พระเครื่อง

ชั่วโมงเซียน-ยันต์ล็อกเกตเสือหลวงพ่อสนั่นวัดกลางราชครูธาราม

ชั่วโมงเซียน-ยันต์ล็อกเกตเสือหลวงพ่อสนั่นวัดกลางราชครูธาราม

28 ก.พ. 2553

การจัดสร้างวัตถุมงคลใน พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่เป็นรูปสัตว์มากสุด คือ “เสือ” ซึ่งเป็นการสร้างที่ตรงกับปีนักษัตร หรือปีขาลนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น เขี้ยวเสือแกะ เสือหล่อแบบต่างๆ ตะกรุดหนังเสือ ผ้ายันต์รูปเสือ รวมทั้งการสักยันต์ลายเสือ

 ทั้งนี้ วัดจะยึดรูปแบบหรือเอกลักษณ์ของเกจิยุคก่อนที่สร้างไว้ โดยมีคติความเชื่อว่า “เสือเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ราชศักดิ์สำแดงฤทธิ์ ทำให้เป็นที่คร้ามเกรง นับถือแก่ปวงชนทั้งหลาย  กำเนิดเสือมหาอำนาจ คุณวิเศษทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด”

 คติความเชื่ออย่างหนึ่ง เรื่องการปริกรรมคาเชื่อกันว่า มีคาถาอยู่ ๒ บท ที่คนมักใช้บริกรรม เพื่อบังเกิดมีสง่าราศรี มีตบะเดชะ เป็นที่ครั่นคร้ามของคนทั้งปวงให้เกรงกลัว เช่น ไปพบผู้ใหญ่ เจ้านาย รวมทั้งหรือเผชิญศัตรู

 บทแรก คือ คาถาพญาเสือโคร่ง ให้บริกรรมโดยเริ่มจากตั้งนะโม ๓ จบ และตามด้วย  "พยัคโฆ พยัคฆา สัญ ญา ลัพ พะ ติ อิ ติ หิ หัม หึม" 

 ส่วนอีกบทหนึ่ง คือ คาถาพญาเสือมหาอำนาจ ให้บริกรรมโดยเริ่มจากตั้งนะโม ๓ จบ  "ตะมัตถัง ปะกาเสนโต ตัวกูคือ พญาพยัคโฆ สัตถาอาหะ พยัคโฆ จะ วิริยะ อิมังคาถามะหะ อิติ ฮ่ำ ฮึ่ม ฮึ่ม"

 นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในปีเสือ คือ วันเสาร์ที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓ ที่จะถึงนี้ เป็นวันเสาร์ห้า คือ วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งโอกาสที่จะเกิดวันเสาร์ห้านั้น ประมาณ ๒-๓ ปีครั้ง ตามคติโบราณจารย์เชื่อว่า ดาวเสาร์เป็นดาวแห่งความเข้มแข็ง และมีพลังมาก หากมีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในวันเสาร์ห้า จะมีพุทธคุณด้านคงกระพัน และแคล้วคลาด โดยจะเห็นได้ว่า ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อมีการประกอบพิธีในวันดังกล่าว วัตถุมงคลส่วนใหญ่มักได้รับความนิยม

 อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบระหว่างการประกอบพิธีในวันข้างขึ้นกับข้างแรม การประกอบพิธีในวันข้างขึ้นจะดี ๑๐๐% ส่วนข้างแรมจะดีประมาณ ๘๐% วัดจัดพิธีพุทธาภิเษกกันเป็นจำนวนมาก เพราะถือว่าเป็นวันแรง และได้ความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก

 หนึ่งในจำนวนวัดที่สร้างเสือ และจัดพิธีพุทธาภิเษกในเสาร์ ๕ คือ วัดกลางราชครูธาราม ต.หันตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ซึ่งมีหลวงพ่อสนั่น สุนนฺโท เป็นเจ้าอาวาส โดยท่านเป็นศิษย์ก้นกุฏิของพระครูวิเศษธรรมวาที หรือหลวงพ่อแพ เกสโร อดีตเจ้าคณะหมวดตำบลหัวตะพาน และเจ้าอาวาสวัดราชครูธาราม ก่อนยุค พ.ศ. ๒๕๐๐ เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖  มรณภาพ พ.ศ. ๒๕๐๘ วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและได้รับความนิยม คือ “ตะกรุดหนังเสือ และหนังวัวตายท้องกลม”

