
เสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2552
** พบกันที่งานประกวดพระ ที่เมืองคอน วันก่อน สกล จันทรักษ์ นายอำเภอฉวาง จ.นครศรีธรรมราช นายอำเภอนักพัฒนา ผู้สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ท้องถิ่นที่ปกครองมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เป็นนักสะสมพระเครื่องชื่อดังอีกด้วย โดยเฉพาะ พระเมืองคอน อย่างเช่น พระปิดตาดอกจัน อันเป็นพระกรุ สมัยอยุธยา ที่ขุดพบเฉพาะในเมืองนครศรีธรรมราช เท่านั้น เป็นพระเนื้อทองแดงเถื่อน ทุกองค์มี ดอกจัน เป็นสัญลักษณ์ มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่จินตนาการของฝีมือช่างที่ออกแบบ องค์ในภาพนี้มี ดอกจัน ถึง ๕ ดอก เป็นพิมพ์ที่หายากยิ่ง ท่านนายอำเภอสกล ยังมีพระสวยยอดนิยมอีกหลายองค์ จะได้นำมาให้ชมในโอกาสต่อไป
** บรรเทิง บรรดาศักดิ์ (แดง การบินไทย) ผู้ชำนาญการพระเครื่องประเภท พระกริ่ง เคยให้สัมภาษณ์ในคอลัมน์ เส้นทางนักพระเครื่อง ว่า...สาเหตุที่สนใจพระกริ่ง โดยเฉพาะพระกริ่ง สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ ก็เพราะว่า กรรมวิธีในการสร้างพระกริ่งของท่าน เป็นเรื่องที่ทำกันไม่ได้ง่ายๆ เริ่มตั้งแต่การลงแผ่นยันต์อักขระ ๑๐๘ อย่าง แล้วก็ยังมียันต์ ๑๔ นะ ซึ่งต้องลงเหล็กจารขณะกำหนดจิตเป็นสมาธิ องค์พระกริ่งออกแบบพิมพ์ทรงเป็นพิเศษ จำนวนสร้างตามกำลังวัน ไม่ใช่สร้างเอาปริมาณมาก การเททองต้องทำในฤกษ์เท่านั้น แต่ละรุ่นจึงเต็มไปด้วยพิธีกรรมสำคัญมากมาย การสร้างพระกริ่งของท่าน เพื่อแจกผู้ทำคุณประโยชน์เท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อหวังขายเอากำไรแต่อย่างใด จึงมีความศรัทธาตรงนี้มาก และได้เฝ้าติดตามเช่าแต่พระกริ่งสายนี้มาโดยตลอด...
** พระกริ่งสมเด็จพระสังฆราช (แพ) รุ่นหนึ่งที่ แดง การบินไทย มีอยู่ในครอบครอง คือ พระกริ่งน้ำท่วม ปี ๒๔๘๕ (เรียกตามเหตุการณ์ในปีนั้น ซึ่งเป็นปีที่น้ำท่วมใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ) วันนี้ได้รับภาพพระกริ่งรุ่นนี้มาจาก ป๋อง สุพรรณ เป็นพระแท้ดูง่ายอีกองค์หนึ่งที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะองค์นี้มีรอยเหล็กจารถึง ๓ แห่ง คือ ที่หน้าผาก อก และใต้ฐาน ** ทุกวันนี้นอกจากจะเป็นผู้จัดทำนิตยสาร อมตพระเครื่อง และ พุทธคยา แล้ว ป๋อง สุพรรณ ยังได้เปิดเว็บไซต์ของตัวเองอีกด้วย คือ www.amatasiam.com โทร.๐-๒๙๕๒-๕๙๙๗ ใครมีปัญหาเชิญปรึกษาได้ หรือจะหาเช่าพระแท้ที่ดีๆ และมีราคาไม่แพง...