
ชั่วโมงเซียน-งั่งกับอิ้นสุดยอด..."เครื่องรางแห่งความรัก"
สากลทั่วโลกนั้น ใช้วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันแห่งความรัก ในเบื้องลึกเรื่องของความรัก เรื่องการทำมนต์เสน่ห์ ทั่วโลกก็มีกันมานมนาน ส่วนในไทยก็มีกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้ว จนมีคำพูดติดปากกันมาช้านานที่ว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้
สำหรับเครื่องรางของขลังอันจะสร้างให้เกิดความรักใคร่ เมตตา นำพาความสุข สดชื่นให้แก่ชีวิต และครอบครัว มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง บางท่านที่เชื่อกันว่า เครื่องรางของขลังของท่านนั้นเยี่ยมยอด เรื่องเมตตามหาเสน่ห์ ความรักยิ่งนัก เช่น คาถาอาคมมนต์สะกด ลงนะหน้าทอง แม่นางกวัก สาลิกาคู่ อิ้น งั่ง เป๋อ ผ้ายันต์ ปลัดขิก ตะกรุด ลูกอม ลูกสะกด และพระราหู เป็นต้น
"อิ้น" เป็นเครื่องรางของขลังอีกอย่างหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงเรื่องเมตตามหานิยมเป็นหลัก มีลักษณะเป็นรูปผู้ชาย ผู้หญิง ยืนหรือนั่งโอบกอดกัน ซึ่งผู้สร้างตั้งใจสร้าง เพื่อเอาไปใช้ในด้านนี้โดยเฉพาะ
อิ้น ประวัติดั้งเดิมไม่เป็นที่กล่าวแน่ชัด ว่าชนชาติใดเป็นผู้คิดสร้างเป็นชาติแรก ซึ่งในต่างประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านติดกับประเทศไทยเรา ก็มีผู้นิยมนำมาใช้กันโดยแพร่หลายเช่นกัน
ในประเทศไทยเรานั้น อิ้น เป็นที่นิยมใช้กันโดยแพร่หลายมาทางภาคเหนือก่อน แล้วแพร่หลายมาทางภาคอีสาน ภาคกลาง
แต่ปัจจุบัน อิ้นเป็นที่นิยมกันทั่วประเทศ มีทั้งพระเกจิอาจารย์และฆราวาสเป็นผู้สร้างกันมากมายหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่าน จะปลุกเสกโดยคำนึงถึงพุทธคุณว่าด้วยเมตตามหานิยม ลุ่มหลงรักใคร่ และโภคทรัพย์ เป็นหลัก
อิ้น ที่สร้างจากยุคเก่า และยุคใหม่ มีการสร้างด้วยกันหลายเนื้อ หลายขนาด มีทั้งขนาดบูชา และพกติดตัวได้
เนื้อที่สร้าง เช่น งาช้าง เนื้อไม้มงคลต่างๆ เนื้อผงว่าน ๑๐๘ เนื้อดินธาตุต่างๆ และเนื้อโลหะ เป็นต้น
คาถากำกับอิ้น ว่าด้วย “อิ้นเอ๋ย อิ้นแก้ว อิ้นฮัก อิ้นหุม อิ้นกอดคอแยง อิ้นแป๋งใจฮัก แป๋งผัว แป๋งเมีย แป๋งตั้วชู้ฮัก ฮักเฮาแต่เน้อ ฮักเฮาแต่เน้อ โอมสวาโหม”
ด้านพุทธคุณ ไม่ว่าจะสร้างจากเนื้อไหนๆ ด้านพุทธคุณเน้นอย่างเดียวกันหมด ส่วนจะมีความขลังมากน้อยนั้น คงขึ้นอยู่กับคาถาและสมาธิของผู้ที่ปลุกเสกอิ้นนั้นๆ
ผู้ใช้อิ้นเชื่อว่า เรื่องความรักกับเพศตรงข้ามนั้น เห็นผลได้เร็วยิ่งนัก ยิ่งมีคาถาอาคมคอยท่องช่วยกำกับอยู่ตลอดด้วยแล้ว ความขลังยิ่งเยี่ยมยอดเป็นทวีคูณ
ในขณะที่ "งั่ง" เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง นิยมใช้กันมากทางแถบภาคอีสานเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะคล้ายคลึงกันกับพระฤกษ์ พระชัยของอยุธยา
ด้านพุทธคุณ ความจริงงั่งเน้นโดดเด่นไปทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี แต่พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และเรื่องรักใคร่ ก็มีความขลังไม่ยิ่งหย่อนเลย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแม่นางกวักนั้นโด่งดังมานานแล้วเรื่องกวักเรียก นอกจากกวักเรียกเงิน กวักเรียกทอง แต่เรื่องความรัก แม่กวักเรียกได้ไม่แพ้ใครเลย
เกจิอาจารย์ที่ได้สร้างเครื่องรางของขลังเป็นรูปแม่นางกวัก จนมีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่ยอมรับว่า ท่านปลุกเสกมนต์คาถาได้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เช่น แม่นางกวัก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ท่านเป็นผู้สร้างและปลุกเสกแม่นางกวักไว้จำนวนมาก และโด่งดังที่สุด ส่วนมากจะมีขนาดที่ห้อยคอ หรือพกพาติดตัวได้ง่าย
