
พระอาจารย์ซุ่งเฮง วัดทองย้อย เน้นย้ำ...ธรรมต้องมาจากพระไตรปิฎก
พระอาจารย์ซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน เจ้าอาวาสวัดทองย้อย ต.บ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก ท่านกล่าวแบบออกตัวว่า ชีวิตของอาตมาไม่มีอะไรพิสดารหรอก แต่จริงๆ แล้ววัตรปฏิบัติของท่านน่ายกย่อง และความเป็นมาของท่านก็ไม่ธรรมดา
“ซุ่งเฮง แซ่ตั้ง” เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของพระอาจารย์ซุ่งเฮง เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๐๓ ที่ ต.ป่าขะ อ.บ้านนา จ.นครนายก เป็นบุตรของนายปังไค และนางเหมือน แซ่ตั้ง มีพี่น้องท้องเดียวกันทั้งหมด ๑๒ คน อยู่เมืองจีน ๖ คน อยู่เมืองไทย ๖ คน พระอาจารย์ซุ่งเฮงเป็นบุตรคนที่ ๕
ในวัยเด็ก ท่านได้มาอยู่กับหลวงพ่ออยู่ อาภากโร ซึ่งเป็นเสมือนพ่อบุญธรรมที่วัดทองย้อย และเรียนจบเพียงชั้น ป.๔ จากนั้นก็บรรพชาเป็นสามเณร ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโปร่งไผ่ ในอำเภอเดียวกันประมาณ ๘ เดือน จึงเดินทางไปสำนักสงฆ์เขาราชสีห์ เพื่อเรียนกรรมฐานกับพระภิกษุชาวจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านนั้น
อายุ ๒๒ ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดทองย้อย โดยมี พระครูอาทรสมณวัตร เจ้าอาวาสวัดทองย้อยในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นจึงเดินทางไปศึกษาวิชากรรมฐานเพิ่มเติม กับ พระเทพสิทธิมุนี วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ
ทุกวันนี้ พระอาจารย์ซุ่งเฮงจำวัดอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมอันทรุดโทรม กลางป่าช้าวัดทองย้อย ที่มีอายุเก่าแก่นับ ๑๐๐ ปี สถานที่แห่งนี้ เป็นมุมสงบเหมาะแก่การฝึกจิตปลีกหาความวิเวกในการทำสมาธิ เพราะพระอาจารย์ซุ่งเฮงเคยเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อมาตั้งแต่ยังเป็นสามเณร จึงไม่เกิดความกลัว ยิ่งทำให้จิตเข้าถึงสัจธรรมความจริงของชีวิตที่ว่า คนเราเกิดมาแล้วสุดท้ายก็ไม่พ้นความตาย
เกือบ ๔๐ พรรษา ที่พระอาจารย์ซุ่งเฮงอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านเคร่งครัดอยู่ในพระธรรมวินัยมาก จนได้รับความไว้วางใจจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทองย้อย ทั้งๆ ที่ตัวท่านเองไม่ปรารถนา ปฏิปทาของท่านที่เรียบง่าย ไม่ยึดติดนี่เอง ทำให้ชาวบ้านทั่วไปให้ความเคารพนับถือ
ปัจจุบันนี้ พระอาจารย์ซุ่งเฮงได้รับการนิมนต์ให้ไปเทศนาอบรมสั่งสอนญาติโยม นักเรียน นักศึกษาอยู่เป็นประจำ ท่านกล่าวว่า “ทุกคำสอนต้องมาจากพระไตรปิฎก” ต้องมีหลักฐานอ้างอิง ไม่ขัดแย้งกับหลักพระพุทธเจ้า เพราะปัจจุบันนี้ บางครั้งคำสอนของพระพุทธเจ้ากลายเป็นคำสอนของข้าพเจ้า
บางอาจารย์ยกตัวเองไปสอน กลายเป็นคำสอนของข้าพเจ้า ถามว่าอาจารย์เหล่านี้ตรัสรู้เองได้หรือเปล่า คำสอนของพระองค์มีมากว่า ๒,๕๐๐ ปี ไม่มีสูญสลาย อย่าไปเสริมเติมแต่งเองจนเป็นสัจธรรมปลอม จะนำซึ่งความเสื่อมเสียมาให้พระพุทธศาสนา
ทุกวันนี้ คำสอนแบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ ของพระพุทธเจ้า ต้องอ้างพระไตรปิฎก แต่มีพระจำนวนไม่น้อย เอาคำสอนของข้าพเจ้า ไปตรัสรู้ขึ้นไปปิดเบือนสัจธรรม ส่วนใหญ่จะเพ่งเล็งไปในทางอภินิหาร เอกลาภ หาผลประโยชน์ใส่ตัว ข้อปฏิบัติส่วนหนึ่ง ไมใช่คำสอนพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พุทธวิธี
