พระเครื่อง

'แดง รามอินทรา'คนหนุ่มสายเลือดใหม่ผู้ชำนาญพระ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว

'แดง รามอินทรา'คนหนุ่มสายเลือดใหม่ผู้ชำนาญพระ หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว

31 ม.ค. 2553

เซียนพระ สายเลือดใหม่อีกคนหนึ่งของวงการพระเครื่องเมืองไทย ที่กล่าวได้ว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจบนเส้นทางสายนี้ ก็คือ

 สมหวัง นกสวน เจ้าของฉายา แดง รามอินทรา ในวัยที่ยังไม่เต็ม ๔๐ ปีดีนัก แต่มีโอกาสเป็นเจ้าของพระเงินล้านมาแล้วหลายองค์ จากชีวิตที่ผ่านมาอย่างยากเข็ญ กลายเป็น เซียนพระ ผู้มีสายตาเฉียบขาด จนได้รับความเชื่อจากผู้คนในวงการพระอย่างกว้างขวาง

 แดง รามอินทรา เล่าย้อนอดีตของตัวเองว่า "ผมเป็นชาวเมืองอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยกำเนิด ต่อมาพ่อแม่ได้ย้ายไปอยู่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผมจึงได้เรียนหนังสือที่นั่น จบชั้นมัธยมต้น พ่อแม่ต้องรีบส่งตัวไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะตอนเด็กๆ ผมเกเรมาก มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนๆ อยู่เสมอ ประเภทกองหน้ากล้าลุย ไม่มีความเกรงกลัวใครทั้งสิ้น พ่อแม่คงเห็นว่าขืนให้ผมอยู่ที่ผักไห่ต่อไปก็คงเสียคนอย่างแน่นอน จึงวางแผนให้ผมเหินห่างเพื่อนรักนักลุยด้วยกัน งานที่ผมทำที่กรุงเทพฯ คือ งานเจียระไนเพชร พลอย แถวถนนนวลจันทร์ พอถึงปี ๒๕๔๐ เศรฐษกิจเมืองไทยก้าวเข้าสู่วิกฤติการณ์ ที่เรียกว่าฟองสบู่แตก โรงงานเจียระไนเพชร พลอย ที่ทำอยู่ประกาศเลิกกิจการ ต้องปลดพนักงานออก โดยจ่ายเงินชดเชยให้ตามกฎหมายแก่พนักทุกคน ผมกับเพื่อนพนักงานเลยตกงานไปตามๆ กัน

 ผมเห็นว่า ขืนอยู่ในสภาพนี้ เงินที่ได้รับการชดเชย จะต้องหมดไปในวันใดวันหนึ่งอย่างแน่นอน จึงต้องหางานใหม่ทำ ด้วยการไปเข้าวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แถวถนนรามอินทรา พอมีรายได้ไปวันๆ และที่วินรถมอเตอร์ไซค์แห่งนั้น มีแผงเลี่ยมพระอยู่ด้วย พอมีเวลาว่างจากผู้ว่าจ้าง ผมก็ไปยืนดูเขาเลี่ยมพระ คุยกันไปคุยกันมาก็ถูกอัธยาศัยกันดี ขณะเดียวกัน ก็ได้เห็นช่างเลี่ยมพระคนนั้น มีการซื้อขายพระกันด้วย บางวันเห็นเขาได้กำไรหลายร้อยบาท โดยไม่ต้องเหนื่อยยากอะไรมากนัก ทำให้ผมเกิดความสนใจในการซื้อขายพระ เหมือนกับเขาบ้าง จึงได้เช่าพระบางองค์จากช่างเลี่ยมพระคนนั้น จนเกิดความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพิมพ์ทรงองค์พระต่างๆ ได้พอสมควร"

 ความจริงแล้ว แดง เคยรู้เรื่องพระมาบ้างแล้ว สมัยที่ยังเป็นเด็กอยู่ที่ผักไห่ เพราะคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ในละแวกบ้าน ต่างก็มีพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค กันทั้งนั้น เพราะที่บ้านอยู่ไม่ไกลจากวัดหลวงพ่อปานเท่าใดนัก จำได้ว่า สมัยเด็กๆ เคยหยิบพระหลวงพ่อปานของคุณพ่อไปขายให้ชาวบ้านที่ชอบพระหลวงพ่อปาน ได้เงินมาหลายร้อยบาท ดีใจมาก ทำให้รู้ว่าพระองค์เล็กๆ อย่างนี้สามารถขายได้ด้วย แต่ความเป็นเด็กก็คือเด็ก ไม่ได้สนใจที่จะเอาพระของคุณพ่อไปขายอีก เพราะสนุกสนานอยู่กับความเกะกะเกเรมากกว่า เมื่อมาพบเห็นการซื้อขายพระอีกครั้งหนึ่ง ที่วินมอเตอร์ไซค์ จึงเกิดความคิดว่า อาชีพซื้อขายพระน่าจะเอาตัวรอดจากความอดอยากได้ง่ายกว่า จึงเริ่มซื้อขายพระตามที่ต่างๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีความชำนาญอะไรมากนัก