอยสังข์เอาคัมภีร์พระเวทออกมา และปรากฎปาฏิหาริย์รอยนิ้วของพระนารายณ์ บนเปลือกหอยสังข์ จึงกลายเป็นสิ่งมงคล เพราะท้องสังข์เคยบรรจุพระเวทย์ และปากสังข์ที่เป็นรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ 

 

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

นางกำไล หวังประกอบกุล หรือแม่กำไล เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับ เปลือกหอยสวยงาม และเป็นผู้ที่สะสม "มหาสังข์" และ "สังข์บูชา" จำนวนมาก กล่าวว่า "สังข์" มีความสำคัญตามแนวคิดในศาสนาพราหมณ์มาช้านาน มีการใช้ทั้งในพิธีกรรมของราชสำนัก เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพระราชาธิราช รวมถึงยังได้ความนิยมแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป เห็นได้จากคติความเชื่อการนำสังข์มาใช้ในงานมงคลต่าง ๆ อาทิ "สังข์" ที่ใช้รดน้ำ ที่เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่ากำเนิดของ "สังข์" มีความศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าน้ำไหลผ่าน "สังข์" เป็นสิ่งมงคล การใช้ "สังข์" อีกอย่างหนึ่งคือ ใช้เป่าในดนตรีประกอบพิธีกรรม และยังใช้เป่าเพื่อบอกอาณัติสัญญาณ ซึ่งเป็นวิธีการใช้งานมาแต่โบราณ เสียงที่เกิดขึ้นจากการเป่าสังข์มีความก้องกังวาล ทั้งนี้ ความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ เสียงสังข์ถือเป็นเสียงมงคลเพราะมีเสียงคล้ายกับคำว่า โอม ซึ่งเป็นคำศักดิ์สิทธิ์

 

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

 

ความเชื่อเกี่ยวกับ "สังข์"และ "มหาสังข์" 

มีความเชื่อกันว่าอานุภาพของสังข์มงคลจะบังเกิดแก่ผู้ครอบครอง ประกอบด้วย เงินทองไม่ขาดมือ อุดมด้วยทรัพย์สมบัติ บริวาร มีโชคลาภ ทำการงานสำเร็จทุกประการ ป้องกันสิ่งอัปมงคล ภูต ผี ปีศาจ มนต์ดำ โรคภัยต่างๆให้หมดสิ้นไป ทำให้คนรักใคร่เอ็นดู ค้ำชูอุปถัมป์ เป็นที่รักของคนทั่วไป น้ำที่หลั่งออกมาจากปาก "สังข์" มีความศักดิ์สิทธิ์ ดุจน้ำในแม่น้ำคงคา เมื่อนำมารดผู้ใด หรือสถานที่ใดผู้นั้น หรือสถานที่นั้นจะบริสุทธิ์ปราศจากมลทินทั้งปวง เสียงที่ออกมาจาก "สังข์" ดังไปถึงสถานที่ใดสถานที่นั้นเป็นที่มงคล

 

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

"สังข์"บูชาในปัจจุบัน

ปัจจุบันมี "สังข์" หลายชนิดที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้สนใจนักสะสม รวมถึง "มหาสังข์" ที่นิยมบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยหลัก ๆ ที่สำคัญ คือ

สังข์อินเดีย หอยขนาดใหญ่เปลือกหนา รูปร่างเปลือกค่อนข้างป้อม วงเกลียวตัวกลม ส่วนปลายมีร่องยาวปานกลาง ส่วนยอดเตี้ย ช่องเปลือกรูปรี ขอบด้านในมีสัน 3-4 อัน หรือที่เรียกว่า นิ้วมือนารายณ์ นับเป็นหอยสังข์ที่ถูกนำมาใช้บูชามากที่สุด

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

สังข์สุวรรณภูมิ ถือเป็นหอยหายากราคาแพง ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างสังข์สุวรรณภูมิกับสังข์อินเดีย คือ ส่วนหัวของสังข์สุวรรณภูมิ จะเรียวยาว ส่วนที่ใช้หลั่งน้ำก็ยาวกว่า รูปทรงสมส่วน ส่วนใหญ่พบเป็นสีเหลืองทอง รอยต่อระหว่างวงของเปลือกหอยเป็นร่องเห็นได้ชัดเจนต่างจากสังข์อื่น เท่าที่มีการสำรวจและรวบรวมข้อมูล พบสังข์สุวรรณภูมิเป็น "มหาสังข์" ปัจจุบันพบเพียงองค์เดียวในโลก และเป็นที่น่าเสียดาย เมื่อปี 2547 เกิดสึนามิครั้งใหญ่ สังข์สุวรรณภูมิ จึงได้สูญพันธุ์ไป