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิด ในเรื่องการเมือง คนไทยแบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย พระอาจารย์ซุ่งเฮง แนะนำว่า อยากให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องคำพูด ดังที่ พูดคำด่าคำ คนเข็ด พูดเท็จเป็นบาป พูดหยาบแตกร้าว พูดยาวฟังยาก พูดมากเลอะเทอะ พูดเยอะผิดบ่อย พูดถ่อยผิดใจ พูดไวผิดอักขระ โดยให้ทุกคนพูดด้วยความปิยวาจา ไพเราะ อ่อนหวาน สมานสามัคคี มีประโยชน์
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้น พระอาจารย์ซุ่งเฮ็ง บอกว่า มีคาถาหัวใจเศรษฐี ที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน และมีปราชญ์สรุปไว้เป็นคำย่อว่า “อุ อา กะ สะ” ขยันหา รักษาเป็น เว้นเพื่อนชั่ว ไม่มั่วใช้ข่าย โดยแต่ละตัวมีความหมายดังนี้
อุ - มาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา คือ พร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการประกอบสัมมาอาชีพ หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันหา
อา- มาจากคำว่า อารักขสัมปทา คือ การเก็บรักษาทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบธรรม หรือจำง่ายๆ ว่า ขยันเก็บ
กะ - มาจากคำว่า กัลยาณมิตตา คือ การคบหาสมาคมกับคนดีมีคุณธรรม มีน้ำใจ และเป็นเพื่อนที่ไม่พาไปผลาญทรัพย์ หรือจำง่ายๆ ว่า เลือกคบ
สะ - มาจากคำว่า สมชีวิตา คือ การใช้จ่ายอย่างประหยัดพอเพียง ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ฟุ่มเฟือย หรือจำง่ายๆ ว่า เลือกใช้
ร่วมบุญพัฒนาวัด
ปัจจุบัน สถานปฏิบัติธรรมกลางป่าช้าของ พระอาจารย์ซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน เจ้าอาวาสวัดทองย้อย ได้ชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว คณะศิษย์ได้ร่วมกันคิดสร้างหลังใหม่ให้แก่ท่าน เพื่อความเหมาะสมในการต้อนรับญาติโยม ซึ่งต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ท่านออกวัตถุมงคลขึ้นมาชุดหนึ่ง ชื่อว่ารุ่น "เฮง นะ เฮง" ฝังตะกรุดนะโภคทรัพย์มหาจักรพรรดิ ภายในตะกรุดบรรจุไม้ไผ่ตันจารอักขระ มะ อะ อุ
วัตถุมงคลรุ่นนี้ ประกอบด้วย เหรียญรูปไข่, เหรียญสี่เหลี่ยม, พระผงรูปไข่ฝังตะกรุด, พระผงสี่เหลี่ยมฝังตะกรุด ประกอบพิธี ๓ วาระ คือ ๑.ที่วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๒ ๒.ที่พระอุโบสถวัดราชผาติการาม โดย พระเทพโมลี เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ และ ๓.พิธีใหญ่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๓๙ น. พิธีบวงสรวงปลดปล่อยวิญญาณ และเวลา ๑๓.๕๙ น. จุดเทียนชัย
โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง นั่งปรกปลุกเสก ๑๒ รูป ประกอบด้วย ๑.พระเทพโมลี วัดราชผาติการาม ๒.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ๓.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว ๔.หลวงพ่ออาจ วัดเขาแก้ว ๕.หลวงพ่อประเทือง วัดบางกระเบา ๖.หลวงพ่อเกิด วัดโพธิ์แทน ๗.หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม ๘.หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ๙.หลวงพ่อแวว วัดพนัญเชิง ๑๐.พระอาจารย์ณรงค์ชัย วัดเขาคอก ๑๑.พระอาจารย์อ๊อด วัดหนองจระเข้ และ ๑๒.พระอาจารย์ซุ่งเฮง วัดทองย้อย
ในงานมีพิธีเป่ายันต์นารายณ์สยบมาร โดยพระอาจารย์ซุ่งเฮง และ อาจารย์ต๋อย สุภรณ์ ศรีสง่า พราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านพระเวท เสร็จพิธีแจกวัตถุมงคลฟรี แก่ผู้ไปร่วมงานทุกคน สอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดทองย้อย โทร.๐๘-๖๘๓๓-๔๑๒๓ และ ๐๘-๑๓๗๒-๖๕๓๕-๖
"พูดคำด่าคำ คนเข็ด พูดเท็จเป็นบาป พูดหยาบแตกร้าว พูดยาวฟังยาก พูดมากเลอะเทอะ พูดเยอะผิดบ่อย พูดถ่อยผิดใจ พูดไวผิดอักขระ
เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"