พระเครื่อง

"การเช่าพระ เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง"'สันติ วิลาสศักดานนท์' ประธานสภาอุตสาหกรรม

"การเช่าพระ เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง"'สันติ วิลาสศักดานนท์' ประธานสภาอุตสาหกรรม

14 ก.พ. 2553

นักสะสมพระเครื่อง ที่มิใช่ เซียนพระ ผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายพระเครื่องโดยตรง แต่เป็นผู้ที่ได้ให้ความสนใจในการสะสมพระเครื่องมานานปี โดยเห็นว่า การเช่าบูชาพระเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ดีกว่าเอาเงินไปเล่นการพนัน

 ที่ได้นำเรื่องราวอันน่าสนใจของท่านมาเผยแพร่ในวันนี้ ก็คือ  คุณสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), กรรมการบริษัทอื่นๆ ในเครือสหพัฒน์ (ประมาณ ๒๐๐ บริษัท) กรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ฯลฯ

 พื้นเพเดิมของ คุณสันติ วิลาสศักดานนท์ เป็นชาวคลองจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช โดยกำเนิด ที่บ้านเป็นร้านขายอาหาร สมัยเป็นเด็ก เรียนหนังสือชั้นประถมที่โรงเรียนเจริญวิทย์ และชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนสหวิทยากร ถัดจากโรงเรียนไปไม่ไกลนัก จะเป็นที่ตั้งของ วัดสวนขัน ที่มี พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พำนักอยู่

 ช่วงนั้น ด.ช.สันติก็มีโอกาสได้เข้าไปกราบไหว้พ่อท่านคล้ายอยู่เสมอ พร้อมกับขอ ชานหมาก จากท่านด้วย

 ต่อมา พ่อท่านคล้ายได้มาสร้างวัดขึ้นใหม่ ริมทางรถไฟสายใต้ คือ วัดจันดี หรือ วัดพระธาตุน้อย โดยจำลองเจดีย์มาจากวัดพระมหาธาตุ ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช

 วัดจันดี หรือ วัดพระธาตุน้อย แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณสันติมากนัก ทำให้ง่ายต่อการไปกราบไหว้พ่อท่านคล้ายได้บ่อยขึ้น พอดีกับช่วงนั้น มีชาวหาดใหญ่คนหนึ่งชื่อ โกหย่วน มาขออาศัยอยู่ที่บ้านของคุณสันติ โดยทุกเช้าโกหย่วนจะไปปรนนิบัติรับใช้พ่อท่านคล้าย พร้อมกับนำปิ่นโตใส่อาหารที่คุณแม่ของคุณสันติฝากไปถวายพ่อท่านคล้าย เป็นประจำทุกวัน พอตกเย็นก็จะกลับมานอนที่บ้าน บางวันก็เอา ชานหมาก พ่อท่านคล้ายมาฝาก และในวันที่ไม่ได้ไปโรงเรียน คุณสันติก็จะตามโกหย่วนไปที่วัดจันดี เพื่อขอชานหมากบ้าง ขอให้พ่อท่านเป่ากระหม่อมและลูบหัวให้บ้าง (ชาวบ้านเรียกว่า "ตบหัว") ซึ่งพ่อท่านคล้ายจะเมตตาทำให้เสมอ พร้อมกับอวยพรให้ด้วยว่า "ให้เป็นสุขๆ เจริญๆ นะตัวหนุ่ย" (ตัวหนุ่ยหมายถึงเด็กๆ หรือตัวเล็กๆ) ช่วงนั้น คุณสันติจึงมี ลูกอมชานหมากของพ่อท่านคล้ายมากมายพอสมควร

 ต่อมาเมื่อเรียนจบชั้นมัธยมต้นแล้ว คุณสันติได้เข้ากรุงเทพฯ เรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ พญาไท จากนั้นสอบเอนทรานซ์เข้าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนจบหลักสูตรปริญญาตรี บัญชีบัณฑิต พร้อมกับเรียนควบหลักสูตรปริญญาตรี พาณิชยศาสตรบัณฑิต จากคณะเดียวกัน

 จากนั้นได้เรียนต่อระดับปริญญาโทการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ และปริญญาโท การจัดการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาฯ

 ตลอดเวลาที่เรียนมหาวิทยาลัย คุณสันติ ได้ห่างเหินจากบ้านที่จันดีไปนานพอสมควร เมื่อมีโอกาสกลับไปที่บ้านอีกครั้ง ปรากฏว่า ลูกอมชานหมากพ่อท่านคล้าย ที่เก็บไว้ในกระป๋องนม ถูกชาวบ้านมาขอไปจากคุณแม่จนหมดสิ้น นับเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง

 ต่อมา ได้เข้าทำงานฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารไทยทนุ จำกัด จากนั้นไปเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอาวุโส สำนักงานตรวจสอบบัญชีคูเปอร์แอนด์ลีแบรนด์ ทำอยู่ ๓ ปี ก็ได้รับโชคดี ๒ ชั้น คือได้แต่งงานกับหลานสาวของ นายห้างเทียม โชควัฒนา ประธานเครือบริษัทสหพัฒนพิบูลย์ จำกัด พร้อมกับได้งานใหม่ทำในเครือบริษัทสหพัฒน์ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๓ จนถึงทุกวันนี้