ก็ย่อมได้ **
** พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี อีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ คือ รุ่นปี ๒๕๐๘ ซึ่งมีทั้งแบบหลังตัวหนังสือ และหลังเตารีด เนื้อโลหะผสม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่เห็นว่า พระรุ่นหลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ แพงเกินไป เพราะแต่ละองค์เช่าหากันที่หลักหมื่นปลาย ไปจนถึงหลักแสนขึ้นไป ในขณะที่ รุ่นปี ๒๕๐๘ ยังอยู่ที่หลักหมื่นกลาง...วันนี้ จึงขอนำภาพ พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด ปี ๒๕๐๘ มาให้ชมเป็นวิทยาทาน ที่เห็นนี้เรียกว่า พิมพ์หน้าจีน เพราะใบหน้าของ หลวงพ่อทวด ดูเหมือนกับคนจีนนั่นเอง (ตาหยีเฉียงขึ้น ริ้วจีวรเล็ก และถี่กว่ารุ่นปี ๒๕๐๕ รอยตะไบแต่งหลังองค์พระอยู่ในแนวขวาง) พระองค์นี้เป็นของ ฐกร บึงสว่าง ผู้บริหาร บจม.หลักทรัพย์ บัวหลวง ผู้มีมุมมองในการสะสมพระแบบนักลงทุนที่แท้จริง การเช่าหาพระแต่องค์ นอกจากความศรัทธาเลื่อมใสแล้ว ยังมีการคาดการณ์ถึงกระแสนิยมในอนาคตอีกด้วย
** ฐกร บึงสว่าง ให้ความเห็นว่า ในชั่วโมงนี้ พระที่กำลังมาแรงสุดๆ คือ พระหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม โดยเฉพาะเหรียญปล้องอ้อย ปี ๒๕๑๗ ที่จัดสร้างโดย มูลนิธิเพิ่มวิทยา ซึ่งมีพระเครื่องที่สร้างในครั้งนั้นหลากหลายมาก
** พระอีกรุ่นหนึ่งของ หลวงปู่เพิ่ม ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง คือ พระผงขมิ้นเสก ปี ๒๕๐๕ ซึ่ง หลวงปู่เพิ่ม ได้นำ ขมิ้นเสก ของ หลวงปู่บุญ ที่ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ส่วนหนึ่ง กับขมิ้นที่หลวงปู่เพิ่มลงจารและปลุกเสกเองอีกส่วนหนึ่ง บดเป็นผงละเอียด แล้วผสมกับผงพุทธคุณต่างๆ กดพิมพ์เป็นองค์พระ ๕ พิมพ์ คือ พิมพ์พระประธาน พิมพ์สมเด็จ พิมพ์นาคปรก (ตัดขอบสี่เหลี่ยม และขอบมนแบบพระซุ้มกอ) และพิมพ์พระชัยวัฒน์ วันนี้ขอนำภาพ พระผงขมิ้นเสก พิมพ์นาคปรก (แบบพระซุ้มกอ ขนาดองค์พระ ๑.๘x๒.๗ ซม.) มาให้ชมเป็นวิทยาทาน ถือเป็นพระองค์ครูเนื้อครูได้เลย เพราะเช่ามาจากวัดโดยตรง เมื่อครั้งที่ อ.สุธน ศรีหิรัญ ศิษย์หลวงปู่เพิ่ม นำข่าวลงในนิตยสาร ลานโพธิ์ เมื่อปลายปี ๒๕๒๗ เพื่อจะบอกว่า ทางวัดกลางบางแก้วได้พบพระพิมพ์นี้หลงเหลืออยู่ที่วัดจำนวนหนึ่ง จึงได้นำออกให้ทำบุญองค์ละ ๕๐ บาท ปรากฏว่าเพียงวันเดียวพระก็หมดไปจากวัด...พระองค์ในภาพนี้เป็นของ ปุณณวรรธน์ ปัณณวิชญ์ ได้รับมาจากคุณตา ซึ่งได้สะสมพระชุดนี้ไว้ครบทั้ง ๕ พิมพ์ และมีหลายองค์ด้วยกัน เพราะมีความศรัทธาเลื่อมใส หลวงปู่เพิ่ม อยู่ก่อนแล้ว...