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

ความแตกต่างระหว่าง "สังข์" บูชาทั่วไปและ "มหาสังข์" สังข์บูชาทั่วไปเป็นสังข์เวียนซ้ายส่วน"มหาสังข์"เป็นสังข์เวียนขวานับเป็นสังข์ที่หายาก และมีความเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า "สังข์" ทั่วไปจึงเป็นที่นิยมของเจ้านายระดับสูง และผู้มีชื่อเสียง ที่มีเก็บไว้บูชา และมักใช้ในพระราชพิธีสำคัญ

วิธีสังเกตสังข์เวียนขวาหรือสังข์เวียนขวาซ้าย

ตามคติพราหมณ์ให้ถือหอยหงายขึ้นเอาทางปลายวนม้วนแหลมออกจากตัวเหมือนถือ "สังข์" ในการรดน้ำ ถ้าช่องเปิดหรือปากหอยอยู่ทางด้านขวามือถือว่าเป็นสังข์เวียนขวา หรือ สังข์ทักษิณาวัฏ ถ้าช่องเปิดอยู่ทางซ้ายมือถือว่าเป็นสังเวียนซ้ายหรือ สังข์อุตราวัฏ  แต่ไม่ว่าจะเป็นสังเวียนขวาหรือสังเวียนซ้าย "สังข์" ทุกขอนล้วนเป็นมงคลเพียงแต่ในแง่ความเชื่อสังข์เวียนขวานับเป็นของวิเศษกว่า

"มหาสังข์" เป็นสังข์ที่มีลักษณะเวียนขวาหรือสังข์ทักษิณาวัฏ ถือเป็นสิ่งมงคลสิ่งที่เป่าออกจาก "มหาสังข์" รวมถึงน้ำเทพมนต์และน้ำพระพุทธมนต์ที่ไหลผ่าน "มหาสังข์" ล้วนถือเป็นความมงคลให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองอุดมสมบูรณ์และยังถือว่าได้รับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

การใช้สังข์ในส่วนที่เป็นพระราชพิธีเฉพาะพระมหากษัตริย์

 นางสาวเพลินพิศ กำราญ ได้ค้นคว้าและรวบรวมไว้ในหนังสือ"พระมหาสังข์พิธี" ว่า มีการใช้สำหรับการพระราชพิธีต่าง ๆ มี "พระมหาสังข์" ดังนี้ พระมหาสังข์ทักษิณาวัฏ พระมหาสังข์เพชรใหญ่ พระมหาสังข์เพชรน้อย พระมหาสังข์ทอง พระมหาสังข์เงิน พระมหาสังข์นาก พระมหาสังข์งา พระมหาสังข์สัมฤทธิ์ พระมหาสังข์เดิม สังข์นคร พระสังข์ข้างที่ สังข์พิธีของหลวง พระมหาสังข์พิธีพราหมณ์ พระมหาสังข์ประจำพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระมหาสังข์ทักษิณาวัฏสำหรับพราหมณ์ (เป่า) สังข์ทั่วไป สังข์สำหรับเป่า และกลศสังข์

อย่างไรก็ตาม สังข์เวียนซ้ายแม้หาได้ง่ายกว่าสังข์เวียนกว่า แต่ เพราะสำหรับนักสะสมเครื่องรางของขลัง มีความเชื่อกันว่าเพียงแค่มีสังข์เวียนซ้ายตัวเล็กๆไว้เป็นสมบัติติดตัว ก็จะช่วยดึงดูดโชคลาภ วาสนา และความสำเร็จได้เช่นกัน และยังมีความเชื่อกันว่าสังข์แต่ละขอนจะเลือกเจ้าของ

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

"พระมหาสังข์" สิ่งคงทนสิทธิ์ ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้ นอกจากกฎแห่งกรรม

ปัจจุบัน จึงมีการขาย "สังข์" ทั้งแบบเวียนขวาและเวียนซ้ายในหมู่นักสะสมของศักดิ์สิทธิ์ ราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาด รูปทรง ตลอดจนลักษณะของริ้วนิ้วพระนารายณ์ที่อยู่บนปากสังข์ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