
"พระเล่นเครื่องไฟ"พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณวัดโกรกกราก
วันแซยิดหลวงพ่อปู่ เป็นชื่อเดิมของงานเทศกาล ปิดทองประจำปี หลวงพ่อปู่-หลวงปู่กรับ วัดโกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตรงกับวันกลางเดือนยี่ (ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๒) ของทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๒-๕ มกราคม
ความพิเศษของการจัดงานปิดทองประจำปี หลวงพ่อปู่-หลวงปู่กรับ ไม่ได้อยู่ที่หนัง ลิเก ดนตรี ฟรีเท่านั้น หากใครได้ไปเที่ยวงานในช่วงวันดังกล่าวจะเห็นความอลังการของการประดับไฟฟ้าด้วยหลอดไฟนานาชนิดนับแสนดวง หลายคนอาจจะคิดไปก่อนว่า "ไฟที่ประดับทั้งหมดนั้นวัดไปจ้างคนมาประดับ" แต่แท้ที่จริงแล้ว "หลอดไฟทุกดวงเป็นของวัด ที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ กระแสไฟที่จ่ายให้แสงสว่างนั้นมาจากเครื่องปั่นไฟของวัด ชนิดที่เรียกว่าเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าย่อมๆ เลยก็ว่าได้ เครื่องปั่นไฟของวัดทุกเครื่องสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ มูลค่าของเครื่องปั่นไฟรวมแล้วน่าประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท"
พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ (พระมหาสัมฤทธิ์ วิสุทฺธสีโล) เจ้าคณะตำบลโกรกกราก และเจ้าอาวาสวัดโกรกกรากองค์ปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า เครื่องปั่นไฟเครื่องแรกของวัดอายุเกือบ ๑๐๐ ปีแล้ว โดยมีคนนำมาถวายพระครูธรรมสาคร หรือ หลวงปู่กรับ ญาณวฑฺฒโน อดีตเจ้าอาวาสวัดโกรกกราก และเจ้าคณะตำบลมหาชัย เขต ๒ ในสมัยนั้นถือว่าเป็เครื่องปั่นไฟที่ใหญ่และทันสมัยมาก
จากนั้นก็มีคนนำมาถวายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งบางส่วนวัดก็ซื้อเองบ้าง โดยเฉพาะในช่วงที่พระครูสังฆกิจจาภิรักษ์ หรือ หลวงพ่อชู เป็นเจ้าอาวาสวัดโกรกกราก ท่านซื้อมามาก ขณะเดียวกันก็มีคนนำมาถวายมากเช่นกัน
ส่วนในสมัยตนเป็นเจ้าอาวาสก็ซื้อมา ๔ ตัว โดยตัวล่าสุดซื้อมาราคาประมาณ ๓ ล้านบาท
ในการซื้อเครื่องปั่นไฟแต่ละครั้งนั้น ส่วนใหญ่คณะกรรมการวัดและไวยาวัจกรจะเห็นด้วย ด้วยเหตุที่ว่าวัดโกรกกรากมีชื่อเรื่องการติดไฟประดับวัดในงานปิดทองประจำปี หลวงพ่อปู่-หลวงปู่กรับ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ตลอดงาน ๗ วัน ๗ คืน ใช้น้ำมันประมาณ ๒๗,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ลิตร โดยมีคณะศรัทธาจากชาวประมงและชาวบ้านที่มีต่อหลวงพ่อปู่และหลวงปู่กรับ ได้ปวารณาทำบุญถวายน้ำมันถวายหลวงปู่ตลอดทั้งงานทุกๆ ปี โดยไม่ต้องบอกบุญ
"ไฟฟ้า ๑๐๐,๐๐๐ ดวง ต้องใช้เวลากว่า ๒ เดือนในการประดับไฟ ในช่วงมีงานต้องใช้แรงงานประมาณ ๑๓-๑๕ คน เครื่องปั่นไฟและไฟฟ้าของวัดสร้างมาจากศรัทธาของญาติโยมที่มีต่อหลวงพ่อปู่-หลวงปู่กรับ ซึ่งเจ้าอาวาสทุกรูปต่างก็รักษาเครื่องปั่นไฟของวัดไว้ แต่ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่กรรมการวัดไม่เข้มแข็ง เครื่องปั่นไฟบางส่วนก็ถูกขายออกไป ซึ่งเป็นเรื่อที่น่าเสียดาย ส่วนเจ้าอาวาสรูปต่อๆ ไปจะรักษาหรือไม่นั้น หากเราวางรากฐานที่ดีไว้ เชื่อว่าท่านต้องสานนโยบายต่อ" พระมหาสัมฤทธิ์กล่าว
พร้อมกันนี้ พระมหาสัมฤทธิ์ยังบอกด้วยว่า ในช่วงงานปิดทองประจำปี หลวงพ่อปู่-หลวงปู่กรับ เครื่องปั่นไฟที่วัดถูกออกนำมาใช้ทุกตัว สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ๙,๐๐๐ แอมป์ เมื่อเสร็จงานแล้วจะนำไปช่วยวัดอื่นๆ ที่ขอเข้ามา ทั้งนี้ทางวัดได้เตรียมรถบรรทุกสิบล้อ พร้อมเครื่องปั่นไฟไว้ให้ เพียงแต่วัดนั้นๆ บอกงานมาเท่านั้น
ในกรณีที่วัดใดหากต้องการเครื่องปั่นไฟมากกว่านี้ ก็สามารถเอารถมาบรรทุกไปได้ทันที โดยทางวัดจะจัดคนงานไปช่วยอีก ๒-๓ คน ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัดใน จ.สมุทรสาคร