ท่านได้สร้างด้วยกันหลายเนื้อ หลายแบบ มีทั้งที่สร้างจากเนื้องาช้าง เนื้อไม้ และเนื้อโลหะผสม เป็นแบบนั่งกวักหน้าเดียว กวัก ๒ หน้า หรือหน้าพระพุทธประจำวัน หลังนางกวัก หรือหน้านางกวัก หลังแกะเป็นปีเกิด เช่น ปีเถาะ รูปกระต่าย ปีระกา รูปไก่ ปีขาล รูปเสือ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีนางกวัก ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม หลวงปู่ท่านได้สร้างไว้ด้วยกันหลายเนื้อ หลายขนาด มีทั้งขนาดบูชา องค์ใหญ่ และขนาดห้อยคอ
นางกวัก หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่ออิ่มก็เป็นเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งของชาวสุพรรณบุรี ที่มีวิชาอาคมแก่กล้า ไม่เป็นสองรองใคร ในการสร้าง ปลุกเสกแม่นางกวัก ร่ำลือกันมาช้านาน เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป
นอกจากนี้แล้ว พระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าๆ ยังมีอีกหลายท่านที่ได้สร้างและปลุกเสกแม่นางกวักเอาไว้ แต่คงไม่มากนัก ซึ่งปัจจุบันก็เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสมเครื่องรางทั่วไป
เช่น แม่นางกวัก ของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี ที่แกะจากกัลปังหา แม่นางกวัก ของหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา ที่แกะจากไม้มงคล แม่นางกวัก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท แกะจากงาช้าง และไม้มงคล
“ปลัดขิก” ก็เป็นเครื่องรางอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทุกคนอยู่แล้ว ด้านพุทธคุณก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ คนรัก คนใคร่ โภคทรัพย์ ค้าขายดี เกจิอาจารย์ และฆราวาสได้สร้างกันเอาไว้มากมายด้วยกันทุกภาค ทั่วประเทศ
เช่น ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา ส่วนที่เป็นฆราวาส ที่มีชื่อเสียงมากก็ได้แก่ ปลัดขิกงาช้าง อาจารย์เฮง ไพรยวัลย์ อยุธยา เป็นต้น
“ลูกอม ลูกสะกด” ของหลายๆ สำนัก ที่ปลุกเสกโดยเน้นพุทธคุณทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ และเรื่องความรักใคร่ เท่าที่ทราบก็จะมีลูกอม ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม ลูกอม หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กทม. ลูกอมผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง ลูกสะกด ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท เป็นต้น
“ผ้ายันต์” ต่างๆ ก็มีหลากหลายอาจารย์ ที่ได้สร้างเอาไว้ โดยที่เน้นปลุกเสกพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โภคทรัพย์ ค้าขายดี เป็นศรีกับเพศตรงข้าม ก็มีหลายอาจารย์ เช่น ผ้ายันต์หงษ์คู่ หงษ์เดี่ยว ของหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี หรือทางเหนือก็มี ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ของครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก ที่กำลังโดดเด่น ฮือฮากันในขณะนี้
“ตะกรุด” มีการสร้างกันมากมายหลายสำนักทั้งเก่า ใหม่ ตะกรุดที่มีขนาดใหญ่ (ตะกรุดโทน) ส่วนใหญ่จะเน้นปลุกเสกพุทธคุณไปทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ปกป้องคุณไสยเป็นหลัก
ส่วนตะกรุดที่มีขนาดเล็ก (สาลิกา) ไม่ว่าจะสร้างจากเนื้อใดๆ ก็ตาม ส่วนใหญ่จะปลุกเสกเน้นไปทางเมตตามหาเสน่ห์ เรื่องรักใคร่เสียมากกว่า
“กะลาแกะราหูอมจันทร์” ก็ขึ้นชื่อว่า มีพุทธคุณเรื่องความรักใคร่ไม่ยิ่งหย่อนกว่าเครื่องรางชนิดอื่นเลย พุทธคุณนอกจากจะเชื่อว่า ช่วยดลบันดาลให้เรื่องร้ายๆ กลับกลายเป็นเรื่องดีงามได้แล้ว กะลาแกะพระราหูอมจันทร์ นี้ยังช่วยให้เรื่องความรักนั้นสมหวัง แม้แต่กระทั่งคนที่เคยชัง ยังให้กลับมารักดั่งเดิมได้
แต่ด้วยเหตุประการใดๆ ก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะมีเครื่องรางของขลังประเภทใด เกจิอาจารย์ไหนๆ พกใช้อยู่ก็ตาม หากต้องการใช้เพื่อไปจีบสาว หรือจีบหนุ่ม ให้เขามาหลงรักใคร่เรา ก็อย่าลืมพกเอาความจริงใจไปเยอะๆ ด้วยนะครับ จะได้รับความสำเร็จไวๆ
นุ เพชรรัตน์