มาถึงวันนี้ไม่ผิดหวัง พระผงขมิ้นเสก หลวงปู่เพิ่ม แต่ละพิมพ์เช่าหากันถึงหลักหมื่นขึ้นไป !!! **
** เหรียญพระเกจิอาจารย์ รุ่นเก่า อีกเหรียญหนึ่งที่เช่าหากันที่หลักแสน คือ เหรียญหลวงปู่ชู วัดนาคปรก รุ่นแรก ปี ๒๔๗๑ เป็นเหรียญเสมาทรงป้อม ที่ไม่ปรากฏรายละเอียดอื่นใด นอกจากอักขะขอมตัว พุท โธ และตัวหนังสือไทยว่า "ที่ระฤกในการทำบุญอายุครบ ๗๐ ปี" ไม่มีชื่อวัดชื่อหลวงพ่อ และปีที่สร้างเหรียญ แต่ประการใด ด้านหลังเรียบ ไม่มียันต์และตัวหนังสือใดๆ แต่มีรอยบุ๋มลงไปในเนื้อเหรียญ เป็นรูปหลวงพ่อด้านหน้า (ที่เรียกกันว่า "หลังแบบ") ที่วงการนักสะสมต่างรู้จักกันดีว่า นี่คือ เหรียญหลวงปู่ชู วัดนาคปรก บางขุนเทียน ธนบุรี เหรียญนี้เป็นของ ป๋อง สุพรรณ นักสะสมพระเครื่องทุกประเภท
** หลวงปู่ชู หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า พระอธิการชู เป็นชาวนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๑ บิดามีอาชีพค้าขาย มีเรือสินค้าจากนครศรีธรรมราช ขึ้นมาค้าขายที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากที่ จ.ธนบุรี หลวงปู่ชู จึงได้บวชเรียนที่วัดทองนพคุณ อันเป็นสำนักสอนกัมมัฏฐานที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น จนมีความรู้แตกฉาน และได้สร้างพระเครื่องหลายอย่าง อาทิ พระหลวงพ่อโต (รูปพระพุทธ) ทั้งเนื้อโลหะผสม และเนื้อดินเผา ซึ่งเริ่มสร้างเมื่อปี ๒๔๖๐ เพื่อบรรจุกรุในราวปี ๒๔๗๒ แต่ที่นิยมเช่าหากันมาก คือ เหรียญรูปเหมือนปั๊ม ที่เห็นในภาพนี้ **
** หลวงพ่อโบ อินฺทสุวณฺโณ วัดศิลาชลเขต (วัดหิน) อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกท่านหนึ่ง ที่วงการนักสะสมพระเครื่องสายใต้รู้จักกันดี เพราะเป็นผู้มีวิชาอาคมขลัง วัตถุมงคลของท่านจึงมีประสบการณ์ในทุกด้าน โดยเฉพาะรูปหล่อโบราณ ปี ๒๔๘๕ ซึ่งสร้างขึ้นภายหลังจากที่ท่านได้มรณภาพแล้ว (ท่านละสังขาร ปี ๒๔๗๗) โดยคณะศิษย์ได้ทำพิธีสมโภชและปลุกเสกที่วัดสุทัศนฯ กทม. องค์ที่เห็นนี้เป็น พิมพ์นิยม คือ พิมพ์บาตรใหญ่ และ รอยอุดใต้ฐานใหญ่ มีทั้งแบบรมดำ และไม่รมดำ รูปเหมือนรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก แม้ว่าท่านไม่ได้ปลุกเสกเอง แต่เป็นพระที่มีประสบการณ์เพียบ นับเป็นสุดยอดของรูปเหมือนหล่อแห่งเมืองคอนเลยก็ว่าได้ รูปเหมือนหลวงพ่อโบ องค์นี้พิเศษตรงที่มีการแต่งพิมพ์มาเก่าก่อน ตามสมัยนิยม เพราะสมัยนั้น ผู้มีเงินมักจะนำพระเครื่องไปตกแต่งผิวใหม่ เพื่อเพิ่มความสวยงามคมชัดขึ้น เหมือนกับ พระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน แบบแต่งเก่า พระชัยวัฒน์ ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม พระชัยวัฒน์ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ฯลฯ ...เมื่อปี ๒๕๓๖ พระรูปเหมือน หลวงพ่อโบ องค์นี้ ได้รับเกียรติลงในหนังสืองานประกวดพระที่วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นก็หายไปจากวงการ เพิ่งจะปรากฏอีกครั้งเมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา ในมือนักสะสมรุ่นเก่าของเมืองคอนท่านหนึ่ง ปัจจุบันอยู่ในการครอบครองของ หนึ่ง ทุ่งสง คนรุ่นใหม่ใจถึง **
"แล่ม จันท์พิศาโล"