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีภาคเอกชนมาขอเช่าเพื่อไปใช้งาน แต่ก็ตอบปฏิเสธไป โดยแนะนำให้ไปเช่าจากเอกชนด้วยกัน โดยมีความคิดว่า เครื่องปั่นไฟเป็นของวัด ต้องช่วยงานบุญและงานวัดเท่านั้น
เมื่อถามถึงความคุ้มทุนและคุ้มค่าของการซื้อเครื่องปั่นไฟราคาหลายล้านบาทมาใช้งานวัดงานเดียว พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณพูดไว้อย่างน่าคิดว่า "อย่ามองโลกด้านเดียว คุ้มหรือไม่คุ้ม สิ้นเปลืองหรือไม่สิ้นเปลืองอยู่ที่มุมมองและการตัดสินใจของคน ถ้าไม่สร้างก็ไม่มี ที่มีอยู่ก็เพราะคนรุ่นก่อนสร้างไว้ เมื่อมาถึงรุ่นเรานอกจากบูรณะและรักษาสิ่งที่คนรุ่นก่อนสร้างไว้ หากเรามีพลังพอก็ควรจะสร้างเพิ่มเติม"
ชาติภูมิ
"สัมฤทธิ์ เดชเกตุ" เป็นชื่อและสกุลเดิมของ พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ (พระมหาสัมฤทธิ์ วิสุทฺธสีโล) เกิดวันจันทร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓ บิดาชื่อ นายพร มารดาชื่อ นางฉะอ้อน บ้านเลขที่ ๘๓ หมู่ ๑ ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
อุปสมบทเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๒๓ ณ พัทธสีมาวัดโกรกกราก มีพระครูสาครกิตติคุณ วัดโกรกกราก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุวัฒน์สาครกิจ วัดสามัคคีศรัทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระพงษ์ศักดิ์ โชคิปาโล วัดโกรกกราก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “วิสุทฺธสีโล”
วิทยฐานะ นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม ๓ ประโยค พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นเจ้าอาวาสวัดโกรกกราก พ.ศ.๒๕๔๕ เป็นเจ้าคณะตำบลโกรกกราก พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนาม "พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ"
ช่วงตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้มาปรับปรุงพัฒนาวัด เนื่องจากวัดติดกับแม่น้ำท่าจีน ทำให้เวลาน้ำทะเลหนุนจะท่วมพื้นที่ภายในวัด และบริเวณรอบด้าน พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณได้สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมวัดและบูรณปฏิสังขรณ์ศาลา กุฏิที่ชำรุดทรุดโทรม เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ทางวัดได้จัดซื้อที่ดิน ขยายอาณาเขตของวัดออกไปอีก ๑๐ไร่ เป็นเงิน ๒๐ ล้านบาท และถมดินไปประมาณ ๕ ล้านบาท ซึ่งรายได้จากการซื้อที่ ทางวัดโกรกกราก ได้นำเงินจากการจำหน่ายวัตถุมงคล สมเด็จหลวงพ่อปู่ รุ่นสัมฤทธิ์ผล ๑ ซึ่งจัดสร้างเป็นรุ่นแรก
พ.ศ.๒๕๕๐ ทางเจ้าอาวาสได้ออกวัตถุมงคล สมเด็จหลวงพ่อปู่ และ หลวงปู่กรับ รุ่น สัมฤทธิ์ผล ๒ ทรงกรม ขนาด ๕ เซนติเมตร และ ๓.๒ เซนติเมตร เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อทองแดง เนื้อผง โดยทำพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
สำหรับรายได้จากการให้บูชาพระ และการจัดงานประจำปีในครั้งนี้ ท่านเจ้าอาวาสจะได้นำไปสมทบทุนก่อสร้างเมรุแห่งใหม่แทนของเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมมาก โดยใช้งบประมาณ ๑๒ ล้านบาท ขณะนี้ได้ก่อสร้างไปประมาณ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งปรับปรุงพื้นลานวัดโกรกกรากให้ดีขึ้น เพื่อประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชน
นอกจากนี้แล้ว ทางวัดได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อให้ประชาชนได้นำสินค้าพื้นบ้านมาจัดขายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ชุมชน โดยจัดให้มี ตลาดนัดนานาชาติ
0 เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู 0
0 ภาพ ประเสริฐ เทพศรี 0