 หลวงพ่อแพ เกสโร พระเกจิผู้เคร่งครัดในวินัยสงฆ์ และเข้มขลังพุทธาคมด้านเสือ ช่วงที่มีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้เดินธุดงค์เสาะแสวงหาเรียนวิชาอาคมทางด้านเสือหลายแห่ง จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในสมัยนั้น

 วัตถุมงคลของท่านที่ยังมีอยู่ เป็นที่หวงแหนกันมาก เพราะเจอประสบการณ์ที่ดีทั้งทางด้านคงกระพัน และเมตตามหานิยม แม้ว่าท่านมรณภาพไปแล้วกว่า ๔๐ ปี แต่หลวงพ่อสนั่น สุนนฺโท  ยังคงมีลูกศิษย์ที่สืบทอดวิชาของท่านไว้ครบ

 วัตถุมงคล รุ่น เสาร์ ๕ รุ่นสร้างบารมี ของหลวงพ่อสนั่น สุนนฺโท มีอักขระเลขยันต์ที่น่าสนใจ คือ ล็อกเกตเสือ ยันต์ด้านซ้ายของผู้อ่าน (จากบนลงล่าง) เป็นคาถาธรณีปริตร ซึ่งพระพุทธเจ้าประทานให้พระนนท์ ที่ว่า “นะ ชา ลี ติ” ซึ่งเป็นคาถาที่มีคุณค่าล้นหาที่เปรียบไม่ได้ ยันต์เป็นยันต์หลักที่หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้ลงผ้ายันต์ รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ ที่ท่านจัดสร้าง โดยเน้นพุทธคุณด้านเมตตา โชคลาภ

 ยันต์ด้านขวาของผู้อ่าน (จากบนลงล่าง) เป็นคาถาหัวใจพญาราชสีห์ ที่ว่า “สี หะ นา ทัง” มีพุทธคุณโดดเด่นทางอำนาจ

 ส่วนมุมทั้ง ๔ ด้าน ลงคาถาหัวใจธาตุ ๔ ที่ว่า “นะ มะ พะ ทะ” หรือ “น้ำ ดิน ไฟ ลม” ซึ่งเรามักจะพูดว่า “ดิน น้ำ ลม ไฟ” ยันต์นี้จะใช้สำหรับลงประกอบรูปภาพสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพเทพ หรือภาพสัตว์ เพราะถือว่าเป็นธาตุของสิ่งมีชีวิต ขาดธาตุใดธาตุหนึ่งก็ไร้ชีวิต

 พุทธคุณยันต์ตัวนี้เน้นทางคงกระพัน โดยสามารถนำมาภาวนาให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง หรือที่คาถาเสกตัวเอง โดยเขียนควงเป็น ๔ คือ “นะมะพะทะ มะพะทะนะ พะทะนะมะ ทะนะมะพะ”

 ยันต์ที่อยู่ด้านบนตัวหนังสือภาษาไทยที่ว่า พญาเสือมหาอำนาจ สร้างบารมี ๕๓ คือ คาถาหัวใจพระไตรปิฎก ที่ว่า “มะ อะ อุ” ซึ่งย่อมาจากตัวเต็ม ว่า “อา ปา มะ จุ ปะ” (พระวินัยปิฎก) “ที มะ สัง อัง ขุ” (พระสุตันตะปิฎก) และ “สัง วิ ทา ปุ กะ ยะ ปะ” (หัวใจพระธรรม  คัมภีร์)

 ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ข่ายเพชรพระพุทธเจ้า หรือยันต์ครอบจักรวาล ซึ่งเป็นยันต์ในตำราพิชัยสงคราม เป็นคาถามหาอำนาจป้องกันภัย ทั้งนี้ในการลากเส้นแต่ละเส้น ต้องภาวนาเรียกอาการ ๓๒ ที่ว่า “เก ษา โล มา นะ ขา ทัน ตา ตะ โจ มัง สัง...”