 คุณสันติ ได้ให้ความสนใจในเรื่องพระเครื่องอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้ทำงานในตำแหน่งที่ดีขึ้น และมีเงินเดือนมากขึ้นด้วย รวมทั้งพอมีเวลาว่างอยู่บ้าง

 ด้วยความผูกพันกับ พ่อท่านคล้าย มาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้อดเสียดายพระเครื่อง และลูกอมชานหมากของท่านที่หายไปไม่ได้ จึงคิดว่า จะต้องหาพระของพ่อท่านคล้ายมาใหม่ โดยเริ่มจากการซื้อหนังสือพระมาอ่านหลายเล่ม เพื่อจะได้รู้ว่าพระของพ่อท่านคล้ายมีอะไรบ้างที่พอจะหาเช่าได้ แต่ก็โชคดีที่ไม่ต้องเสียเงินเช่าหา เพราะมีผู้ใหญ่และเพื่อนๆ เอามาให้ฟรีๆ เพราะเขารู้ว่า คุณสันติเป็นลูกศิษย์พ่อท่านคล้ายมาก่อน

 ต่อมาได้ซื้อนิตยสาร พรีเชียส ของ ผศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ มาอ่าน จึงได้เห็นภาพพระสมเด็จอยู่เสมอ ทำให้เกิดความสนใจพระสมเด็จขึ้นมาด้วย พอดีกับช่วงนั้น มีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งประสบปัญหาการเงิน จึงเอาพระสมเด็จ บางขุนพรหม มาปล่อยองค์หนึ่ง โดยเอาไปให้เซียนพระตรวจดูก่อน เมื่อยืนยันว่าเป็นพระแท้ก็รับเช่าเอาไว้ นับเป็นพระสมเด็จ องค์แรกในชีวิต

 ขณะเดียวกัน ช่วงที่ได้เรียนวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ ๓๕๕ ได้รู้จักกับข้าราชการผู้ใหญ่หลายท่าน แต่ละท่านล้วนมีพระเครื่องดีๆ ที่เป็นพระยอดนิยมใช้ติดตัวทั้งนั้น จึงมีโอกาสได้สัมผัสกับพระยอดนิยมต่างๆ อยู่เสมอ ในบางวันก็ได้ชวนกันไปหา พ.อ.สกุล อาริยะ ผู้ได้ชื่อว่าชำนาญ พระสมเด็จ จิตรลดา จึงมีโอกาสได้ศึกษาพระแท้องค์จริงในคราวนั้นด้วย พร้อมกับได้รับคำแนะนำจาก พ.อ.สกุล อยู่เสมอ จนทุกวันนี้สามารถดู พระสมเด็จ จิตรลดา ได้แล้วในระดับหนึ่ง รวมทั้งพระเครื่องอื่นๆ ที่วงการพระนิยมกัน

 นอกจากพระกรุพระเก่าแล้ว คุณสันติยังให้ความสนใจพระใหม่ที่พระเกจิอาจารย์ยุคปัจจุบันปลุกเสกออกให้ทำบุญบูชาอีกด้วย โดยเห็นว่า เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง เพราะเงินที่ทางวัดได้ไปนั้น ก็ล้วนเอาไปบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆ ภายในวัด สร้างโบสถ์ วิหาร กุฏิสงฆ์ เป็นการกุศลทั้งนั้น

 การทำบุญบูชาพระใหม่ของคุณสันตินั้น มักจะทำบุญคราวละมากๆ เป็นเงินหลักแสนขึ้นไป พระที่ได้มานั้นก็จะเอาไปแจกให้แก่ผู้ร่วมงานตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ หรือที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ฯลฯ ในโอกาสที่เห็นสมควร

 การทำบุญเช่นนี้ ทำให้เกิดความสุข เกิดความปิติ ๒ ทาง คือ ได้ทำบุญกับวัดเป็นการกุศล ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ได้รับพระแจก มีความรู้สึกที่ดีต่อผู้ให้อีกด้วย

 นอกจากการสะสมพระเครื่องแล้ว คุณสันติยังนิยมสะสมนาฬิกาทั้งของเก่าและของใหม่ โดยเฉพาะนาฬิกาปาเต ที่ได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาชั้นนำของโลกอีกด้วย รวมทั้งการสะสมภาพเขียนของศิลปินชื่อดังในเมืองไทยอีกหลายท่านด้วยกัน

 ตลอดชีวิตที่ผ่านมา คุณสันติมีความสุขกับทำงานมาตลอด โดยยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริตในหน้าที่การงาน ขยันหมั่นเพียรอยู่เสมอ รวมทั้งการเอาใจใส่ผู้ร่วมงาน ด้วยความรักความเมตตาโดยทั่วหน้า
 
 ปัจจุบัน คุณสันติ มีตำแหน่งงานเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), กรรมการบริษัทอื่นๆ ในเครือสหพัฒน์ (ซึ่งมีอยู่ประมาณ ๒๐๐ บริษัท), กรรมการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ฯลฯ และ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

 นับเป็นผู้บริหารองค์กรขนาดใหญ่ ที่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างน่าภาคภูมิใจ