 ในขณะที่ยันต์ที่อยู่ด้านหลังเหรียญรุ่นแรกนั้น เป็นยันต์  พระเจ้า ๕ พระองค์ “นะ โม พุท ธา ยะ” เขียนแบบ นะ ครอบจักรวาล  โดยใช้ตัวยะเขียนล้อม ตัวในสุด คือ ตัว พุท กับ ธา โดยเขียนคร่อมกันอยู่ ส่วนตัวนอกสุด คือ ตัว ยะ ส่วนตัว นะ เขียนไว้ด้านบน ครอบด้วยอุณาโลม ๙ ชั้น ซึ่งหมายถึง มงคล ๙ นั่นเอง

 ทั้งนี้ ระหว่างการเขียนจะบริกรรมว่า “นะ กา โร โห ติ สัม พะ โว พระ กุ กุ สัน โท จงมาบังเกิดเป็นตัว นะ” แล้วขมวดเป็นอุณาโลม โดยภาวนาว่า “อัง สัง วิ สุ โล พุ สะ พุ พะ” ก่อนจะเขียนยันต์จบด้วยเส้นตรงจะบริกรรมว่า “สัต ถุ โน พุท โธ” การเขียนยันต์ลักษณะนี้ ผู้สร้างเน้นพุทธดีทุกด้าน  กันเสนียดจัญไร ป้องกันภัยทั้งมวล

 ผู้ที่สนใจเครื่องรางประเภทเสือ ในปีเสือนี้หลายวัดหลายสำนักได้สร้างออกมาให้เช่าบูชาเพื่อหาปัจจัยไปบูรณะก่อสร้างศาสนสถานต่างๆ เพื่อให้ผู้ศรัทธาเลื่อมใสร่วมทำบุญบูชา เสือเสาร์ ๕ รุ่นสร้างบารมี กับ หลวงพ่อสนั่น เพื่อหาปัจจัยไปบูรณศาสนสถานของ วัดกลางราชครูธาราม โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐๘-๗๓๔๓-๒๕๒๔, ๐๘-๙๖๙๖-๒๔๐๒
 
ทวัตติงสาการ

 อาการ ๓๒ เป็นคำที่มาจากคติในทางพระพุทธศาสนา ที่ถือว่าร่างกายของคนเราสามารถพิจารณาจำแนกออกเป็นธาตุทั้ง ๔ คือ ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน)  อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ)  เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) และ วาโยธาตุ (ธาตุลม)  ในจำนวนธาตุทั้ง ๔ นี้ มีอยู่ ๒ ธาตุ ที่สามารถจับต้องได้ คือ ปฐวีธาตุ กับ อาโปธาตุ

  ปฐวีธาตุ เป็นธาตุที่มีลักษณะแข้นแข็ง มี ๑๙ อย่าง ประกอบด้วย ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า  กับ มันสมอง อีก ๑ อย่าง รวมเป็นทั้งหมด ๒๐ อย่าง 

 ส่วน อาโปธาตุ เป็นธาตุที่มีลักษณะเอิบอาบ มี ๑๒ อย่าง ประกอบด้วย  ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ มูตร หากเรานับรวม ปฐวีธาตุ และ อาโปธาตุ ก็จะได้ ๓๒ อย่าง เราจึงเรียกว่า อาการ ๓๒ ซึ่งตรงกับภาษาบาลีว่า ทวัตติงสาการ    

 การพิจารณาร่างกายแยกเป็นส่วน ๆ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า อาการ ๓๒ นี้ ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่า ธาตุกัมมัฏฐาน คือ กรรมฐานที่พิจารณาธาตุเป็นอารมณ์ โดยกำหนดพิจารณากายนี้แยกเป็นส่วน ๆ ให้เห็นว่าเป็นเพียงธาตุ ๔  แต่ละอย่างไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา

อ.โสภณ